เจ้าพระยาราชศุภมิตร (อ๊อด ศุภมิตร)

พระตำรวจเอก เจ้าพระยาราชศุภมิตร นามเดิม อ๊อด เป็นขุนนางชาวสยาม ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น องคมนตรี ราชองครักษ์พิเศษ สมุหพระตำรวจ ต้นสกุลศุภมิตร[1]

เจ้าพระยาราชศุภมิตร
(อ๊อด ศุภมิตร)
สมุหพระตำรวจ
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2456 – พ.ศ. 2469
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ก่อนหน้าพระยาอนุชิตชาญไชย (สาย สิงหเสนี)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด8 มกราคม พ.ศ. 2398
เสียชีวิต20 เมษายน พ.ศ. 2472 (74 ปี)
คู่สมรสท่านผู้หญิงแปลก
หม่อมกอง
บุตร3
บุพการี
  • พระมหาสงคราม (ศุข) (บิดา)
  • ท่านเป้า (มารดา)
ภาพล้อเจ้าพระยาราชศุภมิตร ฝีพระหัตถ์ รัชกาลที่ 6

ประวัติ แก้

เจ้าพระยาราชศุภมิตร มีนามเดิมว่าอ๊อด เป็นบุตรพระมหาสงคราม (ศุข) กับท่านเป้า ธิดาพระยาศรีอรรคราชนารถภักดี (เมือง บุรานนท์) เกิดเมื่อวันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2398 ปีเถาะ[2]

ปี พ.ศ. 2411 ได้เข้ารับราชการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตำแหน่งมหาดเล็กวิเศษ เวรฤทธิ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2427 ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นหลวงศิลปสารสราวุธ ถือศักดินา 800[3]ถึงปี พ.ศ. 2428 เลื่อนเป็นจมื่นวิชิตไชยศักดาวุธ ถือศักดินา 1000[4]ต่อมาในปี พ.ศ. 2430 ได้รับพระราชทานยศ "พันตรี" ถือศักดินา 1500[5]และในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435 ได้เลื่อนเป็นพระราชวัลภานุสิษฐ์ มีตำแหน่งราชการในกรมยุทธนาธิการ ถือศักดินา 1,000[6] โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์ประจำการในตำแหน่ง ผู้บังคับการกองทหารมหาดเล็ก[7]

วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2437 ได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรีพร้อมทั้งเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์เป็นนายพันโท พระยาราชวัลภานุสิษฐ์ มีตำแหน่งราชการในกรมยุทธนาธิการ ถือศักดินา 1,500[8] ปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์ประจำรักษาพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร[9] อยู่ตลอดเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ส่งสัญญาบัตรไปพระราชทาน พระยาราชวัลภานุสิษฐ์ เป็น นายพันเอก[10] ต่อมาทรงสำเร็จการศึกษาแล้วเสด็จกลับมาประทับ ณ พระนคร ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นลำดับจนถึงนายพลตรี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2446[11]และพ้นจากหน้าที่ราชองครักษ์ประจำการเพราะครบกำหนดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446[12]

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ถือน้ำตั้งเป็นองคมนตรีในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2453[13] และราชองครักษ์ประจำการตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2453[14] ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นสมุหพระตำรวจตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 แทนพระยาอนุชิตชาญไชย (สาย สิงหเสนี) ที่ลาออกด้วยปัญหาสุขภาพ[15] วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2461 ได้เลื่อนยศเป็นพระตำรวจเอก[16] และในวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 ทรงสถาปนาเป็นเจ้าพระยา มีสมญาจารึกในหิรัญบัฏว่า เจ้าพระยาราชศุภมิตร์ วัลลภานุศิษฏ์สุรเสนี เทพวัชรีศรีมหาสวามิภักดิ์พิเศษ วิเทศจิรวาสีอัคระวราภิบาล สุจริตไพศาลสุนทรพจน์ อดุลยยศราชองครักษ์ อัคระรัตนไตรยสรณธาดา เมตตาชวาธยาศัย อภัยพิริยบรากรมพาหุ ถือศักดินา 10,000[17]

ถึงต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาราชศุภมิตรได้ขอลาออกจากราชการ แต่ทรงตั้งท่านเป็นผู้กำกับการกรมพระตำรวจหลวงและพระราชทานเบี้ยบำนาญเป็นกรณีพิเศษ[18]

