เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดแห่งเคมบริดจ์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดแห่งเคมบริดจ์ หรือพระนามแบบเต็ม แมรี แอดิเลด วิลเฮลมินา เอลิซาเบธ (อังกฤษ: Princess Mary Adelaide of Cambridge; 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1833 - 27 ตุลาคม ค.ศ. 1897) ทรงเป็นสมาชิกพระองค์หนึ่งในพระราชวงศ์อังกฤษ โดยเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 ต่อมาพระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น ดัชเชสแห่งเท็ค (Duchess of Teck) จากการอภิเษกสมรส
เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดแห่งเคมบริดจ์ | |||||
---|---|---|---|---|---|
ดัชเชสแห่งเท็ค | |||||
ประสูติ | 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1833 ฮันโนเฟอร์ ราชอาณาจักรฮันโนเฟอร์ สมาพันธรัฐเยอรมัน | ||||
สิ้นพระชนม์ | 27 ตุลาคม ค.ศ. 1897 ไวท์ ลอดจ์, ริชมอนด์พาร์ค เซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ | (63 ปี)||||
ฝังพระศพ | 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1897 โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ | ||||
พระสวามี | เจ้าชายฟรานซิส ดยุกแห่งเท็ก | ||||
| |||||
พระบุตร | |||||
ราชวงศ์ | ฮันโนเฟอร์ | ||||
พระบิดา | เจ้าชายอดอลฟัส ดยุกแห่งเคมบริดจ์ | ||||
พระมารดา | เจ้าหญิงออกัสตาแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล |
พระองค์เป็นพระชนนีของสมเด็จพระราชินีมาเรีย พระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 นอกจากนั้นยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระบรมวงศ์พระองค์แรก ๆ ที่ทรงอุปถัมภ์การกุศลต่าง ๆ มากมาย
พระชนม์ชีพในวัยเยาว์
แก้เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดประสูติเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1833 ณ เมืองฮันโนเฟอร์ ประเทศเยอรมนี พระชนกของพระองค์คือ เจ้าชายอดอลฟัส ดยุกแห่งเคมบริดจ์ พระโอรสองค์เล็กของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 และ สมเด็จพระราชินีชาร์ล็อทเทอ ส่วนพระชนนีนั้นคือ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ (พระอิสริยยศเดิม เจ้าหญิงออกัสตาแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล) พระธิดาในเจ้าชายฟรีดริชที่ 3 ผู้ปกครองนครแห่งเฮ็สเซิน-คาสเซิล
เจ้าหญิงทรงเจริญพระชนม์ชีพในวัยเยาว์ที่เมืองฮันโนเฟอร์ ซึ่งพระชนกทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในฐานะอุปราชแทนพระปิตุลาคือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 4 และ สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 ความโปรดปรานอาหารและแนวโน้มของการเสวยมากเกินไปทำให้ทรงมีน้ำหนักตัวเกินอย่างน่าวิตก และเป็นผลให้ในเวลาต่อมา มีพระนามเรียกเล่นว่า "แมรีอ้วน" (Fat Mary)
หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 ในปี ค.ศ. 1837 เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเคนต์ พระญาติชั้นที่หนึ่งของพระองค์เสวยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม กฎบัตรซาลลิคได้กันมิให้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเสวยราชสมบัติในราชอาณาจักรฮันโนเฟอร์ด้วย จึงทำให้ราชบัลลังก์ผ่านไปยังเจ้าชายแอ็นสท์ เอากุสท์ ดยุกแห่งคัมเบอร์แลนด์ ดังนั้นดยุคแห่งแคมบริดจ์จึงมิทรงจำเป็นต้องประทับในเมืองฮันโนเฟอร์อีกต่อไป และได้เสด็จกลับกรุงลอนดอนพร้อมกับครอบครัว โดยประทับอยู่ในพระราชวังเคนซิงตัน
