แขวงสุวรรณเขต
สุวรรณเขต หรือ สะหวันนะเขต (ลาว: ສະຫວັນນະເຂດ สะกด สะหวันนะเขด) เป็นหนึ่งในแขวงของประเทศลาวอยู่ทางตอนกลางของประเทศเป็นแขวงที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศลาว ด้วยพื้นที่ 21,774 ตร.กม มีประชากร 1.037 ล้านกว่าคน จากการสำรวจสำมะโนครัว2561 พลเมืองส่วนใหญ่ร้อยละ70%ทำเกษตรกร และ อุตสาหกรรมต่างๆ ทิศเหนือติดกับ แขวงคำม่วน ทิศใต้ติดกับ แขวงสาละวัน ทิศตะวันออกติดกับ เวียดนามและทิศตะวันตกติดกับ ไทย
แขวงสุวรรณเขต ແຂວງສະຫວັນນະເຂດ | |
---|---|
ร้านอาหารในแม่น้ำโขง | |
![]() แผนที่แขวงสุวรรณเขต | |
![]() แผนที่ประเทศลาวเน้นแขวงสุวรรณเขต | |
พิกัด: 16°32′N 105°47′E / 16.54°N 105.78°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 16°32′N 105°47′E / 16.54°N 105.78°E | |
ประเทศ | ![]() |
เมืองเอก | ไกสอน พมวิหาน |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 21,774 ตร.กม. (8,407 ตร.ไมล์) |
ประชากร (สำมะโนเดือนกรกฎาคม 2561) | |
• ทั้งหมด | 1,037,553 คน |
• ความหนาแน่น | 48 คน/ตร.กม. (120 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+07 |
รหัสไปรษณีย์ | 13000 |
รหัส ISO 3166 | LA-XI |
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ได้มีพิธีเปิดสะพานมิตรภาพ 2 อย่างเป็นทางการ สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก จากเวียดนามถึงพม่า ทำให้แขวงสุวรรณเขตกลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญอีกแห่งของลาว รัฐบาลลาวได้ประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุน
การแบ่งเขตการปกครองแก้ไข
แผนที่ | รหัสเมือง | เมือง (ไทย) | เมือง (ลาว) | เมือง (อังกฤษ) |
---|---|---|---|---|
13-01 | ไกสอน พมวิหาน (เดิม : คันธบุรี) |
ໄກສອນ ພົມວິຫານ (เดิม : ຄັນທະບູລີ) |
Kaysone Phomvihane (เดิม : Khanthabouly) | |
13-02 | อุทุมพร | ອຸທຸມພອນ | Outhoumphone | |
13-03 | อาดสะพังทอง | ອາດສະພັງທອງ | Atsaphangthong | |
13-04 | พีน | ພີນ | Phine | |
13-05 | เซโปน | ເຊໂປນ | Sepone | |
13-06 | นอง | ນອງ | Nong | |
13-07 | ท่าปางทอง | ທ່າປາງທອງ | Thapangthong | |
13-08 | สองคอน | ສອງຄອນ | Songkhone | |
13-09 | จำพอน | ຈຳພອນ | Champhone | |
13-10 | ชนบุรี | ຊົນບຸລີ | Xonnabouly | |
13-11 | ไชยบุรี | ໄຊບູລີ | Xaybuly | |
13-12 | วีรบุรี | ວີລະບຸລີ | Vilabuly | |
13-13 | อาดสะพอน | ອາດສະພອນ | Atsaphone | |
13-14 | ไชยภูทอง | ໄຊພູທອງ | Xayphouthong | |
13-15 | พลาญไชย | ພະລານໄຊ | Phalanxay |
ประวัติแก้ไข
