เอริก การ์ซิอา

นักฟุตบอลชาวสเปน

เอริก การ์ซิอา มาร์เตรต (สเปน: Eric García Martret; เกิด 9 มกราคม ค.ศ. 2001) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับบาร์เซโลนา สโมสรในลาลิกา และทีมชาติสเปน

เอริก การ์ซิอา
การ์ซิอากับบาร์เซโลนาในปี ค.ศ. 2022
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เอริก การ์ซิอา มาร์เตรต[1]
วันเกิด (2001-01-09) 9 มกราคม ค.ศ. 2001 (23 ปี)[2]
สถานที่เกิด บาร์เซโลนา สเปน
ส่วนสูง 1.82 เมตร (6 ฟุต 0 นิ้ว)[3]
ตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็ก[4]
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ฌิโรนา
(ยืมตัวมาจากบาร์เซโลนา)
หมายเลข 24
สโมสรเยาวชน
2008–2017 บาร์เซโลนา
2017–2018 แมนเชสเตอร์ซิตี
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2018–2021 แมนเชสเตอร์ซิตี 19 (0)
2021– บาร์เซโลนา 52 (1)
2023– ฌิโรนา (ยืมตัว) 5 (1)
ทีมชาติ
2017 สเปน อายุไม่เกิน 16 ปี 9 (0)
2017–2018 สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี 9 (0)
2019 สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี 9 (0)
2019 สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี 5 (0)
2021– สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี 7 (0)
2020– สเปน 19 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2023
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2023

การ์ซิอาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับศูนย์ฝึกฟุตบอลลามาซิอา ก่อนที่จะย้ายสู่ทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ซิตีเมื่ออายุ 17 ปี ก่อนที่จะลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2019 เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ชนะเลิศเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 และคาราบาวคัพ 2020 ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับแมนฯ ซิตี เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในเดือนมิถุนายน ค ศ. 2022 เขาเซ็นสัญญาโดยไม่มีค่าตัวเป็นเวลาห้าปีกับบาร์เซโลนา โดยมีค่าฉีกสัญญา 400 ล้านยูโร ก่อนถูกยืมตัวไปฌิโรนา ในปี ค.ศ. 2023

เขายังลงเล่นให้กับทีมชาติสเปนมาตั้งแต่ระดับเยาวชน เขาช่วยให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เขามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปี ค.ศ. 2021 ในเดือนถัดมาเขาช่วยให้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้รับเหรียญเงินโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียว ในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน เขาพาทีมชุดใหญ่ได้รองชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก และเป็นส่วนหนึ่งของสเปนในฟุตบอลโลก 2022

สโมสรอาชีพ แก้

แมนเชสเตอร์ซิตี แก้

การ์ซิอา เกิดในบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน เขาเข้าร่วมศูนย์ฝึกฟุตบอลลามาซิอา ในปี ค.ศ. 2008 ก่อนที่จะย้ายไปทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ซิตี ในปี ค.ศ. 2017[5] เขายังได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมของชุดอายุไม่เกิน 18 ปี และ 19 ปีในรายการยูฟ่ายูธลีก ในฤดูกาลแรกของเขากับแมนฯ ซิตี[6]

เขาได้เข้าร่วมกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในช่วงการไปปรีซีซันที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางปี ค.ศ. 2018[5] ก่อนที่ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2018 การ์ซิอา ได้ลงเล่นนัดแรกกับแมนเชสเตอร์ซิตีชุดใหญ่ในนัดที่พวกเขาพบกับเลสเตอร์ซิตี ในรายการคาราบาวคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม[7] โดยเขาลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับนิโกลัส โอตาเมนดี ในระบบ 4–3–3 โดยผลจบลงด้วยการเสมอกันด้วยคะแนน 1–1 ก่อนที่แมนฯ ซิตีจะเอาชนะไปในช่วงการดวลลูกโทษ[8] ก่อนที่ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019 การ์ซิอา เขามีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 พบกับลิเวอร์พูล โดยแมนฯ ซิตี คว้าแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะในช่วงการดวลลูกโทษ 5–4 หลังเสมอกันใน 90 นาที 1–1 นับเป็นการชนะเลิศครั้งแรกในระดับอาชีพของการ์ซิอา ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2019 เขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก ในนัดที่พวกเขาเอาชนะวอตฟอร์ด จากการถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน โอตาเมนดี ในนาทีที่ 63 โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 8–0[9]

ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2019. การ์ซิอา ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก ในนัดเหย้ากับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 2–0[10] รวมถึง ในอีกสามวันถัดมากับเอฟเวอร์ตัน โดยแมนฯ ซิตี ชนะไปด้วยคะแนน 2–1[11]

ในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 การ์ซฺอา ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกกับอาร์เซนอลโดยแมนฯ ซิตี เอาชนะไปด้วยคะแนน 3–0 ในช่วงท้ายเกม การ์ซิอา ได้เข้าปะทะกับ แอแดร์ซง โมไรส์ ในตอนแรกทำให้เขาหมดสติ[12] การ์เซีย ได้รับการรักษาในสนามเป็นเวลานานก่อนที่จะถูกนำออกจากสนามและให้ออกซิเจน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแต่เขาก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันรุ่งขึ้น[13] ผู้จัดการทีม เปป กวาร์ดิโอลา กล่าวในงานแถลงข่าวว่าการ์ซิอาได้รับการถูกกระทบกระแทก และคาดว่าเขาจะฟิตภายใน 10 วัน[14]

ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2020 กวาดิโอลา ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า การ์ซิอา ได้ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาที่จะหมดลงในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2021[15]

บาร์เซโลนา แก้

ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2021 บาร์เซโลนา ได้เปิดตัวและเซ็นสัญญา การ์ซิอา เข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าย้ายทีม โดยเซ็นสัญญากันทั้งสิ้น 5 ปี และมีค่าฉีกสัญญา 400 ล้านยูโร โดยสัญญาจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 เป็นต้นไปหลังจากสัญญาของเขากับแมนฯ ซิตี หมดลง[16] เขาได้ลงเล่นนัดแรกในวันที่ 15 สิงหาคม ในลาลิกานัดแรกของฤดูกาล ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับฌาราร์ต ปิเก ช่วยให้ทีมเอาชนะเรอัลโซซิเอดัด 4–2 ที่กัมนอว์ ในนัดถัดมาในอีก 6 วันถัดมา ในนัดที่เสมอกับอัตเลติกบิลบาโอ 1–1 ที่ซันมาเมส เขาได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 90+3 หลังการทำฟาล์วนิโก วิลเลียมส์[17] ในวันที่ 29 กันยายน การ์ซิอา ถูกไล่ออกเป็นครั้งที่สองหลังจากได้รับใบเหลืองสองใบ ในนัดที่แพ้ต่อไบฟีกา 0–3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม[18]

ระดับทีมชาติ แก้

ระดับเยาวชน แก้

เขาได้เป็นตัวแทนของทีมชาติสเปน ในระดับรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี[19]ในปี ค.ศ. 2017 เขายังเป็นตัวแทนของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในชุดชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่โครเอเชีย และรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่อินเดีย หลังแพ้ให้กับอังกฤษ ในรอบชิงชนะเลิศ 5–2 ในปีถัดมา เขายังเป็นกัปตันของทีมในการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่อังกฤษ เขาทำสองประตูได้ในรอบแบ่งกลุ่มกับเยอรมนี และเซอร์เบีย ก่อนจะแพ้ให้กับเบลเยียม ในรอบก่อนรองชนะเลิศ[20]ในปี ค.ศ. 2019 เขายังเป็นตัวแทนให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ช่วยให้สเปนชนะเลิศการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่อาร์มีเนีย โดยเขาได้ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับอูโก กียามองครบทุกนาที[21]ในช่วงปลายปีเดียวกัน เขายังเป็นตัวแทนของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2021 รอบคัดเลือก ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ[22]

ทีมชุดใหญ่–โอลิมปิกฤดูร้อน แก้

สถิติอาชีพ แก้

สโมสร แก้

ณ วันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2021
การลงเล่น และทำประตู ในแต่ละฤดูกาล และการแข่งขัน
สโมสร ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ อีเอฟแอลคัพ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อื่น ๆ รวม
ลีก ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
แมนเชสเตอร์ซิตี 2018–19[23] พรีเมียร์ลีก 0 0 0 0 3 0 0 0 0 0 3 0
2019–20[24] พรีเมียร์ลีก 13 0 2 0 3 0 2 0 0 0 20 0
2020–21[25] พรีเมียร์ลีก 6 0 2 0 1 0 3 0 12 0
รวม 19 0 4 0 7 0 5 0 0 0 35 0
บาร์เซโลนา 2021–22[23] ลาลิกา 26 0 1 0 9[a] 0 0 0 36 0
รวมทั้งหมด 45 0 5 0 7 0 14 0 1 0 72 0
  1. ลงเล่นสี่นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ลงเล่นห้านัดในยูฟ่ายูโรปาลีก