อภิเษกสมรส
แก้ในขณะที่พระชนมายุ 30 พรรษา เจ้าหญิงแมรี แอลิเลดยังคงไม่ได้ทรงอภิเษกสมรส พระโฉมที่ไม่ดึงดูดใจและการขาดแคลนรายได้ก่อให้เกิดเป็นปัจจัยที่ทำให้ยังทรงครองโสด เมื่อมีพระชนมายุมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ฐานันดรศักดิ์ในเชื้อพระวงศ์ทำให้มิทรงสามารถอภิเษกสมรสกับบุคคลที่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ได้ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย พระญาติชั้นที่หนึ่งจึงรู้สึกเห็นพระทัยพระองค์ และทรงพยายามจัดหาคู่สมรสที่เหมาะสมให้
ในที่สุดก็ได้พบกับคู่ครองที่เหมาะสมกับเจ้าหญิงแมรีแอลิเลดในราชอาณาจักรเวือร์ทเท็มแบร์ก คือ เจ้าชายฟรานซิสแห่งเท็ค (His Serene Highness Prince Francis of Teck) พระองค์ทรงมีฐานันดรศักดิ์ต่ำกว่าเจ้าหญิง อีกทั้งเป็นพระโอรสจากการอภิเษกสมรสต่างฐานันดรศักดิ์ (morganatic marriage) และไม่มีสิทธิ์สืบราชบัลลังก์เวือร์ทเท็มแบร์ก แต่ถึงอย่างน้อยทรงเป็นฐานันดรศักดิ์ชั้นเจ้าชายและเป็นเชื้อพระวงศ์ อย่างไรก็ดี เมื่อไม่มีตัวเลือกอื่น เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดจึงทรงตัดสินพระทัยอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟรานซิส ทั้งสองพระองค์อภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1856 ณ พระราชวังคิว มณฑลเซอร์เรย์
เจ้าหญิงทรงทูลขอให้พระสวามีได้รับการเลื่อนฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็นชั้น His Royal Highness แต่ก็ทรงได้รับการปฏิเสธจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย แต่กระนั้นเจ้าชายฟรานซิสยังทรงได้รับการเลื่อนฐานันดรศักดิ์ขึ้นในชั้น His Highness ในปี ค.ศ. 1887 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระราชพิธีกาญจนาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย
เจ้าชายและเจ้าหญิงฟรานซิสแห่งเท็ค มีพระโอรสและธิดาสี่พระองค์คือ
- เจ้าหญิงวิกตอเรีย แมรีแห่งเท็ก (วิกตอเรีย แมรี ออกัสตา ลูอีส โอลกา พอลีน คลอดีน แอ็กเนส; 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1867 - 24 มีนาคม ค.ศ. 1953)
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1893 ณ โบสถ์หลวง พระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน กับ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร (จอร์จ เฟรเดอริก เออร์เนส อัลเบิร์ต; 3 มิถุนายน ค.ศ. 1865 - 20 มกราคม ค.ศ. 1936)
- เจ้าชายอดอลฟัสแห่งเท็ก (พระนามแบบเต็ม อดอลฟัส ชาร์ลส์ อเล็กซานเดอร์ อัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด จอร์จ ฟิลิป หลุยส์ ลาดิสเลาส์; 13 สิงหาคม ค.ศ. 1868 - 24 ตุลาคม ค.ศ. 1927)
- ทรงดำรงพระอิสรยยศเป็น ดยุกแห่งเท็ก เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1900 หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระชนก
- ทรงสละฐานันดรศักดิ์เยอรมัน และเปลี่ยนพระนามเป็น เซอร์อดอลฟัส เคมบริดจ์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1917
- ทรงได้รับการสถาปนาเป็น มาร์ควิสแห่งเคมบริดจ์ เอิร์ลแห่งเอลแธม และไวเคานต์นอร์ธัลเลอร์ตัน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1917
- ทรงอภิเษกสมรสวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1894 ณ คฤหาสน์อีตันฮอลล์ เมืองเชสไชร์ กับ เลดีมาร์กาเร็ต อีฟลีน กรอสเวเนอร์ (9 เมษายน ค.ศ. 1873 27 มีนาคม ค.ศ. 1929)
- เจ้าชายฟรานซิสแห่งเท็ก (ฟรานซิส โจเซฟ เลโอโพลด์ เฟรเดอริก; 9 มกราคม ค.ศ. 1870 - 22 ตุลาคม ค.ศ. 1910)
- เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งเท็ก (อเล็กซานเดอร์ ออกัสตัส เฟรเดอริก วิลเลียม อัลเฟรด จอร์จ; 14 เมษายน ค.ศ. 1874 - 15 มกราคม ค.ศ. 1957)
- ทรงสละฐานันดรศักดิ์เยอรมัน และเปลี่ยนพระนามเป็น เซอร์อเล็กซานเดอร์ เคมบริดจ์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1917
- ทรงได้รับการสถาปนาเป็น เอิร์ลแห่งแอธโลน และไวเคานต์เทรมาตัน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1917
- ทรงดำรงตำแหน่งเป็น ผู้สำเร็จราชการแห่งสหภาพแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1924 ถึงวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1930
- ทรงดำรงตำแหน่งเป็น ผู้สำเร็จราชการแห่งแคนาดา ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1940 ถึงวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1946
- ทรงอภิเษกสมรสวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1904 ณ โบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ กับ เจ้าหญิงอลิซ แมรี วิกตอเรีย ออกัสตา พอลีนแห่งออลบานี (25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1883 - 3 มกราคม ค.ศ. 1981) ต่อมาคือ เจ้าหญิงอลิซ เคาน์เตสแห่งแอธโลน (Princess Alice, Countess of Athlone)
ลี้ภัยในต่างแดน
แก้ดยุกและดัชเชสแห่งเท็คทรงเลือกที่จะประทัยอยู่ในกรุงลอนดอนมากกว่าอยู่ในต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะเจ้าหญิงแมรี แอดิเลดทรงเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเท็คแต่เพียงผู้เดียว พระองค์ทรงได้รับเงินจำนวน 5000 ปอนด์ต่อปีอันเป็นเบี้ยหวัดจากรัฐสภาเพื่อสำหรับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ นอกจากนี้ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชนนียังได้ประทานเงินรายได้เสริมแก่เจ้าหญิงด้วย การขอเงินทุนเพิ่มเติมจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียได้รับการปฏิเสธมาตลอด แต่อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชินีนาถได้พระราชทานห้องชุดในพระราชวังเคนซิงตันและพระตำหนักขาวเพื่อเป็นบ้านพักชนบทให้แก่ครอบครัวเท็ค
แม้ทรงมีเงินเบี้ยหวัดพอใช้จ่าย แต่เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดทรงมีรสนิยมที่หรูหราและดำรงพระชนม์ชีพอย่างสุ่รุ่ยสุร่ายตามงานเลี้ยงสังสรรค์ พระกระยาหารและอาภรณ์ราคาแพง รวมถึงการเสด็จประพาสต่างประเทศบ่อย ๆ ไม่นานหนี้สินก็เพิ่มพูนมากขึ้นและครอบครัวเท็คจำต้องเสด็จออกนอกประเทศในปี ค.ศ. 1883 เพื่อหลบหลีกเจ้าหนี้ ทั้งสองพระองค์เสด็จยังเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี และยังได้ประทับอยู่กับพระญาติในประเทศเยอรมนีและออสเตรียอีกด้วย ในช่วงแรก ทั้งสองเสด็จประพาสในพระนามว่า เคานต์และเคาน์เตสแห่งโฮเฮ็นชไตน์ แต่กระนั้น เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดทรงต้องการจะเสด็จประพาสด้วยบรรดาศักดิ์ที่สูงกว่าและทรงเปลี่ยนกลับไปใช้พระอิสริยยศเดิมของพระองค์ ซึ่งทำให้ทรงได้รับความสนใจมากขึ้นและการบริการที่ดีขึ้น
ปลายพระชนม์ชีพ
แก้ครอบครัวเท็คเสด็จกลับจากต่างประเทศเมื่อปี ค.ศ. 1885 และยังคงประทับอยู่ที่ตำหนักขาว พระราชอุทยานริชมอนด์ดังเดิม เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดทรงเริ่มอุทิศพระวรกายให้กับพระกรณียกิจการกุศล โดยทรงเป็นองค์อุปถัภ์ขององค์กรเบอร์นาร์โด (Bernardo's) และมูลนิธิการกุศลเกี่ยวกับเด็กอื่น ๆ เช่นกัน
