ฮอนด้า ฟรีด
ฮอนด้า ฟรีด (อังกฤษ: Honda Freed, ญี่ปุ่น: ホンダ・フリード; โรมาจิ: Honda furīdo) เป็นรถยนต์เอนกประสงค์ขนาดเล็กมาก ผลิตโดยบริษัทฮอนด้า เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยเข้ามาแทนที่ฮอนด้า โมบิลิโอ รถมินิแวนทรงกล่องที่เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2544 และเลิกผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยใช้พื้นฐานของฮอนด้า แจ๊ซ, ซิตี้ และอินไซท์
ฮอนด้า ฟรีด | |
---|---|
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | ฮอนด้า |
เริ่มผลิตเมื่อ | 2551–ปัจจุบัน |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
ประเภท | รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดเล็กมาก |
รูปแบบตัวถัง | มินิแวน 5 ประตู |
โครงสร้าง | เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนสอง/สี่ล้อ |
รุ่นที่คล้ายกัน | ฮอนด้า แจ๊ซ ฮอนด้า ซิตี้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี |
ระยะเหตุการณ์ | |
รุ่นก่อนหน้า |
|
รุ่นต่อไป | ฮอนด้า โมบิลิโอ (อินโดนีเซีย) |
ในประเทศไทย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเข้าฮอนด้า ฟรีด จากอินโดนีเซีย เข้ามาจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2552 ถือเป็นการกลับมาของตลาดมินิแวนในประเทศไทยของฮอนด้า เพราะฮอนด้าเองก็เว้นว่างจากการลงสู่สมรภูมิรบมินิแวนในประเทศไทยมานานมาก ตั้งแต่ช่วงที่ฮอนด้าเลิกสั่งนำเข้าฮอนด้า สตรีม และฮอนด้า โอดิสซีย์ เมื่อปี พ.ศ. 2549
ต่อมาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ได้มีการเปิดตัวรุ่นไฮบริดด้วย และได้เริ่มวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2554[1]
ที่มา
แก้ฮอนด้าในญี่ปุ่นต้องการที่จะทำรถยนต์มินิแวนออกมาเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรถมินิแวนอเนกประสงค์ ไม่เฉพาะฮอนด้า สตรีม เท่านั้น เพียงแต่ว่างบประมาณไม่มากพอที่จะอุดหนุนรถมินิแวนรุ่นอื่น ๆ ของฮอนด้า ทั้งฮอนด้า สเตปวากอน, ฮอนด้า โอดิสซี และฮอนด้า อีลิชั่น โดยฮอนด้าทำมินิแวนรุ่นแรกออกมา ซึ่งก็คือ ฮอนด้า โอดิสซีย์ (อังกฤษ: Honda Odyssey) นั่นเอง ซึ่งตลาดนี้เคยเป็นตลาดที่นิสสันเคยบุกเบิกเอาไว้ หมายความว่าฮอนด้ายังไม่เคยทำรถมินิแวนที่มีขนาดเล็กกว่าสตรีมไปจำหน่าย ในปี พ.ศ. 2544 ฮอนด้าจึงได้เปิดตัวโมบิลิโอออกมา สร้างขึ้นบนพื้นฐานของแจ๊ซรุ่นแรก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากตัวรถที่ดูแข็ง ๆ เป็นทรงกล่อง และเครื่องยนต์ที่สมรรถนะไม่ได้ดีพอ ถึงแม้ว่าจะกระตุ้นตลาดด้วยรุ่น Mobilio Spike เพื่อเอาใจลูกค้าวัยรุ่นแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ฮอนด้าเองก็ยังไม่ยอมแพ้ เพราะตลาดมินิแวนขนาดเล็กยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก ฮอนด้าจึงสร้างฟรีดออกมา โดยใช้พื้นฐานของฮอนด้า แจ๊ซ,ซิตี้ และอินไซท์ และนำชื่อจากคำว่า Freedom มาตั้งชื่อรถ โดยตัดตัวอักษร om ออกไป ฮอนด้าได้แรงบันดาลใจมาจากร้านกาแฟในย่านเซตากายะ โตเกียว และในประเทศอิตาลี จนในที่สุด ฮอนด้าก็ได้เปิดตัวฟรีดภายใต้แนวคิด "Tri-angle + Square" แสดงให้เห็นถึงความโฉบเฉี่ยว