เอลิซาเบธแห่งเวดส์ สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย

เอลิซาเบธแห่งเวดส์ สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย (29 ธันวาคม พ.ศ. 2386 - 3 มีนาคม/2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459) พระนามเดิมคือ เจ้าหญิงพอลีน เอลิซาเบธ ออตติลี หลุยส์ ซู วีด ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนียโดยเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย พระนางทรงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในด้านวรรณกรรมโดยทรงมีนามปากกาว่า "คาร์เมน ซิลวา"(Carmen Sylva) ทรงก่อตั้งองค์กรการกุศลขึ้นมากมาย ชาวโรมาเนียจึงให้พระสมัญญาว่า "Mama răniților" และชาวโรมาเนียมักจะเรียกพระนางว่า "พระราชินีคาร์เมน ซิลวา" ตามนามปากกาของพระนางมากกว่าเรียกพระนามจริง

เอลิซาเบธแห่งเวดส์ สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย

พอลีน เอลิซาเบธ ออตติลี หลุยส์ ซู วีด

สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธแห่งโรมาเนีย
เจ้าหญิงพอลีน เอลิซาเบธแห่งวีด
เจ้าหญิงแห่งสหพันธ์ราชรัฐ พระชายาในองค์อธิปัตย์แห่งโรมาเนีย
สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย
สมเด็จพระพันปีหลวงแห่งโรมาเนีย
ประสูติ29 ธันวาคม พ.ศ. 2386
ปราสาทชลูส์ มองเรปอส,เนาวีด,ประเทศเยอรมนี
สวรรคต3 มีนาคม/2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459
เคอเทีย เดอ อาร์เกส,บูคาเรสต์,ประเทศโรมาเนีย
(พระชนมายุ 72 พรรษา)
พระราชสวามีสมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย
พระราชบุตรเจ้าหญิงมาเรียแห่งโรมาเนีย

สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธแห่งโรมาเนีย
ราชวงศ์วีด-เนาวีด
โฮเฮนโซเลน-ซิกมารินเกน
พระราชบิดาเจ้าชายเฮอร์มันด์ เจ้าชายแห่งเวดส์
พระราชมารดาเจ้าหญิงมารีแห่งนัสเซา

ช่วงต้นพระชนม์ชีพและพระราชวงศ์ แก้

เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งวีดประสูติที่ปราสาทชลูส์ มองเรปอส เมืองเนาวีด ในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2386 เป็นพระราชธิดาองค์โตในเจ้าชายเฮอร์มันด์ เจ้าชายแห่งเวดส์กับเจ้าหญิงมารีแห่งนัสเซา เจ้าหญิงมารี พระมารดาของเจ้าหญิงเอลิซาเบธเป็นพระราชธิดาในวิลเฮล์ม ดยุคแห่งนัสเซากับเจ้าหญิงหลุยส์แห่งแซ็กซ์-ฮิลด์บูร์กเฮาเซน เจ้าหญิงมารีทรงมีศักดิ์เป็นพระขนิษฐาในแกรนด์ดยุกอดอล์ฟแห่งลักเซมเบิร์กและเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสวีเดนและนอร์เวย์ เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงสนพระทัยในการศึกษาด้านศิลปะ เมื่อทรงพระเยาว์เจ้าหญิงเอลิซาเบธมีพระอุปนิสัยที่สุภาพเรียบร้อยและเสด็จเยี่ยมสถานสงเคราะห์คนวิกลจริตในท้องถิ่นบ่อย ๆ

แก้

อภิเษกสมรสและสมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย แก้

 
สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 ,พระนางเอลิซาเบธและเจ้าหญิงมาเรีย พระธิดา ในปีพ.ศ. 2416

