ฮันส์ ฟ็อน เซคท์
พลเอกอาวุโส โยฮันเนิส ฟรีดริช เลโอพอลด์ ฟ็อน เซคท์ (เยอรมัน: Johannes Friedrich Leopold von Seeckt) หรือนิยมเรียก ฮันส์ ฟ็อน เซคท์ เป็นนายทหารชาวเยอรมันและเป็นเสนาธิการของจอมพลเอากุสท์ ฟ็อน มัคเค็นเซิน ถือเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการวางแผนจนมัคเค็นเซินได้รับชัยชนะในต้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ฮันส์ ฟ็อน เซคท์ | |
---|---|
Hans von Seeckt | |
หัวหน้าคณะเสนาธิการใหญ่จักรวรรดิเยอรมัน | |
ดำรงตำแหน่ง 7 กรกฎาคม 1919 – 15 กรกฎาคม 1919 | |
ก่อนหน้า | วิลเฮ็ล์ม เกรอเนอร์ |
ถัดไป | ยุบเลิกตำแหน่ง |
อธิบดีกรมทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 26 มีนาคม 1920 – 9 ตุลาคม 1926 | |
ประธานาธิบดี | ฟรีดริช เอเบิร์ท เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค |
ก่อนหน้า | วัลเทอร์ ไรน์ฮาร์ท |
ถัดไป | วิลเฮ็ล์ม ไฮเออ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 22 เมษายน ค.ศ. 1866 เชลสวิจ, สมาพันธรัฐเยอรมัน |
เสียชีวิต | 27 ธันวาคม ค.ศ. 1936 กรุงเบอร์ลิน, นาซีเยอรมนี | (70 ปี)
ชื่อเล่น | สฟิงซ์ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | |
ประจำการ | 1885–1926 1933–1935 |
ยศ | พลเอกอาวุโส (Generaloberst) |
ผ่านศึก | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง |
เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เซคท์รู้สึกเดือดดาลมากต่อข้อบังคับในสนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งห้ามเยอรมนีมีทหารบกเกินหนึ่งแสนนาย ห้ามมีอาวุธทันสมัย ห้ามมียานเกราะ ฯลฯ เขายังคัดค้านการที่เยอรมนีจะเข้าเป็นสมาชิกสันนิบาตชาติ ถึงแม้ว่าเซคท์จะไม่อยากให้สงครามอีก แต่เขาก็เชื่อว่าภาวะเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดสงครามอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้[1] และทหารเยอรมันจำเป็นต้องมีความพร้อมสรรพเพื่อสู้ศึกครั้งต่อไป ไม่งั้นเยอรมนีก็ต้องอยู่รอดบนความเมตตาของเพื่อนบ้านเท่านั้น บันทึกของเซคท์ระบุว่า "การศึกษาประวัติศาสตร์มามันขัดขวางไม่ให้ฉันมองเห็นความคิดเรื่องสันติภาพถาวรเป็นอะไรอื่นไปได้นอกจากความฝัน"[2]
นายพลเซคท์ดำรงตำแหน่งเสนาธิการไรชส์แวร์ระหว่างปี 1919 ถึง 1920 และเป็นอธิบดีกรมทหารบก (Chef der Heeresleitung) ตั้งแต่ปี 1920 ในช่วงที่เขานำกองทัพบกนี้เอง เซคท์ต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้กองทัพอ่อนแอลง เขาจึงปฏิรูปกองทัพบก คอยปลูกฝังคติทหาร ฝึกฝน วางกลยุทธ์ และจัดระเบียบบริหารกองทัพ[3] เขาได้รับยศพลเอกอาวุโสในวันแรกของปี 1926 และในเดือนตุลาคมปีเดียวกันก็ถูกรัฐบาลบีบบังคับให้ลาออก ยามที่เขาลาออกไรชส์แวร์ก็อยู่ในระดับพร้อมรบ ทฤษฎีและวีธีรบอันชาญฉลาดที่เขาสร้างไว้เป็นต้นทุน ถูกกองทัพเยอรมันนำไปปฏิบัติในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่สอง[4][5]
นายพลเซคท์ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาไรชส์ทาคระหว่างปี 1930 ถึง 1932 จากนั้นในปี 1933 เขาเดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อเป็นผู้บัญชาการทหารเยอรมันประจำจีน[6] ขณะนั้นความสัมพันธ์จีน-เยอรมันอยู่ในภาวะย่ำแย่ จากการที่ทหารเยอรมันมีชอบวางก้ามต่อคนจีน จีนคิดจะไล่เยอรมันออกไปและนำฝรั่งเศสเข้ามาแทน[6] นายพลเซคท์สั่งทหารเยอรมันให้ประพฤติต่อชาวจีนด้วยความเคารพและเริ่มแสดงความอ่อนน้อมต่อจีน[6] ด้วยเหตุนี้ นายพลเซคท์จึงรักษาจุดยืนของเยอรมันในแผ่นดินจีนไว้ได้[6] เซคท์ได้เป็นที่ปรึกษาทางทหารให้แก่เจียง ไคเชก ในสงครามต่อต้านจีนคอมมิวนิสต์ เขาได้รับผิดชอบในการประดิษฐ์แผนค่ายวงล้อม ซึ่งทำให้ได้รับชัยชนะเหนือกองทัพจีนคอมมิวนิสต์ และบีบให้เหมา เจ๋อตง ต้องถอยร่นกว่า 9,000 กิโลเมตรที่เรียกว่า "ฉางเจิง"
อ้างอิง
แก้- ↑ Wheeler-Bennett 2005, pp. 133–138.
- ↑ Wette 2006, p. 144.
- ↑ Corum 1992, p. 79.
- ↑ Heeresdienstvorschrift 487: Fuhrung und Gefecht der verbundenen Waffen (Berlin, Germany: Verlag Offene Worte, 1921, 1923).
- ↑ Murray 2000, p. 22.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 Liang, Hsi-Huey "China, the Sino-Japanese Conflict and the Munich Crisis" pages 342-369 from The Munich Crisis edited by Erik Goldstein and Igor Lukes, Frank Cass: London, 1999 page 346.
ก่อนหน้า | ฮันส์ ฟ็อน เซคท์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พลโท วิลเฮ็ล์ม เกรอเนอร์ | หัวหน้าคณะเสนาธิการใหญ่ (7 กรกฎาคม 1919 – 15 กรกฎาคม 1919) |
ไม่มี; ยุบเลิกตำแหน่ง | ||
พลตรี วัลเทอร์ ไรน์ฮาร์ท | อธิบดีกรมทหารบก (26 มีนาคม 1920 – 9 ตุลาคม 1926) |
พลเอกอาวุโส วิลเฮ็ล์ม ไฮเออ |