ก่อนสมัยขอมเรืองอำนาจ ดินแดนแถบนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรศรีโคตรบูรหรือศรีโคตรบอง ต่อมาในสมัยขอมเรืองอำนาจเมืองนี้มีชื่อว่า สุวรรณภูมิประเทศ เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ในปี พ.ศ. 2120 ท้าวหม่อมบ่าวหลวง (เจ้าคำโพน) กวานเวียงดงเขยแห่งเมืองน้ำน้อยอ้อยหนูและนางสิมมาหรือเจ้านางสิมผู้เป็นภริยา ได้อพยพผู้คนจากน้ำน้อยอ้อยหนูภาคเหนือของอาณาจักรล้านช้าง ลงมาตั้งหมู่บ้านชื่อว่าบ้านหลวงโพนสิมหรือเมืองโพนสิมเก่า แล้วยกให้เป็นเมืองชื่อว่าเมืองหลวงมหาสุวรรณภูมิคำโพนสิมมาเขตต์ โดยถือเอานิมิตทองคำและภูมิประเทศซึ่งเป็นเนินดินสูงเป็นนามเมือง ห่างจากตัวเมืองสุวรรณเขตปัจจุบันประมาณ 18 กิโลเมตร เส้นทางเดียวกันกับทางไปพระธาตุอิงฮัง วัดพระธาตุอิงฮัง บ้านธาตุอิงฮัง ครั้นถึง พ.ศ. 2185 ท้าวแก้วสิมพลีบุตรชายคนรองได้พาชาวบ้านหลายสิบครอบครัวแยกออกไปตั้งบ้านเมืองใหม่เป็นชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง คือบ้านท่าแฮ่ แล้วสร้างวัดขึ้นโดยอาศัยหินแฮ่ที่มีอยู่มากมายริมน้ำโขงมาเป็นวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ ประวัติการก่อตั้งเมืองสุวรรณเขตยังเกี่ยวพันกับการก่อตั้งจังหวัดมุกดาหารในฝั่งไทย เพราะชาวบ้านที่อพยพมาจากบ้านหลวงโพนสิมได้ข้ามไปตั้งบ้านเรือนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง จากนั้นท้าวแก้วสิมพลีจึงก่อตั้งเมืองมุกดาหารขึ้นที่ปากห้วยบังมุก โดยออกนามเมืองว่ามุกดาหารบุรีศรีมุตติกนคร โดยถือเอานิมิตหอยกาบมุกที่ปากห้วยบังมุกเป็นนามเมือง คนทั่วไปเรียกว่าเมืองบังมุก ส่วนพี่ชายของท้าวแก้วสิมพลีนั้นชื่อว่า ท้าวคำสิงห์ ได้อพยพชาวบ้านไปสร้างบ้านท่าสะโน (สะโหน) แล้วข้ามแม่น้ำโขงไปตั้งบ้านชะโนด (สะโนด) ในอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหารปัจจุบัน ชาวเมืองจึงนับถือกันว่าเมืองหลวงโพนสิม เมืองคันธบุรี เมืองมุกดาหาร บ้านสะโนและบ้านชะโนดนั้นเป็นพี่น้องเผ่าพันธุ์เดียวกัน เมื่อท้าวหม่อมบ่าวหลวงผู้เป็นบิดาได้เสียชีวิตลง ชาวบ้านจึงตั้งให้ท้าวหลวงท่อมเป็นเจ้าเมืองโพนสิมองค์ที่ 2 โดยมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างเบาบางไม่ถึงร้อยหลังคาเรือน หลัง พ.ศ. 2256 สมเด็จพระเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธางกูรหรือเจ้าหน่อกษัตริย์ ได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้านครจำปาศักดิ์พระองค์แรกจากราชวงศ์เวียงจันทน์ พระองค์ได้โปรดฯ ให้เจ้าจารย์จันทสุริยวงศ์แห่งราชวงศ์เวียงจันทน์ซึ่งเป็นศิษย์คนสำคัญของเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก และมีศักดิ์เป็นพระโอรสของเจ้าศรีวิชัย เป็นพระราชนัดดาของเจ้าศรีวรวังโส และเป็นพระราชปนัดดาในสมเด็จพระเจ้าโพธิสาลราชแห่งนครหลวงพระบาง ไปปกครองเมืองหลวงโพนสิมร้างอยู่หลายสิบปี โดยมีเมืองพิน เมืองนอง เมืองตะโปน (เซโปน) เป็นเมืองขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2310 เจ้าจันทกินรีหรือเจ้ากินรีพระโอรสของเจ้าจารย์จันทสุริยวงศ์ ได้อพยพผู้คนจากเมืองโพนสิมมาสร้างเมืองบังมุกร้าง ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นเมืองที่ท้าวแก้วสิมพลีปกครองมาก่อน จากนั้นเจ้ากินรีจึงได้เสวยราชย์เป็นเจ้าเมืองมุกดาหารพระองค์แรกจากราชวงศ์เวียงจันทน์ เฉลิมพระนามว่าเจ้าพระยาศรีสุราชอุปราชามันธาตุราช และตั้งชื่อเมืองว่ามุกดาหารบุรีศรีสัตตตาลนคร โดยถือเอานิมิตแก้วมุกดาหารที่เสด็จลอยออกมาจากต้นตาลเจ็ดยอดในเวลากลางคืนเป็นนามเมือง[ต้องการอ้างอิง]
