เซเด เลกาเนส
กลุบเดปอร์ติโบเลกาเนส เอเซอาเด (สเปน: Club Deportivo Leganés, S. A. D.) เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศสเปน จากเมืองเลกาเนส ในแคว้นมาดริด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1928 ปัจจุบันลงเล่นอยู่ในเซกุนดาดิบิซิออน ลีกรองสูงสุดของประเทศ โดยใช้ สนามกีฬาเทศบาลบูร์ตาร์เก เป็นสนามเหย้าซึ่งมีความจุ 12,454 ที่นั่ง[1]
 | ||||
| ชื่อเต็ม | กลุบเดปอร์ติโบเลกาเนส เอเซอาเด | |||
|---|---|---|---|---|
| ฉายา | Los Pepineros (ผู้ปลูกแตงกวา) Lega | |||
| ก่อตั้ง | 23 มิถุนายน 1928 | |||
| สนาม | สนามกีฬาเทศบาลบูร์ตาร์เก | |||
| ความจุ | 12,450[1] | |||
| ประธาน | มารีอา วิคตอเรีย ปาวอน | |||
| ผู้จัดการทีม | อาเซียร์ การิตาโน | |||
| ลีก | เซกุนดาดิบิซิออน | |||
| 2019–20 | ลาลิกา, อันดับที่ 18 จาก 20 (ตกชั้น) | |||
| เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |||
| ||||
ประวัติ แก้ไข
.jpg)
สโมสรก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1928 โดย เฟลิก เปเรซ เด ลา ซิอานา โดยมีรามอน เดล เอียโร เป็นประธานสโมสรคนแรก[2] อย่างไรก็ตามสโมสรต้องหยุดการดำเนินการในปี ค.ศ. 1936 เนื่องจากสงครามกลางเมืองสเปน และกลับมาดำเนินกิจการสโมสรอีกครั้งในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1946[3]
เลกาเนส ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการลงเล่นลีกระดับล่าง ในปี ค.ศ. 1977 สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ เตร์เซราดิบิซีออน ซึ่งเป็นลีกรองลำดับที่สี่ได้สำเร็จ หลังจากที่เคยลงเล่นในลีกนี้แล้วเป็นเวลา 7 ปีรวมกัน เมื่อครั้งเป็นลีกรองลำดับที่สาม
ในอีก 10 ปีต่อมาในปี ค.ศ. 1987 เลกาเนสได้เลื่อนชั้นสู่เซกุนดาดิบิซิออน เบได้สำเร็จ และสามารถเลื่อนชั้นสู่ เซกุดาดิบิซิออน ได้ในอีก 6 ปีต่อมาและใช้เวลา 11 ฤดูกาลอยู่ในลีกนี้ติดต่อกันนับจากนั้น โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการจบลำดับที่ 8 บนตารางคะแนนลีกในข่วงฤดูกาล 1995–96 และ 1996–97
ในฤดูกาล 2015–16 เลกาเนส ได้เลื่อนชั้นสู่ ลาลิกา ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรได้สำเร็จ โดยเกิดขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2016 จากการเอาชนะ เซเด มิรานเดส 1–0 ที่สนามกีฬาเทศบาลอันดูวา ซึ่งทำให้ทีมจบลำดับที่ 2
ฤดูกาลแรกของพวกเขาในลีกสูงสุดได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องยาก เมื่อทีมจบลงด้วยอันดับที่ 17 ซึ่งห่างจากโซนตกชั้นไม่กี่คะแนน ในฤดูกาลถัดมาของพวกเขาจบลงในลักษณะเดียวกันและจบที่อันดับ 17 อีกครั้ง ในฤดูกาล 2018-19 เลกาเนสทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นกว่า 2 ฤดูกาลแรก ด้วยการจบลำดับที่ 13[4]
ในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2018 เลกาเนส สร้างประวัติศาสตร์การผ่านเข้ารอบ โกปาเดลเรย์ รอบรองชนะเลิศ ได้เป็นครั้งแรก หลังจากการเอาชนะ เรอัลมาดริด ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ได้ด้วยผลคะแนน 2–1 ที่สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว โดยในรอบรองชนะเลิศพวกเขาพบกับเซบียา ซึ่งทีมได้พ่ายแพ้ไปด้วยผลคะแนนรวมสองนัด 3–1 (นัดแรก 1–1 นัดที่สอง 0–2) [5]
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน แก้ไข
- ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020[6]
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผลงานในแต่ละฤดูกาล แก้ไข
|
|
|
|
- 2ª Cat.O. เซกุนดา กาเตโคเรีย ออดินาเรีย
- 2ª Cat. เซกุนดา กาเตโคเรีย เปเฟเรนเต
- 1ª Pref. ปริเมรา เปรเฟเรนเต
- 1ª Cat. ปริเมราดิบิซิออน กาเตโคเรีย
- Pref. ปริเมราดิบิซิออน ริฆิออนัล
- 3ª เตร์เซราดิบิซิออน
- 2ª B เซกุนดาดิบิซิออน เบ
- 2ª เซกุนดาดิบิซิออน
- 1ª ลาลิกา
เกียรติประวัติ แก้ไข
อ้างอิง แก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 "El CD Leganés pulveriza un año más su récord de abonados y lo eleva a 10.300" (ภาษาสเปน). Al cabo de la calle. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-17. สืบค้นเมื่อ 11 September 2018.
- ↑ "Historia | C.D. Leganés - Web Oficial". Historia | C.D. Leganés - Web Oficial (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 2019-11-20.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Club Deportivo Leganés, S.A.D. :: La Futbolteca. Enciclopedia del Fútbol Español" (ภาษาสเปนแบบยุโรป). สืบค้นเมื่อ 2020-04-28.
- ↑ "Leganes make history and reach La Liga for the first time". Marca. 4 June 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-13. สืบค้นเมื่อ 1 February 2017.
- ↑ "Real Madrid dumped out of Copa del Rey by Leganés at Bernabéu". The Guardian. 24 January 2018. สืบค้นเมื่อ 25 January 2018.
- ↑ "Plantilla Club Deportivo Leganés". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ 2020-06-22.