แอร์วีน ร็อมเมิล
เออร์วีน โยฮันเนิส อ็อยเกน ร็อมเมิล (เยอรมัน: Erwin Johannes Eugen Rommel) สมญา จิ้งจอกทะเลทราย (Wüstenfuchs) เป็นจอมพลที่โด่งดังที่สุดของกองทัพนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง ได้รับความนับถือจากทั้งทหารฝ่ายเดียวกันและข้าศึก
แอร์วีน ร็อมเมิล | |
---|---|
15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1891 – 14 ตุลาคม ค.ศ. 1944 (53ปี)[1] | |
![]() จอมพลเออร์วิน ร็อมเมิล ใน ค.ศ. 1942 (51 ปี) | |
ฉายา/ราชทินนาม | "จิ้งจอกทะเลทราย" |
เกิดที่ | ไฮเดินไฮม์ ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค จักรวรรดิเยอรมัน |
อนิจกรรมที่ | แฮร์ลิงเงิน, นาซีเยอรมนี |
เหล่าทัพ | ![]() |
ปีปฏิบัติงาน | ค.ศ. 1911–1944 |
ยศสูงสุด | จอมพล |
รับใช้ | ![]()
|
บัญชาการ | กองพลพันท์เซอร์ที่ 7 กองทัพน้อยแอฟริกา กองทัพพันท์เซอร์แอฟริกา กองทัพกลุ่มแอฟริกา กองทัพกลุ่มเบ |
การยุทธ | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง |
บำเหน็จ | เหรียญพัวร์เลอเมรีท กางเขนเหล็กกางเขนอัศวินประดับด้วยใบโอ๊กและดาบประดับเพชร กางเขนกล้าหาญ (ออสเตรีย-ฮังการี) |
ร็อมเมิลเป็นนายทหารที่ได้รับการเชิดชูเกียรติขั้นสูงในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยได้รับเหรียญกล้าหาญพัวร์เลอเมรีท สำหรับการปฏิบัติหน้าที่อันกล้าหาญในแนวรบอิตาลี ในสงครามโลกครั้งที่สอง เขามีชื่อเสียงโด่งดังจากการบังคับบัญชากองพลยานเกราะที่ 7 สมญา "กองพลผี" ระหว่างการบุกครองฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1940 หากตำนาน "จิ้งจอกทะเลทราย" ได้มาจากการบังคับบัญชากองกำลังผสมเยอรมนี-อิตาลีในการทัพแอฟริกาเหนือ เขาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการสงครามทะเลทรายผู้สามารถมากที่สุดคนหนึ่งในสงคราม ภายหลังเขาบังคับบัญชากองทัพเยอรมันในการบุกครองนอร์ม็องดีของฝ่ายสัมพันธมิตร
ร็อมเมิลได้รับการนับถือว่าเป็นผู้บัญชาการที่มีมนุษยธรรมสูงและนายทหารมืออาชีพ กองทัพน้อยแอฟริกาในการบังคับบัญชาของเขาไม่เคยถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามเลย ทหารที่ตกเป็นเชลยระหว่างการทัพแอฟริกาของเขามีรายงานว่าถูกปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมด้วยการแบ่งส่วนอาหารเท่ากันทหารนาซีเยอรมันเพราะรอมเมลเขาคิดว่านักโทษควรได้รับสิทธิ์เท่าเทียบกับพลเรือนเยอรมันและมีพลทหารนาซีเยอรมันที่ประจำการที่แอฟรกาเล่าว่า ขณะที่รถของร็อมเมิลติดทราย ร็อมเมิลยังมาช่วยทหาร ยิ่งไปกว่านั้น ร็อมเมิลยังปฏิเสธคำสั่งฆ่าคอมมานโด ทหาร และพลเรือนชาวยิวในทุกเขตสงครามในบังคับบัญชาของเขาด้วยและเขาคิดจะให้ชาวบ้านช่วยเขาจะมีค่าจ้างให้[2]
ช่วงปลายสงคราม ร็อมเมิลถูกเชื่อมโยงกับแผนลับลอบสังหารฮิตเลอร์ เนื่องจากร็อมเมิลมีสถานะเป็นวีรบุรุษแห่งชาติ ฮิตเลอร์จึงต้องการกำจัดเขาอย่างเงียบ ๆ แทนที่จะประหารชีวิตอย่างผู้ร่วมแผนการหลายคน ร็อมเมิลเลือกฆ่าตัวตายโดยใช้ไซยาไนด์เพื่อรักษาชื่อเสียงของเขาจากการไต่สวนและเพื่อแลกกับการที่ครอบครัวจะไม่โดนลงโทษ ฮิตเลอร์จัดงานศพอย่างสมเกียรติ โดยมีการประกาศข่าวว่าร็อมเมิลถูกเครื่องบินสัมพันธมิตรที่นอร์ม็องดียิงบาดเจ็บจนเสียชีวิต ด้วยวัย 53 ปี
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ http://www.history.com/topics/erwin-rommel-erwin
- ↑ AT ROMMEL'S SIDE: The Lost Letters of Hans-Joachim Schraepler Publisher: Frontline Books (September 2009) Language: English ISBN 1-84832-538-X ISBN 978-1-84832-538-8