เจ้าพระยาราชศุภมิตร ป่วยด้วยโรคชรา ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2472 ปีมะเส็ง สิริอายุ 74 ปี ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ชั้นรอง 2 ชั้น ฉัตรเบญจา 4 คัน ประกอบศพเป็นเกียรติยศ[19] ได้รับพระราชทานเพลิงศพในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2473 ณ เมรุวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

ยศ แก้

  • นายหมู่ตรี
  • 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2454 - นายหมู่เอก[20]
  • 11 มกราคม 2455 – นายหมู่ใหญ่[21]
  • 4 มิถุนายน 2456 – นายกองตรี[22]
  • นายกองเอก
  • 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2463 - นายกองใหญ่[23]

ครอบครัว แก้

เจ้าพระยาราชศุภมิตร สมรสกับท่านผู้หญิงแปลก ในปี พ.ศ. 2438 มีบุตรได้แก่ นางวิมลา บุรานนท์ ซึ่งสมรสกับนายประจวบ บุรานนท์ มีบุตรสามคน คือ

  1. พล.ต.ต. อังกูร บุรานนท์ (สามีของอดีตนางงามและอดีตนางเอกชื่อดังอมรา อัศวนนท์)
  2. นายประวิตร บุรานนท์
  3. นายทนง บุรานนท์

เจ้าพระยาราชศุภมิตร มีภรรยาอีกหนึ่งคนคือหม่อมกอง และมีบุตรชายคือมหาเสวกตรี พระยาสมบัติบริหาร (เอื้อ ศุภมิตร)[18] ซึ่งส่งไปศึกษาเรื่องป่าไม้ที่ประเทศอินเดีย และรับราชการในกรมป่าไม้ ต่อมาได้เป็นพระยาพระคลังข้างที่ สมรสกับคุณหญิงฟองแก้ว บุตรีหลวงโยธการพิจิตร (หม่องปันโหย่ว) เจ้าของสัมปทานป่าไม้ของเชียงใหม่และกาดต้นลำไย เรือนโบราณในโรงแรมเพชรงาม จ.เชียงใหม่ ร้านอาหารเฮือนโบราณ มีบุตรคือ

  1. นางสุมิตรา และ
  2. ร.ต. อานนท์ ศุภมิตร สมรสกับท่านผู้หญิงพึงจิตต์ (บุตรีหลวงพลหาญสงคราม (จิตร อัคนิทัต) กับนางไสว อัคนิทัต)(ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2566) คุณข้าหลวงคนแรกในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีบุตรี 1 คน คือ นางจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีบุตรี 1 คนคือ ด.ญ.โสภิภาส์ ศุภมิตร ไล

ร.ต อานนท์ ศุภมิตร มีบุตรจากการสมรสครั้งก่อนๆ คือ1 นางอรอนงค์ -เรือเอกวินัย มงกุฎทอง 2 นางอังศณา -มร. คาส อดัม 3 นายอดิศร ศุภมิตร 4 นายศศิพงษ์ -นางรดา ศุภมิตร 5. นางอุมาภรณ์ เลสลี 6. นายศิริชัย-นางพนิดา ศุภมิตร

เจ้าพระยาราชศุภมิตร มีบุตรที่เกิดกับนางทรัพย์ 1 คน คือคุณหญิงอิง อนุชิตชาญชัย ภริยาพระตำรวจโท พระยาอนุชิตชาญชัย (พงษ์ สวัสดิ์-ชูโต)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

เจ้าพระยาราชศุภมิตร (อ๊อด ศุภมิตร) ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งสยามและต่างประเทศ ดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์สยาม แก้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ แก้

