เจ้าพระยามหาเสนา (เสน)

เจ้าพระยามหาเสนา นามเดิม เสน เป็นบุตรชายของเจ้าพระยาเพ็ชร์พิไชย (ใจ) สมุหนายกในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งสืบเชื้อสายจากเจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด) ขุนนางคนสำคัญในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมและสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง

เจ้าพระยามหาเสนา (เสน)
สมุหพระกลาโหมแห่งกรุงศรีอยุธยา
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2301
ข้อมูลส่วนบุคคล
คู่สมรสพวงแก้ว
หม่อมบุญศรี
บุตรเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค)
บุพการี

ประวัติ แก้

เจ้าพระยามหาเสนา (เสน) เป็นบุตรคนที่ 3 ของเจ้าพระยาเพ็ชร์พิไชย (ใจ) กับท่านแฉ่ง ท่านมีพี่สาวคนหนึ่งชื่อ แก้ว ได้แต่งงานกับ เจ้าพระยามหาเสนา ที่สมุหพระกลาโหมในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและมีบุตรด้วยกันถึง 3 คนโดยคนสำคัญที่สุดชื่อ ปลี ซึ่งต่อมาคือ เจ้าพระยามหาเสนา สมุหพระกลาโหมคนแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท่านได้รับราชการในวังหน้าตั้งแต่สมัยเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ (เจ้าฟ้ากุ้ง) ที่ พระยาเสน่หาภูธร จางวางมหาดเล็ก ต่อมาเมื่อเจ้าฟ้ากุ้งสิ้นพระชนม์ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงโปรดเกล้าสถาปนาเจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิต พระราชโอรสพระองค์เล็กขึ้นเป็นพระมหาอุปราชแทน พร้อมกับแต่งตั้งพระยาเสน่หาภูธรขึ้นเป็น พระยาจ่าแสนยากร จางวางกรมมหาดไทยต่อมาเมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสวรรคตในปี พ.ศ. 2301 พระมหาอุปราชจึงขึ้นครองราชย์ พร้อมกันนั้นโปรดให้แต่งตั้งข้าหลวงเดิมหลายท่านเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ โดยพระยาจ่าแสนยากรได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็น เจ้าพระยามหาเสนาที่สมุหพระกลาโหมอัครมหาเสนาบดีปักษ์ใต้ เช่นเดียวกับพี่เขยของท่าน

บุตร-ธิดา แก้

ด้านชีวิตครอบครัวของท่านท่านสมรสกับ ท่านพวงแก้ว ธิดาเจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ (ขุนทอง) มีบุตรธิดารวม 4 คน ได้แก่

  1. เป็นหญิงชื่อ เป้า
  2. เป็นหญิงชื่อ แป้น
  3. เป็นหญิงชื่อ ทองดี (หญิงทั้ง 3 คนพม่าเอาตัวไป ในคราวเสียพระนครศรีอยุธยา)
  4. เป็นชายชื่อ บุญมา ต่อมาคือ เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา สมุหพระกลาโหม ในสมัยรัชกาลที่ 2

ต่อมาท่านสมรสอีกครั้งกับหม่อมบุญศรี ภรรยาพระราชทานจากเจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ มีบุตรชาย 1 คน ได้แก่ บุนนาค ซึ่งต่อมาคือเจ้าพระยามหาเสนา (บุนนาค) สมุหพระกลาโหมคนที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

อ้างอิง แก้