ในเขตตัวเมืองสุวรรณเขตปัจจุบันแต่เดิมมีหมู่บ้านหนึ่งเรียกกันว่า บ้านท่าแฮ่ (ท่าแร่) เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ ทองคำ และนัยว่าอุดมด้วยหินแฮ่ จึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นที่มาของชื่อแขวงสุวรรณเขตด้วย คำว่าสุวรรณเขตนั้นมาจากคำว่า สุวรรณ หรือ สุวัณฺณ แปลว่าทอง ซึ่งคนลาวเรียกว่าคำ รวมกับคำว่า เขต หรือ เขตฺต ที่แปลว่าเขตแดนหรือดินแดน ดังนั้นคำว่า สุวรรณเขต จึงหมายถึงดินแดนแห่งทองคำ นอกจากนี้ ในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาตั้งศูนย์กลางการปกครองอาณานิคมบริเวณตอนกลางของลาวนั้น ฝรั่งเศสได้อาศัยการตั้งชื่อแขวงสุวรรณเขตนี้จากหมู่บ้านที่ชื่อว่า บ้านนาคำ อย่างไรก็ตาม ชนชั้นปกครองแขวงสุวรรณเขตในสมัยอาณานิคมได้เลือกใช้คำศัพท์คำว่า สวรรค์ (สะหวัน) แทนคำว่า สุวรรณ จึงทำให้แขวงสุวรรณเขตได้ชื่อว่าสวรรค์ณเขต (สะหวันนะเขต) ซึ่งแปลว่าดินแดนแห่งสวรรค์มาแต่บัดนั้น ในปัจจุบันคนลาวไม่เรียกแขวงสะหวันนะเขตว่าสุวรรณเขตอีกแล้ว มีแต่เพียงเอกสารเก่าของลาวเท่านั้นที่เรียกชื่อเมืองนี้ว่า สุวรรณเขต[ต้องการอ้างอิง]
หลังจากลาวตกเป็นประเทศอาณานิคมแล้ว ฝรั่งเศสได้สร้างเมืองสุวรรณเขตให้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองที่สำคัญแห่งหนึ่งของลาวตอนกลาง พร้อมทั้งวางผังเมืองใหม่ โดยตั้งท้าววรกุมาร (ปุ้ย) นายด่านบ้านผักขยานากุดจาน เมืองอาดสะพังทอง ซึ่งเคยเป็นอดีตกรมการเก่าเมืองมุกดาหาร ให้เป็น พญาปุ้ย เจ้าเมืองสุวรรณเขตคนแรก และตั้ง ท้าวฮ่อม หลานชายของพระอมรฤทธิธาดา (กุ) เจ้าเมืองพาลุกากรภูมิ (เมืองตาลุกะหรือบ้านบังทราย) ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงขึ้นเป็นเจ้าเมืองคันธบุรีคนแรก ต่อมาหลังจากนั้นไม่นานได้มีการตั้งเมืองคันธบุรีเป็นเมืองหลวงของแขวงสุวรรณเขต เมืองหลวงของแขวง ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น เมืองไกสอน พมวิหาน สำหรับเมืองคันธบุรีนี้ เดิมเคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านข้าโอกาสกัลปนาเพื่อปลูกสวนดอกไม้ไว้สำหรับเก็บมานมัสการพระธาตุอิงฮัง หมู่บ้านนั้นชื่อว่า บ้านดงดอกไม้ เมื่อมีการตั้งบ้านดงดอกไม้ขึ้นเป็นเมือง จึงใช้ชื่อว่า เมืองคันธบุรี แปลว่าเมืองที่มีแต่กลิ่นหอมของดอกไม้นั่นเอง[ต้องการอ้างอิง]
ประชากรแก้ไข
ชนเผ่าในแขวงสุวรรณเขตมีทั้งหมด 8 ชนเผ่า ได้แก่ เผ่าลาว, เผ่าผู้ไท, เผ่ามังกอง (มะกอง), เผ่าตะโอ้ย, เผ่าปะโกะ, เผ่าส่วย, เผ่ากะตาง, เผ่าตรี{{[ต้องการอ้างอิง]
สถานที่ท่องเที่ยวแก้ไข
- วัดพระธาตุโพ่น
- วัดพระธาตุอิงฮัง