และเอนกประสงค์ จนประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น และมีกระแสที่แรงใช้ได้ จนกระแสก็เริ่มเล็ดลอดมายังชาวอินโดนีเซียและชาวไทยในเครือข่ายสังคมออนไลน์จนกระทั่งพบว่ากระแสของรถมินิแวนในอินโดนีเซียมีความรุนแรงมาก ในอดีต ฮอนด้าเคยนำสตรีมไปขึ้นสายการประกอบในอินโดนีเซียเช่นกัน แต่ปัญหาจากการประกอบในโรงงานที่อินโดนีเซีย ทำให้สตรีมไม่ประสบความสำเร็จมากนักในตลาดอาเซียน แม้จะออกรุ่นไมเนอร์เชนจ์มาแก้ภาพลักษณ์แล้วก็ตาม แต่ฮอนด้าก็อยากนำรถมินิแวนมาทำตลาดในย่านนี้อยู่แล้ว จึงนำฟรีดมาขึ้นสายการประกอบในอินโดนีเซียนั่นเอง รถรุ่นนี้ มีเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT มีฐานการประกอบที่ประเทศอินโดนีเซีย
รุ่นที่หนึ่ง (GB3/GB4/GP3; พ.ศ. 2551–2559)
แก้เครื่องยนต์
แก้ฮอรด้า ฟรีด ได้ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลัง 118 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกันกับฮอนด้าแจ๊ซ/ซิตี้ แต่เครื่องยนต์ได้มีแรงบิดที่สูงกว่า อย่างเช่นเครื่องยนต์ของฟรีดมี 118 แรงม้า และมีแรงบิด 148 นิวตันเมตร ในขณะที่เครื่องยนต์ของแจ๊ซ/ซิตี้มีกำลัง 120 แรงม้า แต่มีแรงบิด 145 นิวตันเมตร
ราคาที่จำหน่ายในประเทศไทย
แก้ราคาก่อนไมเนอร์เชนจ์ (พ.ศ. 2552)
- Honda Freed S (ประตูเปิดปิดแบบ Manual) 894,500 บาท
- Honda Freed E (ประตูไฟฟ้าเปิดปิดอัตโนมัติ) 974,000 บาท
- Honda Freed E Sport 1,014,500 บาท
- Honda Freed E Navi Sport 1,074,500 บาท ซึ่งรุ่นนี้มีอุปกรณ์เลือกเพิ่มเป็นเครื่องเล่นดีวีดีและกล้องมองหลัง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 ได้มีการเพิ่มรุ่นพิเศษ FREED Limited โดยเสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ชุดเครื่องเล่นดีวีดี ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ กล้องส่องหลัง และสัญลักษณ์ Limited เปิดราคาอยู่ที่ 939,500 บาท
ราคาหลังไมเนอร์เชนจ์ พ.ศ. 2555 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์บางอย่าง เช่น เปลี่ยนล้ออัลลอย, กระจังหน้า, กันชนหน้า, จอดีวีดี
- SE 839,000 บาท
- SE White 849,000 บาท
- EL 949,000 บาท
- EL White 959,000 บาท
ราคาปี พ.ศ. 2556 โดยที่สีขาวเพิ่มราคา 10,000 บาท และสีดำเพิ่มราคา 8,000 บาท
- SE 834,000 บาท
- E 879,000 บาท
- EL 959,000 บาท
รุ่นที่สอง (GB5/GB6/GB7/GB8; พ.ศ. 2559–ปัจจุบัน)
แก้ฮอนด้า ฟรีด รุ่นที่ 2 ได้เผยโฉมเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 และได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559[2] ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ได้มีแคมเปญโฆษณาฟรีดรุ่นที่สองในญี่ปุ่นโดยใช้เพลงแฮปปี้ ของฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์[3]
ฟรีดโฉมนี้ได้มาพร้อมกับรูปแบบ “Dynamism and Functionality” และเมื่อดูในภาพรวมก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรแตกต่างไปจากโฉมที่แล้วมากนัก นอกเหนือจากมีการเปลี่ยนแปลงให้ดูดีขึ้นก็ได้มีการปรับปรุงประตูสไลด์ใหม่ด้วย[4]
ฟรีดโฉมนี้ได้มีรุ่น 5 ที่นั่งในชื่อ ฟรีด+ ซึ่งมาแทนชื่อรุ่น ฟรีด สไปก์ ในโฉมที่แล้ว