ในปี ค.ศ. 1891 เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดทรงกระตือรือร้นที่จะให้เจ้าหญิงวิกตอเรีย แมรีแห่งเท็ค (ซึ่งทรงเป็นที่รู้จักว่า "เมย์") อภิเษกสมรสกับพระโอรสของเจ้าชายแห่งเวลส์ ต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แต่อีกนัยหนึ่งคือ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงต้องการเจ้าสาวชาวอังกฤษสำหรับกษัตริย์ในอนาคต แต่แน่นอนว่าจะต้องมาจากลำดับชั้นและบรรพบุรุษซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ ไม่ใช่แค่หญิงสาวตระกูลผู้ดี"ระดับล่าง" พระธิดาของเจ้าหญิงแมรี แอดิเลดทรงมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เจ้าหญิงเมย์ทรงหมั้นหมายกับเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล รัชทายาทอันดับที่สองแห่งราชบัลลังก์อังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1892 การสิ้นพระชนม์ของดยุกแห่งคลาเรนซ์อีกเพียงหกสัปดาห์ต่อมาเป็นเหมือนกับหายนะอันเลวร้าย แต่อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงโปรดปรานเจ้าหญิงเมย์มากและโน้มน้าวให้เจ้าชายจอร์จ ดยุกแห่งยอร์ค พระอนุชาในดยุกแห่งคลาเรนซ์และรัชทายาทในอันต่อไปแห่งราชบัลลังก์อังกฤษอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงแทน
การอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเมย์เข้าสู่ในลำดับชั้นสูงสุดของพระราชวงศ์ทำให้เกิดการพลิกฟื้นของโชคชะตาครั้งสำคัญของครอบครัวเท็ค ด้วยในวันหนึ่งพระธิดาจะทรงเป็นสมเด็จพระราชินี แต่โชคร้ายที่เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดมิทรงเห็นพระธิดาเป็นสมเด็จพระราชินี เนื่องจากพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1897 ณ พระตำหนักขาว พระราชอุทยานริชมอนด์ มณฑลเซอร์เรย์ ขณะมีพระชนมายุ 62 พรรษาเศษ พระศพฝังอยู่ในห้องใต้ดินของโบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ เมืองวินด์เซอร์
พระอิสริยยศ
แก้- ค.ศ. 1833 - ค.ศ. 1866: เฮอร์รอยัลไฮเนส เจ้าหญิงแมรี แอดิเลดแห่งแคมบริดจ์ (Her Royal Highness Princess Mary Adelaide of Cambridge)
- ค.ศ. 1866 - ค.ศ. 1871: เฮอร์รอยัลไฮเนส เจ้าหญิงฟรานซิสแห่งเท็ค (Her Royal Highness Princess Francis of Teck)
- ค.ศ. 1871 - ค.ศ. 1897: เฮอร์รอยัลไฮเนส ดัชเชสแห่งเท็ค (Her Royal Highness The Duchess of Teck)
ราชตระกูล
แก้แมรี อเดเลดแห่งแคมบริดจ์ | พระชนก: เจ้าชายอดอลฟัส ดยุกแห่งเคมบริดจ์ |
พระอัยกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: เจ้าชายเฟรเดอริก เจ้าชายแห่งเวลส์ |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: ออกัสตาแห่งแซ็กซ์-ก็อตธา | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก: ชาร์ล็อตแห่งเม็คเล็นบูร์ก-สเตรลิตซ์ |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: ชาร์ลส์ ดยุคแห่งเม็คเล็นบูร์ก-มิโรว์ | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: เอลิซาเบธแห่งแซ็กซ์-ฮิลเดบูร์กเฮาเซิน | |||
พระชนนี: ออกัสตาแห่งเฮสส์-คาสเซิล |
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี: ฟรีดริชที่ 3 แห่งเฮสส์ |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: ฟรีดริชที่ 2 แห่งเฮสส์ | |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: แมรีแห่งบริเตนใหญ่ | |||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี: แคโรลีน โพลีซีนีแห่งนัสเซา-อูซิงเกิน |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: คาร์ล วิลเฮล์มแห่งนัสเซา-อูซิงเกิน | ||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: เค้านท์เตส แคโรลีน เฟลิซิตาสแห่งไลนิงเกิน |