เมื่อมีพระชนมายุ 16 ชันษา เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงถูกพิจารณาให้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายเบอร์ตี้ หรืออัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งในเวลาต่อมาคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร พระราชมารดาของเจ้าชายคือสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร พระนางได้พยายามสนับสนุนให้เจ้าหญิงเอลิซาเบธเป็นพระสุณิสาและทรงเร่งให้เจ้าหญิงวิกกี้หรือเจ้าหญิงวิกตอเรีย พระราชกุมารีดูแลเจ้าหญิง [1] เจ้าหญิงเอลิซาเบธถูกเรียกมาประทับที่ราชสำนักเบอร์ลิน ที่ซึ่งพระบิดามารดาของเจ้าหญิงทรงหวังให้เจ้าหญิงถูกอบรมด้านมารยาทต่าง ๆ ในราชสำนักเบอร์ลินเพื่อเตรียมการอภิเษกสมรส เจ้าหญิงวิกกี้ทรงตอบกับข้าราชสำนักว่า "ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและนั่นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับรสนิยมของเบอร์ตี้อย่างแน่นอน" ในขณะที่เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์กมีพระวรกายสูงโปร่งและผอมเพรียวซึ่งลักษณะเหล่านี้"เป็นลักษณะที่เบอร์ตี้ชื่นชอบมาก"[1] เจ้าชายเบอร์ตี้ทรงถูกทำให้พบเห็นพระฉายาลักษณ์ของเจ้าหญิงเอลิซาเบธแต่พระองค์ได้ถือพระฉายาลักษณ์เฉยๆและวางลงโดยทรงชำเลืองมองเพียงสองครั้ง[2] ในที่สุดเจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์กจึงถูกเลือกให้เป็นพระชายาของเจ้าชายเบอร์ตี้

เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงพบกับเจ้าชายคาร์ล เอเทล ฟรีดิช เซฟีรินัส ลุดวิกแห่งโฮเฮนโซลเลิร์น-ซิกมาริงเง็นซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย ณ กรุงเบอร์ลิน ในปีพ.ศ. 2404 และได้อภิเษกสมรสกับพระองค์ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2412 ที่เมืองเนาวีด การอภิเษกสมรสครั้งนี้เป็นหนึ่งในการอภิเษกสมรสที่ไม่เหมาะสมที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยที่เจ้าชายคาโรลมีพระบุคลิกที่สุขุม เยือกเย็นและรอบคอบ ในขณะที่เจ้าหญิงเอลิซาเบธมีพระบุคลิกช่างฝันและทรงแสดงออกอย่างเปิดเผย มีพระราชธิดาร่วมกันหนึ่งพระองค์คือ เจ้าหญิงมาเรียแห่งโรมาเนีย ซึ่งสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุเพียง 3 ชันษาด้วยโรคไข้ดำแดง เจ้าหญิงเอลิซาเบธเสียพระทัยอย่างหนักในการสูญเสียพระราชธิดาทรงผลให้เกิดแผลในจิตใจตลอดพระชนม์ชีพ พระนางทรงกันแสงทุกคืนและส่งผลให้ทั้งสองพระองค์ทรงห่างเหินกันมากขึ้นเนื่องจากต่างโทษกันและกันว่าเป็นต้นเหตุให้พระธิดาสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลทรงได้รับการกล่าวถึงพระอุปนิสัยที่เยือกเย็น พระองค์ทรงยึดมั่นอย่างถาวรในเกียรติยศของพระราชวงศ์ที่พระองค์ทรงสถาปนาขึ้น พระนางเอลิซาเบธทรงกล่าวว่า "พระองค์ทรงสวมมงกุฎแม้กระทั่งทรงพระบรรทม"

ในสงครามรัสเซีย-ตุรกี (1877 - 1878) พระนางเอลิซาเบธทรงอุทิศพระองค์เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและทรงตั้งเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเอลิซาเบธ (ไม้กางเขนสีทองบนริบบิ้นสีน้ำเงิน) เพื่อเป็นรางวัลและเกียรติแก่การบริการด้านต่าง ๆ พระนางทรงอุปถัมภ์การให้การศึกษาในระดับที่สูงแก่สตรีชาวโรมาเนีย และทรงก่อตั้งสมาคมการกุศลต่าง ๆ

อัจฉริยภาพของพระนางที่โดดเด่นในช่วงแรกคือการที่ทรงเป็นนักเปียโน,นักออร์แกนและนักร้อง พระนางได้แสดงความสามารถในด้านการวาดภาพและการลงสี แต่การที่ทรงมีจินตนาการสูงเป็นการนำทางให้พระนางสนพระทัยด้านกวีนิพนธ์และโดยเฉพาะการประพันธ์บทกวี, นิทานพื้นบ้านและลำนำนิทาน นอกจากการทรงงานด้านต้นฉบับมากมายพระนางทรงเพิ่มเติมวรรณกรรมมากมายในตำนานต่าง ๆ ของชาวโรมาเนีย

