แอสปาร์แตม
แอสปาร์แตม หรือ Aspartame เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล (จัดเป็นวัตถุเจือปนอาหารชนิดหนึ่ง) ซึ่งไม่ให้พลังงาน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aspartyl-phenylalanine-1-methyl ester ซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือกรดอะมิโน 2 ตัวต่อกันได้แก่ กรดแอสปาร์ติก และ ฟีนิลอะลานีน
![]() | |
![]() | |
![]() | |
ชื่อ | |
---|---|
Pronunciation | /ˈæspərteɪm/ or /əˈspɑːrteɪm/ |
IUPAC name
Methyl L-α-aspartyl-L-phenylalaninate
| |
ชื่ออื่น
N-(L-α-Aspartyl)-L-phenylalanine,
1-methyl ester | |
เลขทะเบียน | |
3D model (JSmol)
|
|
2223850 | |
ChEBI | |
ChEMBL | |
เคมสไปเดอร์ | |
ดรักแบงก์ | |
ECHA InfoCard | 100.041.132 |
EC Number |
|
เลขอี | E951 (glazing agents, ...) |
KEGG | |
ผับเคม CID
|
|
UNII | |
CompTox Dashboard (EPA)
|
|
| |
| |
คุณสมบัติ | |
C14H18N2O5 | |
มวลโมเลกุล | 294.307 g·mol−1 |
ความหนาแน่น | 1.347 g/cm3 |
จุดหลอมเหลว | 246.5 องศาเซลเซียส (475.7 องศาฟาเรนไฮต์; 519.6 เคลวิน)[3] |
จุดเดือด | สลายตัว |
ละลายได้ทีละน้อย | |
ความสามารถละลายได้ | ละลายได้น้อยในเอทานอล |
pKa | 4.5–6.0[2] |
ความอันตราย[4] | |
NFPA 704 (fire diamond) | |
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
|
แอสปาร์แตมมีความหวานกว่าน้ำตาลซูโครส (น้ำตาลทราย) ประมาณ 180–200 เท่า ในปัจจุบันผลิตออกจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในยี่ห้อสินค้าต่าง ๆ เช่น "NutraSweet", "Pal Sweet", "Equal", และ "Canderel" แอสปาร์แตมเป็นส่วนประกอบในอาหารสำเร็จรูปและเครื่องดื่มกว่า 5,000 ชนิด ที่วางขายทั่วโลก โดยทั่วไปเราจะใช้แอสปาร์แตมผสมเครื่องดื่ม หรือทำอาหารให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน สำหรับในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่มีแอสปาร์แตมเป็นส่วนประกอบ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้มีคำเตือนบนฉลากของบรรจุภัณฑ์ว่า "ผู้ที่มีสภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย ผลิตภัณฑ์นี้มีฟีนิลอะลานีน" ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมซึ่งไม่สามารถย่อยฟีนิลอะลานีนได้ (ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้ราว 1 คนต่อประชากร 100,000 คน)
โครงสร้างสารของแอสปาร์แตมจะเปลี่ยนไปเมื่อโดนความร้อนและเมื่อเก็บไว้นาน จึงไม่ควรใช้แอสปาร์แตมปรุงอาหารร้อน ๆ และไม่ควรเก็บไว้นาน ๆ
อ้างอิง
แก้- ↑ Budavari S, บ.ก. (1989). "861. Aspartame". The Merck Index (11th ed.). Rahway, NJ: Merck & Co. p. 859. ISBN 978-0-911910-28-5.
- ↑ Rowe RC (2009). "Aspartame". Handbook of Pharmaceutical Excipients. Pharmaceutical Press. pp. 11–12. ISBN 978-1-58212-058-4.
- ↑ Haynes WM, บ.ก. (2016). CRC Handbook of Chemistry and Physics (97th ed.). CRC Press. p. 3.30. ISBN 978-1498754293.
- ↑ "Aspartame". PubChem, National Library of Medicine, US National Institutes of Health. 27 May 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 August 2017. สืบค้นเมื่อ 2 June 2023.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ แอสปาร์แตม