- วัดรัตนรังษี
- วัดไชยสมบูรณ์
- สะพานมิตรภาพ 2
- วัดเจ้า
- ปราสาทเฮือนหิน
- อนุสาวรีย์ท่านกุ วรวงศ์
- ตลาดสิงคโปร์
- โบสถ์เซนต์เทเรซ่า
- เซโปน
- ป่าสงวนภูช้างแห
- พิพิธภัณฑ์แขวงสุวรรณเขต
- พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์
- ถนนสีเมือง
- ลานพญานาค ริมโขง วัดชัยภูมิ
- ศาลหลักเมืองแขวงสุวรรณเขต
เทศกาลและงานประเพณีประจำปีแก้ไข
การคมนาคมแก้ไข
ทางหลวงแก้ไข
- ทางหลวงหมายเลข 13 เชื่อมต่อกับแขวงคำม่วน แขวงบอลิคำไซ นครหลวงเวียงจันทน์ แขวงสาละวัน และแขวงจำปาศักดิ์
- ทางหลวงหมายเลข 9 จากตะวันตกสู่ตะวันออก ระหว่างแขวงสุวรรณเขตไปยังดานัง เวียดนาม
ท่าอากาศยานแก้ไข
ด่านพรมแดนที่สำคัญแก้ไข
- ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 เปิด 06.00–22.00 น.
- ด่านพรมแดนสุวรรณเขต-มุกดาหาร เปิด 06.00–18.00 น.
- ด่านพรมแดนแดนสะหวัน-ลาวบาว เปิด 07.00–18.00 น.
คมนาคมแก้ไข
- เส้นทางหมายเลข 9 เป็นเส้นทางเชื่อมเศรษฐกิจ ทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก หรือ EWEC.
- เส้นทางหมายเลข 13 เป็นเส้นทางตัดผ่านแต่เหนือถึงใต้
การเดินทางแก้ไข
- เที่ยวบินจาก แขวงสุวรรณเขต หา นครหลวงเวียงจันทร์
- เที่ยวบินจาก แขวงสุวรรณเขต หา ปากเซ แขวงจำปาศักดิ์
- เที่ยวบินจาก แขวงสุวรรณเขต หา ดานัง เวียดนาม
- เที่ยวบินจาก แขวงสุวรรณเขต หา บางกอก ไทย
จากจังหวัดมุกดาหาร ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 แล้วให้นั่งรถสองแถวหรือรถสามล้อมาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นให้มาติดต่อทำหนังสือเดินทางและซื้อตั๋วเรือข้ามแม่น้ำโขงที่นี่ โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที ก็จะถึงแขวงสุวรรณเขตหรือมาโดยรถโดยสารประจำทาง ที่หมอชิต 2 มีรถโดยสารไปจังหวัดมุกดาหารทุกวัน โทรศัพท์ 0 2936 2841-8, 0 2936 2852-66 เมื่อมาถึงสถานีขนส่ง แล้วให้นั่งรถสองแถวหรือรถสามล้อมาด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นให้มาติดต่อทำหนังสือเดินทางและซื้อตั๋วเรือข้ามแม่น้ำโขงที่นี่ ก็จะถึงเมืองแขวงสุวรรณเขต
ดูเพิ่มแก้ไข
อ้างอิงแก้ไข
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
- สัญญา ชีวะประเสริฐ. (2555). ความทรงจำของเมืองสองฝั่งแม่น้ำโขง: มุกดาหาร และสะหวันนะเขด. วารสารประวัติศาสตร์ (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ). หน้า 49-60.
- ธวัชชัย พรหมณะ. (2545). ความสำคัญของการอพยพเคลื่อนย้ายกลุ่มชาติพันธุ์ในลุ่มแม่น้ำโขงต่อความเป็นเมืองสุวรรณเขต ระหว่าง ค.ศ. 1893-1954. สารนิพนธ์ ศศ.ม. (ประวัติศาสตร์เอเชีย). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ดูได้ที่ http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/His%28M.A.)/Thawatchai_P.pdf
บทความเกี่ยวกับประเทศ ดินแดน หรือเขตการปกครองนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |