เจ้าหญิงมาร์ธาแห่งสวีเดน

เจ้าหญิงมาร์ธาแห่งสวีเดน (อังกฤษ: Princess Märtha of Sweden, มาร์ธา โซเฟีย โลวิซา แด็กมาร์ ไธรา; 28 มีนาคม ค.ศ. 1901 - 5 เมษายน ค.ศ. 1954) ทรงเป็นมกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์พระองค์แรกในยุคปัจจุบัน ซึ่งมิได้ทรงเป็นมกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดนหรือเดนมาร์ก อีกทั้งยังทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งนอร์เวย์มาตั้งแต่แรกประสูติจนกระทั่งถึงการแยกออกตัวออกจากการรวมตัวกันระหว่างประเทศสวีเดนและนอร์เวย์ในปี ค.ศ. 1905

เจ้าหญิงมาร์ธา
มกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์
ดำรงพระยศ21 มีนาคม ค.ศ. 1929 - 5 เมษายน ค.ศ. 1954
ประสูติ28 มีนาคม ค.ศ. 1901(1901-03-28)
สต็อกโฮล์ม สวีเดนและนอร์เวย์
สิ้นพระชนม์5 เมษายน ค.ศ. 1954(1954-04-05) (53 ปี)
ออสโล ประเทศนอร์เวย์
ฝังพระศพ21 เมษายน ค.ศ. 1954
ป้อมปราการอาเกิชฮืส
พระสวามีสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์
พระนามเต็ม
มาร์ธา โซเฟีย โลวิซา แดกมาร์ ไทร่า
พระบุตร3 พระองค์
ราชวงศ์
พระบิดาเจ้าชายคาร์ล ดยุกแห่งเวสเตร์เกิตลันด์
พระมารดาเจ้าหญิงอิงเงอร์บอร์กแห่งเดนมาร์ก ดัชเชสแห่งเวสเตร์เกิตลันด์

พระองค์เป็นพระชายาและพระญาติชั้นที่สองในสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ เมื่อสมัยที่ยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร เนื่องจากพระชนกและพระชนนีของทั้งสองพระองค์เป็นพี่น้องกัน และเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน โดยทรงเกี่ยวข้องเป็นพระอัยยิกาอยู่ทางฝ่ายพระชนกของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน เนื่องจากทรงมีศักดิ์เป็นพระญาติชั้นที่สองในเจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟแห่งสวีเดน ดยุคแห่งวาสเตอร์บ็อตเต็น และเป็นพระชนนีในสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์

เจ้าหญิงประสูติเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1901 ณ กรุงสต็อกโฮล์ม โดยเป็นพระธิดาพระองค์รองในเจ้าชายคาร์ล ดยุกแห่งเวสเตร์เกิตลันด์ และ เจ้าหญิงอิงเงอร์บอร์กแห่งเดนมาร์ก ดัชเชสแห่งเวสเตร์เกิตลันด์ พระอัยกาทางฝ่ายพระชนกคือ สมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน ส่วนพระอัยกาฝ่ายพระชนนีคือ สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 8 แห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงมาร์กาเรธา พระภคินีองค์ใหญ่ทรงอภิเษกกับเจ้าชายแอ็กเซลแห่งเดนมาร์ก พระญาติชั้นที่หนึ่งทางฝ่ายพระชนนี ส่วนเจ้าหญิงอัสตริดแห่งสวีเดน พระขนิษฐาองค์เล็กทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งเบลเยียม ในขณะที่พระอนุชาพระองค์เล็กคือ เจ้าชายคาร์ลแห่งสวีเดน ดยุกแห่งออสเตอเกิตลานด์ ทรงอภิเษกสมรสต่างฐานันดรศักดิ์กับหญิงสาวสามัญชน

มกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ แก้

เจ้าหญิงทรงหมั้นหมายกับเจ้าชายโอลาฟ มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ พระญาติชั้นที่สอง ในช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี ค.ศ. 1928 ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ข่าวการหมั้นหมายของทั้งสองพระองค์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นเสมือนกับสัญญาณบ่งบอกว่าไม่เหลือความตึงเครียดระหว่างประเทศสวีเดนและประเทศนอร์เวย์หลังจากการแยกตัวออกจากกันในปี ค.ศ. 1905 อีกทั้งยังถือเป็นการจับคู่อันยอดเยี่ยมในด้านการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ให้แนบแน่น อันจะเห็นได้ชัดว่ามีต้นกำเนิดมาจากความรักด้วย

เจ้าหญิงมาร์ธาทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1929 ณ มหาวิหารออสโล กรุงออสโล กับ มกุฎราชกุมารโอลาฟ จึงทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ (Her Royal Highness The Crown Princess of Norway) ตลอดพระชนม์ชีพจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ สำหรับงานพิธีอภิเษกสมรสนี้ถือว่าเป็นงานพระราชพิธีของประเทศนอร์เวย์ในรอบ 340 ปี

เจ้าหญิงมาร์ธาซึ่งมีพระจริยวัตรอันมีเสน่ห์ เปิดเผยและทรงงานหนัก ทรงกลายเป็นสมาชิกในพระราชวงศ์นอร์เวย์ที่น่าชื่นชมและน่าเคารพอย่างรวดเร็ว พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานาประการ และยังทรงกล่าวสุนทรพจน์ต่าง ๆ มากมาย อันผิดธรรมดาสำหรับสตรีในพระราชวงศ์สมัยนั้น

เจ้าชายมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีประทับอยู่ที่พระตำหนักในเขตพระราชฐานเมืองสเคากุม ที่เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสจากฟริตซ์ เวเดล ยาร์ลส์แบร์ก เมื่ออาคารใหญ่ของพระราชวังสเคากุมถูกไฟเผาทำลายในปี ค.ศ. 1930 เจ้าหญิงมาร์ธาทรงมีส่วนร่วมอย่างมากในการวางแผนสร้างอาคารหลังใหม่ ทั้งสองพระองค์มีพระโอรสและธิดารวม 3 พระองค์คือ

  • เจ้าฟ้าหญิงรัญฮิลด์แห่งนอร์เวย์ (ราก์นฮิลด์ อเล็กซานดรา; 9 มิถุนายน ค.ศ. 1930 - 16 กันยายน ค.ศ. 2012)
    • ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 ณ เมืองแอสเคอร์ ใกล้กรุงออสโล กับ เออร์ลิง สเวน ลอเรนท์เซ็น (28 มกราคม ค.ศ. 1925 - 9 มีนาคม ค.ศ. 2021)
  • เจ้าฟ้าหญิงอัสตริดแห่งนอร์เวย์ (แอสตริด ม็อด อินเกบอร์ก; ประสูติ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1932)
    • ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1961 ณ เมืองแอสเคอร์ ใกล้กรุงออสโล กับ โยฮัน มาร์ติน เฟอร์เนอร์ (22 กรกฎาคม ค.ศ. 1927 - 24 มกราคม ค.ศ. 2015)
  • สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ (พระราชสมภพ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1937)
    • ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1957 หลังจากการเสวยราชสมบัติของพระชนก
    • เสวยราชสมบัติสืบต่อจากพระบรมราชชนก เมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1991
    • ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1968 ณ มหาวิหารออสโล กรุงออสโล กับ ซอนยา ฮารัลด์เซ็น (พระราชสมภพ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1937)

สงครามโลกครั้งที่ 2 แก้

เมื่อกองทัพเยอรมันบุกประเทศนอร์เวย์ในวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1940 พระราชวงศ์ รัฐบาลและสมาชิกส่วนมากของรัฐสภานอร์เวย์เตรียมการที่จะหลบหนีก่อนพวกทหารเยอรมันจะถึงกรุงออสโล เจ้าหญิงมาร์ธาและพระโอรสธิดาทั้งสามพระองค์ทรงข้ามชายแดนไปยังประเทศสวีเดนในคืนนั้น แต่กลับไม่เป็นที่ยอมรับของชาวสวีเดน บางคนเห็นว่าจะเป็นอันตรายต่อความเป็นกลางของประเทศ ในวันที่ 12 สิงหาคม ทุกพระองค์ได้เสด็จยังประเทศสหรัฐอเมริกาตามคำทูลเชิญของประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวลท์ โดยในระยะแรกทรงประทับที่ทำเนียบขาว อันเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1936 ก่อนการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในทวีปยุโรป เจ้าหญิงได้เสด็จพร้อมกับเจ้าชายโอลาฟไปในภาคกลางตะวันตกตอนบนของประเทศสหรัฐอเมริกา และระหว่างการเสด็จเยือนทั้งสองพระองค์ทรงได้เจริญสัมพันธไมตรีของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและภริยาคือ นางเอเลียนอร์ รูสเวลท์

สัมพันธภาพกับสหรัฐอเมริกาของทั้งสองพระองค์ได้เปิดทางอันสว่างไสวแก่เจ้าหญิงมาร์ธา ซึ่งทรงงานอย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ต่าง ๆ ของประเทศนอร์เวย์ พระองค์ทรงเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย นับตั้งแต่การเสด็จเยือนอย่างเป็นทางการ การบรรยายและกล่าวสุนทรพจน์ ตลอดไปจนถึงการให้ความช่วยเหลือและเข้าร่วมหน่วยงานอาสาบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ลี้ภัยในสภากาชาด การกระทำประโยชน์ดังกล่าวของเจ้าหญิงได้สร้างความประทับใจให้แก่ประธานาธิบดีรูสเวลท์เป็นอย่างมากและส่งผลให้เกิดสุนทรพจน์ชื่อ "มองไปสู่นอร์เวย์" (Look to Norway) เมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 1942

เจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีทรงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่เมื่อเสด็จกลับสู่ประเทศนอร์เวย์พร้อมพระโอรสธิดาและสมเด็จพระราชาธิบดีโฮกุนที่ 7 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1945 ความมานะอุตสาหะอย่างไม่หยุดหย่อนของพระองค์ในการช่วยเหลือประเทศชาติระหว่างสงครามทำให้ทรงเป็นที่นิยมชมชอบต่อชาวนอร์เวย์เป็นอย่างมาก และทำให้ทรงได้รับพระสมัญญาว่า "แม่ของแผ่นดิน" (mother of the nation)

เมื่อพระพลานามัยของสมเด็จพระราชาธิบดีโฮกุนย่ำแย่ลง เจ้าชายมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงมุฎราชกุมารีก็ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เพิ่มขึ้นมากมาย เจ้าหญิงทรงมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการนานัปการ แม้แต่การกล่าวสุนทรพจน์ก่อนวันขึ้นปีใหม่เป็นประจำทุกปีในปี ค.ศ. 1946 และ ค.ศ. 1950

สิ้นพระชนม์ แก้

เจ้าหญิงมาร์ธามีพระพลานามัยไม่สมบูรณ์แข็งแรงและประชวรอยู่หลายครั้ง พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1954 ณ กรุงออสโล เมื่อพระชันษา 53 ปี สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้แก่มกุฎราชกุมารโอลาฟ พระสวามี พระโอรสและธิดา รวมไปถึงประเทศนอร์เวย์ด้วย

พระองค์มิได้ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์อย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตาม โยฮันเนส สเมโม พระราชาคณะแห่งออสโลได้กล่าวไว้ว่า "ในหัวใจของพวกเราชาวนอร์เวย์ พระองค์ได้เป็นพระราชินีของพวกเรามานานแล้ว และจะทรงเป็นเช่นนี้อยู่ตลอดไป"

พระอิสริยยศ แก้

  • 28 มีนาคม 1901 - 7 มิถุนายน 1905: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมาร์ธาแห่งสวีเดนและนอร์เวย์ (Her Royal Highness Princess Märtha of Sweden and Norway)
  • 7 มิถุนายน 1905 - 21 มีนาคม 1929: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมาร์ธาแห่งสวีเดน (Her Royal Highness Princess Märtha of Sweden)
  • 21 มีนาคม 1929 - 5 เมษายน 1954: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ (Her Royal Highness The Crown Princess of Norway)

พงศาวลี แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้