ผลงานด้านการประพันธ์ แก้

 
พระนางเอลิซาเบธขณะทรงพระนิพนธ์งานการประพันธ์

พระนางทรงใช้นามปากกา "คาร์เมน ซิลวา" พระนางทรงพระนิพนธ์โดยใช้ภาษาเยอรมัน,ภาษาโรมาเนีย,ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ ส่วนหนึ่งของงานพระราชนิพนธ์ของพระนางซึ่งมีมากมายที่ซึ่งรวมทั้งบทกลอน, บทละคร, นวนิยาย, เรื่องสั้น, บทความ, คติพจน์ต่าง ๆ เป็นต้น ได้ถูกคัดเลือกและได้รับการกล่าวถึงอย่างเป็นพิเศษได้แก่

  • ผลงานสิ่งพิมพ์ช่วงต้น ๆ ของพระนางได้แก่เรื่อง "Sappho" และ "Hammerstein" สองบทกลอนนี้ได้รับการเผยแพร่ที่เมืองไลพ์ซิจในปีพ.ศ. 2423
  • ในปีพ.ศ. 2431 พระนางทรงได้รับรางวัลพริกซ์ บ็อตตา ซึ่งเป็นรางวัลที่มีการมอบรางวัลทุกๆสามปีโดยราชบัณฑิตยสภาฝรั่งเศส พระนางทรงได้รับจากผลงานความเรียงคติพจน์ของพระนางชื่อว่า "Les Pensees d'une reine"(ในความคิดของพระราชินี) ซึ่งตีพิมพ์ที่กรุงปารีสในปีพ.ศ. 2425 ตีพิมพ์ในภาษาเยอรมันในชื่อว่า "Vom Amboss"(จากทั่งตีเหล็ก) ซึ่งตีพิมพ์ที่กรุงบอนน์ในปีพ.ศ. 2433
  • เรื่อง "Cuvinte Sufletesci"(คำมโนมัย) เกี่ยวกับการทำสมาธิทางศาสนาในโรมาเนีย ตีพิมพ์ที่กรุงบูคาเรสต์ในปีพ.ศ. 2431 ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาเยอรมันตีพิมพ์ที่กรุงบอนน์ พ.ศ. 2433 โดยมีชื่อว่า "Seelen-Gespräche"(ชีวิตเจรจา)

หลากหลายงานประพันธ์ของ "คาร์เมน ซิลวา" ได้ประพันธ์ร่วมกับไมที เครมนิทส์ ชาวเยอรมันซึ่งเป็นหนึ่งในนางสนองพระโอษฐ์ ผลงานเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์ระหว่างปีพ.ศ. 2424 และพ.ศ. 2431 ซึ่งบางครั้งใช้นามปากการ่วมกันในชื่อ "ดิโต เอท อิเดม"(Dito et Idem) ที่ซึ่งได้แก่

  • Aus zwei Welten (แห่งสองโลก) ตีพิมพ์ที่ไลพ์ซิจในปีพ.ศ. 2427 เป็นนวนิยาย
  • Anna Boleyn (พระนางแอนน์ โบลีน) ตีพิมพ์ที่บอนน์ในปีพ.ศ. 2429 เป็นเรื่องโศกนาฏกรรม
  • In der Irre (ในการหลงทาง) ตีพิมพ์ที่บอนน์ในปีพ.ศ. 2431 เป็นเรื่องสั้น
  • Edleen Vaughan, or Paths of Peril (เอ็ดลีน ว็อกฮาน หรือเส้นทางแห่งภัย) ตีพิมพ์ที่ลอนดอนในปีพ.ศ. 2437 เป็นนวนิยาย
  • Sweet Hours (ชั่วโมงที่แสนหวาน) ตีพิมพ์ที่ลอนดอนในปีพ.ศ. 2447 เป็นบทกวีในภาษาอังกฤษ

รวมทั้งผลงานการแปลของ"คาร์เมน ซิลวา" ได้แก่

  • นิยายรักโรแมนติกของปิแยร์ โลติ เรื่อง Pecheur d'Islande (ชาวประมงแห่งไอซ์แลนด์) ในฉบับภาษาเยอรมัน
  • บทวิจารณ์ละครของปอล เดอ แซงต์ วิกเตอร์ เรื่อง Les Deux Masques (สองหน้ากาก) ในฉบับภาษาเยอรมัน ตีพิมพ์ที่กรุงปารีส พ.ศ. 2424 - 2427
  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง The Bard of the Dimbovitza (กวีแห่งดิมบอวิตซา) งานประพันธ์บทเพลงพื้นบ้านโรมาเนียของ อีลีนา วาคาเรสคู แปลเป็นภาษาเยอรมันในชื่อ Lieder aus dem Dimbovitzathal (บทเพลงแห่งดิมบอวิตซา) ตีพิมพ์ที่บอนน์ในปีพ.ศ. 2436 แปลโดย "คาร์เมน ซิลวา" และอัลมา สเตรเตล เรื่องกวีแห่งดิมบอวิตซาได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2439 และได้รับการตีพิมพ์ใหม่อีกหลายครั้ง โดยเป็นภาษาอังกฤษและอาร์เมเนียน

