เร็วคูณ 2 ดับเบิ้ลแรงท้านรก

เร็วคูณสอง ดับเบิ้ลแรงท้านรก (อังกฤษ: 2 Fast 2 Furious) เป็นภาพยนตร์โลดโผนที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2003 เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ในภาพยนตร์ชุดเดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแข่งรถ และเกี่ยวกับการหักเหลี่ยมระหว่างตำรวจกับอาชญากร เขียนบทภาพยนตร์โดยไมเคิล แบรนต์และเดเรค ฮาส กำกับภาพยนตร์โดย จอห์น ซิงเกิลตัน นำแสดงโดยพอล วอล์กเกอร์, ไทรีส กิบสัน และคริส บริจส์

เร็วคูณ 2 ดับเบิ้ลแรงท้านรก
โปสเตอร์ภาพยนตร์
กำกับจอห์น ซิงเกิลตัน
บทภาพยนตร์ไมเคิล แบรนต์
เดเรค ฮาส
เนื้อเรื่องไมเคิล แบรนต์
เดเรค ฮาส
แกรี สก็อต ทอมป์สัน
สร้างจากตัวละคร
โดย แกรี สก็อต ทอมป์สัน
อำนวยการสร้างนีล เอช. มอริตซ์
นักแสดงนำพอล วอล์กเกอร์
ไทรีส กิบสัน
คริส บริจส์
เอวา เมนเดส
โคล เฮาเซอร์
กำกับภาพแมททิว เอฟ. เลียวเน็ตติ
ตัดต่อบรูซ แคนนอน
ดัลลัส พิวต์
ดนตรีประกอบเดวิด อาร์โนลด์
บริษัทผู้สร้าง
Mikona Productions
Original Film
ผู้จัดจำหน่ายUniversal Pictures
วันฉาย6 มิถุนายน ค.ศ. 2003
ความยาว107 นาที
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน236.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1]
ก่อนหน้านี้เร็ว..แรงทะลุนรก (2001)
ต่อจากนี้เร็ว..แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว (2006)
ข้อมูลจาก All Movie Guide
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

เรื่องย่อ แก้

หลังจากที่ไบรอัน โอ'คอนเนอร์ ถูกปลดจากอาชีพตำรวจและถูกตำรวจแอลเอตามล่า เนื่องจากเขามีความผิดฐานปล่อยตัว "ดอม" โดมินิก ทอเร็ตโต้ อดีตเพื่อนของเขาให้หนีรอดพ้นจากการถูกจับกุมที่แอลเอ ไบรอันจึงตัดสินใจหลบหนีออกจากแอลเอมาซิ่งในโลกใต้ดินที่ไมอามี[2]

ที่ไมอามี ไบรอันได้ทำความรู้จักกับ เทจ ปาร์คเกอร์ ที่กลางวันเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ และเป็นเจ้าของกิจการเรือเช่า ส่วนตอนกลางคืนเป็นโปรโมเตอร์แข่งรถใต้ดิน แถมเก่งกาจด้านไอทีอีกด้วย โดยการจัดการแข่งขันทุกครั้ง ถ้าเห็นว่ามีคิวว่างอยู่ เทจจะติดต่อชวนให้มาเข้าแข่งด้วยทุกครั้ง จนคืนวันหนึ่ง ไบรอันดันถูกจับได้ หลังจากที่มาเข้าแข่งด้วย หลังแข่งพวกตำรวจมาไล่จับ ไบรอันเองก็หนีเหมือนนักซิ่งคนอื่นๆแต่คราวนี้ดันหนีไม่พ้น พอดีในขณะนั้นทางการกำลังตามคดีเกี่ยวกับเจ้าพ่อยาเสพติดข้ามชาติชาวอาร์เจนติน่า ซึ่งทำธุรกิจส่งออก-นำเข้าบังหน้าที่ชื่อว่า คาร์เตอร์ เวโรน ซึ่งรับทำคดีโดย ผู้กำกับการกรมศุลฯ มาร์คัม