อ้างอิง แก้

เชิงอรรถ
  1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงมุรธาธร เรื่อง ประกาศพระราชทานนามสกุล ครั้งที่ 1 เก็บถาวร 2011-11-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 30, ตอน 0 ง, 26 มิถุนายน พ.ศ. 2456, หน้า 650
  2. เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 200
  3. พระราชทานสัญญาบัตร ตั้งตำแหน่ง (หน้า 285 ลำดับที่ 294)
  4. สัญญาบัตรปีระกาสัปตศก
  5. ข่าวพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนตำแหน่งข้าราชการ
  6. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง เก็บถาวร 2020-03-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 9, ตอน 35, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2435, หน้า 291
  7. ประกาศกรมยุทธนาธิการ ศาลายุทธนาธิการ
  8. 8.0 8.1 ราชกิจจานุเบกษา, ทรงตั้งองคมนตรี และพระราชทานสัญญาบัตร เครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑ ตอนที่ ๔๕ หน้า ๓๘๓, ๓ กุมภาพันธ์ ๑๑๓
  9. ราชกิจจานุเบกษา, กราบถวายบังคมลา, เล่ม 11, ตอน 45, 3 กุมภาพันธ์ ร.ศ.113, หน้า 383
  10. ส่งสัญญาบัตร์ทหารไปพระราชทาน
  11. พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก
  12. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกรมยุทธนาธิการ เรื่อง ให้พระยารามกำแหง เป็นผู้บัญชาการทหารบก มณฑลกรุงเทพ ฯ ให้พระพิเรนทรเทพ เป็นราชองครักษ์ประจำการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเปลี่ยนพระยาราชวัลภานุสิษฐ์, เล่ม 20, ตอน 49, 6 มีนาคม พ.ศ. 2446, หน้า 835-6
  13. "บัญชีพระนามและนามองคมนตรี ที่พระราชทานสัญญาบัตรแล้ว" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 27 (ตอน 0 ง): หน้า 2276. 1 มกราคม ร.ศ. 129. สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม พ.ศ. 2564. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  14. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกรมยุทธนาธิการ เรื่อง ให้นายพันโท พระยาอภัยพลภักดิ์ ออกจากตำแหน่งราชองครักษ์ประจำการ และรับพระราชทานเบี้ยบำนาญตามพระราชบัญญัติให้นายพลตรี พระยาราชวัลภานุศิษฎ์เป็นราชองครักษ์ประจำการ, เล่ม 27, ตอน 0 ง, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453, หน้า 2012
  15. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระยาอนุชิตชาญไชย ลาออกจากตำแหน่ง สมุหพระตำรวจ และตั้งพระยาราชวัลภานุศิษฎ์ เป็นสมุหพระตำรวจแทน, เล่ม 29, ตอน ก, 30 มีนาคม พ.ศ. 2455, หน้า 294-5
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเลื่อนยศข้าราชการกรมพระตำรวจหลวงรักษาพระองค์, เล่ม 35, ตอน ง, 5 มกราคม พ.ศ. 2461, หน้า 2707
  17. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนกรม ตั้งกรมและตั้งเจ้าพระยา, เล่ม 37, ตอน 0 ก, 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463, หน้า 297-300
  18. 18.0 18.1 เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 203
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวถึงอสัญญกรรม, เล่ม 46, ตอน ง, 28 เมษายน พ.ศ. 2472, หน้า 249-251
  20. พระราชทานสัญญาบัตรเสือป่า
  21. พระราชทานสัญญาบัตรเสือป่า
  22. พระราชทานสัญญาบัตรเสือป่า
  23. พระราชทานยศนายเสือป่า (หน้า ๔๑๔๐)
  24. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๒๙๑, ๑๗ กันยายน ๑๓๐
  25. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๓๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๘๐๓, ๒๘ พฤศจิกายน ๒๔๖๓
  26. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๓๐ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๖๓, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๕๖
  27. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๔๐๒, ๑๑ มกราคม ๑๒๙
  28. ราชกิจจานุเบกษา, รายพระนามและนามผู้รับพระราชทานตราวัลลภาภรณ์ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๒ และแถลงความชอบของผู้นั้นๆ, เล่ม ๓๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๐, ๖ เมษายน ๒๔๖๒
  29. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานตราวชิรมาลา, เล่ม ๒๙ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๕๘๘, ๙ มิถุนายน ๑๓๑
  30. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐ ตอนที่ ๔๑ หน้า ๔๕๔, ๗ มกราคม ๑๑๒
  31. ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน, เล่ม ๔๓ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๔๕, ๒ พฤษภาคม ๒๔๖๙
  32. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๓๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๓๘๒, ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๖๔
  33. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชรุจิ, เล่ม ๒๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๗๑๖, ๙ กรกฎาคม ๑๓๐
  34. 34.0 34.1 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๘ ตอนที่ ๓๕ หน้า ๖๘๘, ๑ ธันวาคม ๑๒๐
  35. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๒๔ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๓๒, ๓๐ มิถุนายน ๑๒๖
  36. 36.0 36.1 36.2 36.3 36.4 ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญต่างประเทศ, เล่ม ๑๙ ตอนที่ ๒๕ หน้า ๕๐๑, ๒๑ กันยายน ๑๒๑
บรรณานุกรม