กรณีอื้อฉาววาคาเรสคู แก้

 
สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธแห่งโรมาเนียและเจ้าหญิงมาเรีย พระธิดาเพียงพระองค์เดียว

ในปีพ.ศ. 2441 จากวิกฤตการขาดรัชทายาทสืบราชสมบัติ สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 จึงทรงรับอุปการะพระนัดดาคือ เจ้าชายเฟอร์ดินานด์แห่งโฮเฮนโซเลิร์น-ซิกมาริงเง็นเป็นพระโอรสบุญธรรม เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ซึ่งย้ายมายังดินแดนแห่งใหม่ทรงเริ่มสนิทสนมกับหนึ่งในนางสนองพระโอษฐ์ของพระราชินีเอลิซาเบธคือ อีลีนา วาคาเรสคู พระนางเอลิซาเบธทรงสนิทกับวาคาเรสคูด้วยเช่นกันและพระองค์ได้พยายามให้ทั้งคู่ชอบพอกันถึงแม้ว่าพระนางจะทราบว่าการอภิเษกสมรสของทั้งคู่จะเป็นข้อห้ามในรัฐธรรมนูญโรมาเนีย (ในรัฐธรรมนูญโรมาเนียฉบับปีพ.ศ. 2409 บัญญัติไว้ว่าองค์รัชทายาทห้ามอภิเษกสมรสกับชาวโรมาเนีย)

จากกรณีอื้อฉาวนี้ทำให้เกิดการต่อต้านจากสภาและส่งผลให้พระนางเอลิซาเบธจำต้องเสด็จลี้ภัยไปยังเนาวีด ส่วนอีลีนา วาคาเรสคูต้องลี้ภัยไปยังปารีส ตลอดจนการเสด็จประพาสประเทศต่างๆทั่งยุโรปของเจ้าชายเฟอร์ดินานด์เพื่อแสวงหาพระชายาในอนาคต และพระองค์ก็ได้พบกับเจ้าหญิงมารีแห่งเอดินบะระ พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร หลังจากการอภิเษกสมรสพระนางเอลิซาเบธจึงได้รับอนุญาตให้เสด็จกลับโรมาเนีย จากกรณีครั้งนี้ส่งผลช่วยให้บุคคลทั่วไปบรรยายถึงพระนางเอลิซาเบธว่ามีพระบุคลิกช่างฝันและชอบฝ่าฝืนกฎเกณฑ์

สมเด็จพระราชินีผู้นิยมสาธารณรัฐ แก้

ค่อนข้างที่จะไม่ปกติสำหรับผู้ดำรงเป็นสมเด็จพระราชินี พระนางเอลิซาเบธมีพระบุคลิกและทั้ศนคติโน้มไปทางสาธารณรัฐนิยมมากกว่าระบอบกษัตริย์ ซึ่งเป็นทัศนคติที่ทรงบันทึกอย่างตรงไปตรงมาในพระอนุทินหรือบันทึกส่วนพระองค์ อย่างไรก็ตามพระนางก็มิได้เผยแพร่ทัศนคตินี้สู่สาธารณะ โดยทรงบันทึกว่า

 
สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 และพระราชินีเอลิซาเบธในบั้นปลายพระชนม์ชีพ

ความคิดอ่านของพระนางแสดงเห็นว่าทรงมีทัศนคติที่แตกต่างจากพระสวามีโดยสิ้นเชิง ซึ่งพระสวามีของพระนางนั้นทรงนิยมระบอบกษัตริย์ ทรงพยายามอย่างยิ่งในการรักษาพระราชอำนาจเต็มของพระมหากษัตริย์

บั้นปลายพระชนม์ชีพ สมเด็จพระพันปีหลวงและสวรรคต แก้

 
พระราชินีเอลิซาเบธทรงฉายภาพกับเด็กสาวตาบอดซึ่งอยู่ในพระราชินูปถัมภ์ในโครงการสงเคราะห์คนตาบอดของพระนาง

ในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพ พระราชาธิบดีคาโรลและพระราชินีเอลิซาเบธได้พยายามปรับความสัมพันธ์กันโดยทรงเข้าพระทัยและให้อภัยซึ่งกันและกัน ทั้งสองพระองค์กลายเป็นมิตรที่ดีต่อกันในบั้นปลายพระชนม์ชีพ สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2457 (27 กันยายน พ.ศ. 2457 ตามปฏิทินฉบับเก่า) พระราชนัดดาได้สืบราชสมบัติต่อโดยมีพระนามว่า สมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งโรมาเนีย พระนางเอลิซาเบธได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระพันปีหลวง พระนางทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางการกุศลอย่างมากมายได้แก่ ทรงก่อตั้งองค์การสงเคราะห์คนตาบอดในพระราชินูปถัมภ์ของพระนางและทรงอุปถัมภ์ศิลปะ การดนตรีและวรรณคดีของโรมาเนีย

พระนางเอลิซาเบธสวรรคตในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2459 (2 มีนาคม พ.ศ. 2459 ตามปฏิทินฉบับเก่า) ที่ เคอเทีย เดอ อาร์เกส,กรุงบูคาเรสต์,ประเทศโรมาเนีย สิริพระชนมายุ 72 พรรษา ทรงสวรรคตก่อนที่ประเทศโรมาเนียจะประกาศสงครามกับเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 1 เพียงไม่กี่วัน

พระธิดา แก้

  พระนาม ประสูติ สิ้นพระชนม์ คู่สมรสและพระโอรส-ธิดา
  เจ้าหญิงมาเรียแห่งโรมาเนีย 18708 กันยายน
พ.ศ. 2413
18749 เมษายน
พ.ศ. 2417
ไม่ได้อภิเษกสมรส
สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์

พระอิศริยยศ แก้

  • 29 ธันวาคม พ.ศ. 2386 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2412: เจ้าหญิงพอลีน เอลิซาเบธแห่งวีด
  • 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2412 - 26 มีนาคม พ.ศ. 2424: เจ้าหญิงแห่งสหพันธ์ราชรัฐ พระชายาในองค์อธิปัตย์แห่งโรมาเนีย
  • 26 มีนาคม พ.ศ. 2424 - 27 กันยายน พ.ศ. 2457: สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย
  • 27 กันยายน พ.ศ. 2457 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2459: สมเด็จพระพันปีหลวงแห่งโรมาเนีย

พระราชตระกูล แก้

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
16. เจ้าชายโยฮันน์ ฟรีดิช อเล็กซานเดอร์แห่งวีด
 
 
 
 
 
 
 
8. เจ้าชายฟรีดิช คาร์ลแห่งวีด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
17. เบอร์เกรฟวีนแคโรไลน์แห่งเคิร์ชเบิร์ก
 
 
 
 
 
 
 
4. เจ้าชายโยฮันน์ ออกุสต์ คาร์ลแห่งวีด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
18. ลุดวิก เฟอร์ดินานด์ เคานท์แห่งซายน์-วิตเกนสไตน์-เบอเลเบิร์ก
 
 
 
 
 
 
 
9. เคานท์เตสมารีแห่งซายน์-วิตเกนสไตน์-เบอเลเบิร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
19. เคานท์เตสเฟรเดอริเกแห่งยีเซนบูร์กและบือดินเง็น
 
 
 
 
 
 
 
2. เจ้าชายเฮอร์มานน์แห่งวีด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
20. เจ้าชายเฟอร์ดินานด์แห่งซอล์ม-บราวน์เฟล
 
 
 
 
 
 
 
10. เจ้าชายวิลเฮล์มแห่งซอล์ม-บราวน์เฟล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
21. เคานท์เตสโซฟีแห่งซอล์ม-เลาบาร์ช
 
 
 
 
 
 
 
5. เจ้าหญิงโซฟี ออกุสเตแห่งซอล์ม-บราวน์เฟล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
22. คาร์ล เคานท์แห่งซาล์ม-กลัมบาร์ช
 
 
 
 
 
 
 
11. เคานท์เตสออกุสเต ฟรานซิลกาแห่งซาล์ม-กลัมบาร์ช
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
23. เจ้าหญิงเอลิซาเบธ คริสเทียเนแห่งไลนินเกน
 
 
 
 
 
 
 
1. เอลิซาเบธแห่งวีด สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
24. เจ้าชายชาร์ลส์ คริสเตียนแห่งนัสเซา-ไวล์บวร์ก
 
 
 
 
 
 
 
12. เจ้าชายเฟรเดอริค วิลเลียมแห่งนัสเซา-ไวล์บวร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
25. เจ้าหญิงแคโรไลนาแห่งออเรนจ์-นัสเซา
 