ทางการต้องการให้ไบรอันเป็นสายให้ เพื่อเข้าแทรกซึมและหาหลักฐาน ซึ่งคนที่บังคับให้ไบรอันต้องทำงานนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ "เจ้าหน้าที่ บิลกินส์" เจ้านายเก่าของไบรอันนั่นเอง ที่เคยถูกเขาหักหลังเมื่อครั้งตอนอยู่ที่แอลเอ แคลิฟอร์เนีย ไบรอันจึงจำต้องรับงานนี้เพื่อลบล้างความผิดที่เคยกระทำของตัวเอง โดยตอนแรกทางการจับคู่หูให้โดยมาร์คัมแนะนำคนในสังกัดจับคู่ให้ แต่ไบรอันกลับไม่พอใจคนที่ทางการเสนอให้ เขาเลยเสนอที่จะหาคู่หูเอง โดยต้องไปปรับความสัมพันธ์ฉันเพื่อนกับซี้เก่า ซึ่งตอนนี้ได้รับสิทธิ์ภาคทัณฑ์ให้ออกจากบ้านได้ไม่เกินร้อยหลา ณ สนามแข่งแห่งหนึ่งที่บาสโตร์ หลังจากที่เคยโดนจับจำคุก 3 ปีข้อหาขโมยรถ "โรมัน เพียร์ซ" พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ว่า หากปฏิบัติภารกิจสำเร็จ โรมันก็จะพ้นโทษทั้งหมด ได้สิทธิพลเมืองกลับคืนมา โดยทั้งสองจะต้องปลอมตัวเป็นนักซิ่ง เพื่อจะได้ทำงานกับเวโรน ทางการได้ให้รถสองคันในการปฏิบัติภารกิจ โดยติดตั้งระบบจีพีเอสไว้ในรถทั้งสองคันด้วย

ก่อนที่จะได้เข้าทำงาน ไบรอันและโรมันจะต้องแข่งกับนักซิ่งรุ่นเก๋าคนอื่นๆเพื่อทำการทดสอบ หากผ่านจะได้เข้าทำงาน แต่เมื่อทั้งสองขับมาถึงจุดหมายที่เวโรนกำหนดก่อนทีมอื่นๆแล้ว มาร์คัมที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทคนิคว่า ทั้งสองออกนอกเส้นทาง เลยตีความเอาว่าพวกนั้นคิดจะหนี จึงได้เข้ามาดักรอและแสดงตัวเพื่อจะทำการเข้าจับกุม จนโรมันต้องตัดสินใจ(อย่างสิ้นคิด)ใช้ปืนที่แอบพกมา ยิงสวนใส่รถมาร์คัมกลับไป เพราะกลัวแผนแตก พอทั้งคู่สามารถนำของที่เวโรนวางไว้ที่เส้นชัยกลับมาส่งคืนให้เวโรนได้ จึงสอบผ่าน แล้วก็ได้เข้าทำงาน งานของเวโรนก็คือ ทั้งสองต้องทำการจัดขนส่งของให้ในเวลาและสถานที่ที่กำหนด ในงานนี้ทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาวสวยชื่อ โมนิก้า ฟูเอนเตส ซึ่งทำงานเป็นสายและแฝงตัวมาก่อนหน้านี้เพื่อแกล้งเป็น'เด็กเสี่ย'และช่วยดูแลกิจการให้เวโรนด้วย

ในระหว่างภารกิจ ไบรอันกับโรมันบังเอิญได้พบว่า ทั้งสองกำลังเจอะเจอเหตุการณ์ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน และต้องใช้ความถูกต้องกับสัญชาตญาณของตัวเองตัดสินใจ ก็คืออย่างแรก ภารกิจที่ตัวเองได้รับจากทางการ มีความเสี่ยงต่อชีวิต และเกี่ยวข้องกับอนาคตของทั้งตัวเขาเองและเพื่อน และอย่างที่สอง เขากับโรมันพบว่า เวโรนใช้กลโกงสารพัดรูปแบบเพื่อให้กิจการของเขาเฟื่องฟู โดยการมีใต้โต๊ะและใช้อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อความสะดวกต่อธุรกิจของตัวเอง เพื่ออนาคตของตัวไบรอันเองและเงื่อนไขที่ทางการยื่นข้อเสนอให้ กับทั้งอิสรภาพของคู่ซี้ ในที่สุดก็สามารถจับเวโรนได้ พร้อมกับของกลาง ทั้งไบรอันและโรมันจึงได้รับอิสรภาพ และได้สิทธิพลเมืองของตัวเองกลับคืนมาในที่สุด

นักแสดง แก้

อ้างอิง แก้

  1. 2 Fast 2 Furious - Box Office Mojo
  2. เหตุการณ์ทั้งหมดก่อนไบรอันเดินทางมาถึงไมอามี มีปรากฏอยู่ในภาพยนตร์สั้น Turbo-Charged Prelude ออกเผยแพร่ครั้งแรก 3 มิถุนายน ค.ศ. 2003 หนังสั้นดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาระหว่างภาพยนตร์ภาคแรกกับภาคสองนี้ นำแสดงโดยพอล วอล์กเกอร์ รับบทไบรอัน โอ'คอนเนอร์เช่นเดียวกัน

แหล่งข้อมูลอื่น แก้