เดอะลาสต์เลกเชอร์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เดอะลาสต์เลกเชอร์ (อังกฤษ: The Last Lecture) เป็นหนังสือขายดีที่ถูกจัดไว้ในรายการ New York Times Best Seller[1] เขียนโดย แรนดี เพาช์ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้าน วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, human-computer ของมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน หนังสือเล่มนี้เรียบเรียงจากบทบรรยายของเพาช์ที่ชื่อว่า ความฝันในวัยเด็กที่เป็นจริง ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2550
เดอะลาสต์เลกเชอร์ | |
---|---|
ผู้ประพันธ์ | แรนดี เพาช์ และ เจฟฟรีย์ ชาสโลว์ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | The Last Lecture |
ผู้แปล | วนิษา เรซ |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | อังกฤษ |
การบรรยายครั้งสุดท้าย
แก้เพาช์กล่าวในการบรรยายครั้งสุดท้ายของเขา ซึ่งมีหัวข้อว่า "ความฝันในวัยเด็กที่เป็นจริง" ที่ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2550[2] เขาบรรยายเกี่ยวกับแนวทางการใช้ชีวิต ซึ่งเขาได้บรรยายมาอย่างต่อเนื่องในหลายสถานที่ ในสิ่งที่นักวิชาการชั้นนำคิดอย่างลึกซึ้งว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา จากนั้นเขาได้ตั้งข้อสังเกตไว้หลายอย่าง เช่น "อะไรคือสิ่งที่คุณจะทำให้กับโลก ถ้าคุณรู้ว่าคุณเหลือโอกาสครั้งสุดท้าย"
หนึ่งเดือนก่อนการบรรยาย เพาช์ได้รับทราบว่าเขาเป็นมะเร็งตับอ่อน และคาดว่ามีชีวิตเหลือเพียงแค่หนึ่งปี ก่อนการบรรยาย เพาช์ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากนักเรียนและอาจารย์มากกว่า 400 คน หลังจากนั้นเขาลงนั่ง แล้วกล่าวว่า "Make me earn it" จากนั้นมีผู้ฟังบรรยายด้านหลังบางคนตะโกนว่า "คุณได้สิ่งนั้น"
ระหว่างการบรรยาย เพาช์พูดอย่างมีความหวังและสนุกสนาน และยักไหล่แสดงอาการเสียดายที่ทราบว่าเขาป่วย ในระหว่างการบรรยาย เพาช์แสดงความแข็งแรงโดยการวิดพื้นด้วยมือข้างเดียว เขาสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และวิศวกรรม นอกจากนั้นเขายังมีลูกศิษย์และผู้ร่วมงานกับเขาเป็นจำนวนมาก เพาช์ยังเสนอให้ผู้ฟังได้แรงบันดาลใจในชีวิตจากชีวิตของเขา และสามารถนำชีวิตของเขาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตตนเองได้
อ้างอิง
แก้- ↑ Hardcover Advice list, New York Times (2008-06-22).
- ↑ University Lecture Series: Journeys. Carnegie Mellon (September 18, 2007). I like littel man called boys -Retrieved on 2007-11-18.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์ทางการ เก็บถาวร 2009-03-02 ที่ Library of Congress Web Archives โดย ไฮเปอเรียน