 
 
 
 
 
 
6. วิลเฮล์ม ดยุคแห่งนัสเซา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
26. วิลเฮล์ม จอร์จ เคานท์แห่งซายน์-ฮาเชนบูร์ก เบอร์เกรฟแห่งเคิร์ชเบิร์ก
 
 
 
 
 
 
 
13. เบอร์เกรฟวีนหลุยส์ อิซาเบลแห่งเคิร์ชเบิร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
27. เจ้าหญิงอิซาเบลลา ออกุสเต รอสแห่งกรีซ์
 
 
 
 
 
 
 
3. เจ้าหญิงมารีแห่งนัสเซา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
28. เออร์เนสต์ เฟรเดอริคที่ 3 ดยุคแห่งแซ็กซ์-ฮิลด์บูร์กเฮาเซน
 
 
 
 
 
 
 
14. เฟรเดอริค ดยุคแห่งแซ็กซ์-อัลเทนบูร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
29. เจ้าหญิงเออร์เนสทีนแห่งแซ็กซ์-ไวมาร์
 
 
 
 
 
 
 
7. เจ้าหญิงหลุยส์แห่งแซ็กซ์-ฮิลด์บูร์กเฮาเซน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
30. ชาร์ลส์ที่ 2 แกรนด์ดยุคแห่งแม็กเคลนบวร์ก-สเตรลิตช์
 
 
 
 
 
 
 
15. ดัสเชสชาร์ล็อต จอร์จีนแห่งแม็กเคลนบวร์ก-สเตรลิตช์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
31. แลนด์เกรฟวีนเฟรเดอริเกแห่งเฮสส์-ดาร์มสตัดท์
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 Pakula, p. 144.
  2. Hibbert, pp. 40-41.
  3. Eugen Wolbe, Carmen Sylva, Leipzig, 1933, p. 137, here quoted from Brigitte Hamann, Elisabeth: Kaiserin wider Willen, Munich, 1982, translated to English as The Reluctant Empress, New York, 1986 (a biography of Empress Elisabeth of Austria, who was Elisabeth of Wied's friend).
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Elisabeth_of_Wied
  • Eugen Wolbe, "Carmen Sylva", Leipzig, 1933
  • Gabriel Badea-Päun, Carmen Sylva - Uimitoarea Regină Elisabeta a României, 1843-1916, Bucharest, Humanitas, 2003, second edition in 2007, third edition in 2008. ISBN 978-973-50-1101-7.
  • Gabriel Badea-Päun, Jean-Jules-Antoine Lecomte du Nouÿ (1842-1923) à la cour royale de Roumanie, dans Bulletin de la Société de l'Historie de l'Art Français, Année 2005, Paris, 2006, p. 257-281.
  • Hibbert, Christopher (2007). Edward VII: The Last Victorian King. New York: Palgrave Macmillan.
  • Pakula, Hannah (1995). An Uncommon Woman: The Empress Frederick, Daughter of Queen Victoria, Wife of the Crown Prince of Prussia, Mother of Kaiser Wilhelm. New York: Simon and Schuster. ISBN 0684842165.
  • Rada, Silvia Irina [Zimmermann]: Der Zauber des fernen Königreichs. Carmen Sylvas „Pelesch-Märchen“, Magisterarbeit Universität Marburg 1996.
  • Zimmermann, Silvia Irina [n. Rada]: Die dichtende Königin. Elisabeth, Prinzessin zu Wied, Königin von Rumänien, Carmen Sylva (1843–1916). Selbstmythisierung und prodynastische Öffentlichkeitsarbeit durch Literatur, Doctoral thesis University of Marburg 2001/2003.
ก่อนหน้า เอลิซาเบธแห่งเวดส์ สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย ถัดไป
เอเลนา คูซา    
เจ้าหญิงแห่งสหพันธ์ราชรัฐ พระชายาในองค์อธิปัตย์แห่งโรมาเนีย
(ราชวงศ์โฮเฮนโซเลน-ซิกมารินเกน)

(15 พฤศจิกายน พ.ศ. 24121 มีนาคม พ.ศ. 2424)
  'พระอิศริยยศถูกเปลี่ยนเป็น
สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย'
สถาปนาพระราชอิศริยยศ    
สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย
(ราชวงศ์โฮเฮนโซเลน-ซิกมารินเกน)

(1 มีนาคม พ.ศ. 242410 ตุลาคม พ.ศ. 2457)
  เจ้าหญิงมารีแห่งเอดินบะระ