แอสปาร์แตม หรือ Aspartame เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล (จัดเป็นวัตถุเจือปนอาหารชนิดหนึ่ง) ซึ่งไม่ให้พลังงาน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aspartyl-phenylalanine-1-methyl ester ซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือกรดอะมิโน 2 ตัวต่อกันได้แก่ กรดแอสปาร์ติก และ ฟีนิลอะลานีน

แอสปาร์แตม[1]
Aspartame
Ball-and-stick model of aspartame
Aspartame sample.jpg
ชื่อตาม IUPAC Methyl L-α-aspartyl-L-phenylalaninate
ชื่ออื่น N-(L-α-Aspartyl)-L-phenylalanine,
1-methyl ester
เลขทะเบียน
เลขทะเบียน CAS [22839-47-0][CAS]
PubChem 134601
DrugBank DB00168
KEGG C11045
ChEBI 2877
SMILES
 
InChI
 
ChemSpider ID 118630
คุณสมบัติ
สูตรโมเลกุล C14H18N2O5
มวลโมเลกุล 294.3 g mol−1
ความหนาแน่น 1.347 g/cm3
จุดหลอมเหลว

246–247 °C, ข้อผิดพลาดนิพจน์: "–" เป็นอักขระเครื่องหมายวรรคตอนที่ไม่รู้จัก K, ข้อผิดพลาดนิพจน์: "–" เป็นอักขระเครื่องหมายวรรคตอนที่ไม่รู้จัก °F

จุดเดือด

สลายตัว

ความสามารถละลายได้ ใน น้ำ ละลายได้น้อย
ความสามารถละลายได้ ละลายได้น้อยในเอทานอล
pKa 4.5–6.0[2]
ความอันตราย
NFPA 704
NFPA 704.svg
1
1
0
 
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
สถานีย่อย:เคมี

แอสปาร์แตมมีความหวานกว่าน้ำตาลซูโครส (น้ำตาลทราย) ประมาณ 200 เท่า ในปัจจุบันผลิตออกจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในยี่ห้อสินค้าต่าง ๆ, เช่น "NutraSweet", "Pal Sweet", "Equal", และ "Canderel" แอสปาร์แตมเป็นส่วนประกอบในอาหารสำเร็จรูปและเครื่องดื่มกว่า 5000 ชนิด ที่วางขายทั่วโลก โดยทั่วไปเราจะใช้แอสปาร์แตมผสมเครื่องดื่ม หรือทำอาหารให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่มีแอสปาร์แตมเป็นส่วนประกอบ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้มีการเขียนคำเตือนบนฉลากของบรรจุภัณฑ์ว่า "ผู้ที่มีสภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย ผลิตภัณฑ์นี้มีฟีนิลอะลานีน" ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีผิดปกติทางพันธุกรรมที่ไม่สามารถย่อยฟีนิลอะลานีนได้ (ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้ราว 1 คนต่อประชากร 100,000 คน)

โครงสารของแอสปาร์แตมจะเปลี่ยนไปเมื่อโดนความร้อนและเมื่อเก็บไว้นาน จึงไม่ควรใช้แอสปาร์แตมปรุงอาหารร้อน ๆ และไม่ควรเก็บไว้นาน ๆ

อ้างอิงแก้ไข

  1. Budavari S, บ.ก. (1989). "861. Aspartame". The Merck Index (11th ed.). Rahway, NJ: Merck & Co. p. 859. ISBN 978-0-911910-28-5.
  2. Rowe RC (2009). "Aspartame". Handbook of Pharmaceutical Excipients. pp. 11–12. ISBN 978-1-58212-058-4.

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข

  •   วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Aspartame