ทีมชาติ แก้

ณ วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2022[26]
การลงเล่นและทำประตูในแต่ละทีมชาติและปี
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
สเปน 2020 4 0
2021 10 0
2022 3 0
รวม 17 0

เกียรติประวัติ แก้

แมนเชสเตอร์ซิตี

สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี

สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี

สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี

สเปน

อ้างอิง แก้

  1. "Premier League clubs publish retained lists". Premier League. 7 June 2019. สืบค้นเมื่อ 29 October 2019.
  2. "Eric García: Overview". ESPN. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  3. 3.0 3.1 "Eric García: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 28 May 2021.
  4. "Eric García: Profile". worldfootball.net. HEIM:SPIEL. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  5. 5.0 5.1 "Ex-Barcelona jewel Eric Garcia lighting up Man City's pre-season". Goal.com. Perform Group. 26 July 2018. สืบค้นเมื่อ 26 July 2018.
  6. City, Manchester. "Eric Garcia". www.mancity.com. สืบค้นเมื่อ 2020-08-20.
  7. Pollard, Rob. "De Bruyne and Aguero start, Garcia makes debut". Manchester City F.C. สืบค้นเมื่อ 18 December 2018.
  8. "Aro Muric spares Raheem Sterling blushes as Man City beat Leicester on penalties to stay in hunt for quadruple". The Daily Telegraph.
  9. Bevan, Chris (21 September 2019). "Man City 8–0 Watford: Pep Guardiola's side silence critics in emphatic style". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 22 September 2019.
  10. "Man City vs. Sheffield United match report". BBC Sport.
  11. "Manchester City vs Everton match report". BBC Sport.
  12. "Garcia injury mars near-perfect day for Manchester City against Arsenal | Goal.com". www.goal.com. สืบค้นเมื่อ 2020-06-18.
  13. "Man City: Eric Garcia out of hospital after Ederson collision". BBC Sport. 2020-06-18. สืบค้นเมื่อ 2020-06-18.
  14. "Eric Garcia: Manchester City boss Pep Guardiola outlines 10-day recovery". BBC Sport.
  15. "Eric Garcia: Manchester City want £30m for Spanish defender". BBC Sport. 2020-08-06. สืบค้นเมื่อ 2020-08-10.
  16. "Eric Garcia is FC Barcelona's second signing". FC Barcelona. 1 June 2021. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.
  17. Roberts, Mike (22 August 2021). "Athletic Club 1-1 Barça: All square at San Mamés". FC Barcelona. สืบค้นเมื่อ 30 September 2021.
  18. Roberts, Mike (29 September 2021). "Benfica 3-0 FC Barcelona: Painful defeat in Lisbon". FC Barcelona. สืบค้นเมื่อ 30 September 2021.
  19. #24 Eric García Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2021
  20. #24 Eric García Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2021
  21. #24 Eric García Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2021
  22. #24 Eric García Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2021
  23. 23.0 23.1 "Games played by Eric Garcia in 2018/2019". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  24. "Games played by Eric Garcia in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  25. "Games played by Eric Garcia in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 26 September 2020.
  26. "Eric García". EU-football.info. สืบค้นเมื่อ 3 April 2021.
  27. McNulty, Phil (1 March 2020). "Aston Villa 1–2 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 1 March 2020.
  28. Begley, Emlyn (4 August 2019). "Liverpool 1–1 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 4 August 2019.
  29. "Man. City 0–1 Chelsea: Updates". UEFA. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.
  30. "Spain-England | Line-ups | Under-17". UEFA.
  31. "U-17 World Cup 2017 Group D: Squads of Brazil, Spain, DPR Korea and Niger | Goal.com". Goal.com. Perform Group.
  32. "Portugal-Spain | Line-ups | Under-19". UEFA.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้