อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย[5] อุทยานแห่งนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น และการผจญภัยขึ้นสู่ลานสนสามใบอันสวยงาม มีเนื้อที่กว้างประมาณ 1,000 ไร่ มีความสวยงามมาก มีถนนลาดยาง เข้าถึงพื้นที่ทำให้สะดวกสบายในการเดินทางพักผ่อนหย่อนใจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีเนื้อที่ 125,110 ไร่ หรือ 200.18 ตารางกิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ลานสน
แผนที่แสดงที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
แผนที่แสดงที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
แผนที่แสดงที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
แผนที่แสดงที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (ประเทศไทย)
ที่ตั้งอำเภอบ้านโคก อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
พิกัด17°44′N 101°0′E / 17.733°N 101.000°E / 17.733; 101.000
พื้นที่340 km2 (130 sq mi)[1]
จัดตั้ง28 พฤษภาคม 2551 (2551-05-28)[2]
ผู้เยี่ยมชม19,706[3] (2562)
หน่วยราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ประวัติ แก้

 
บริเวณลานสนที่ความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ด้านหลังคือยอดภูสอยดาว ความสูง 2,102 เมตร)

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว แต่เดิมเป็นวนอุทยานภูสอยดาว ได้สำรวจจัดตั้งเป็นวนอุทยานภูสอยดาว โดยสำนักงานป่าไม้เขตพิษณุโลก เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 มีพื้นที่เพียง 20,000 ไร่ จนกระทั่งปีงบประมาณ พ.ศ. 2535 กรมป่าไม้ได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานป่าไม้เขตพิษณุโลกทำการสำรวจพื้นที่ เพิ่มเติมเพื่อผนวกเข้ากับพื้นที่เดิมของวนอุทยานภูสอยดาว ผลการสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และในเขตป่าไม้ถาวรตามป่าภูสอยดาวท้องที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ป่าภูสอยดาว ท้องที่อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ตามมติคณะรัฐมนตรีได้เนื้อที่รวม 48,962.5 ไร่ หรือ 78.34 ตารางกิโลเมตร

ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2536 สำนักงานป่าไม้เขตพิษณุโลกได้ขอจัดตั้งวนอุทยานภูสอยดาวเป็นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ได้รายงานให้กรมป่าไม้ทราบว่า พื้นที่วนอุทยานภูสอยดาวเป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ จึงเห็นสมควรที่จะรักษาพื้นที่ป่าแห่งนี้ไว้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ใกล้เคียงยังมีสภาพป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์ สามารถผนวกเป็นเขตอุทยานแห่งชาติได้อีกเป็นจำนวนมาก โดยกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จนกระทั่งปี 2551 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 71 ก ลงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551[6]

สภาพภูมิประเทศภูมิอากาศ แก้

 

ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับ ซ้อนตั้งแต่ทิศเหนือจดทิศใต้ เป็นเทือกเขากั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 500-1,800 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่าไม้ประมาณร้อยละ 85 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นที่ราบประมาณร้อยละ 15 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลำน้ำภาค และลำน้ำปาด มีอากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิสูงเฉลี่ย 35.0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 13.0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั่วไป 27.0 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,334.4 มิลลิเมตร/ปี ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน

แหล่งท่องเที่ยว แก้

 
  • น้ำตกภูสอยดาว: อยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี ท่องเที่ยวได้ตลอดปี
  • น้ำตกสายทิพย์: อยู่ข้างบนลานสนภูสอยดาวเป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร สภาพป่าโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมาก จึงมีมอสส์สีเขียวขึ้นปกคลุมทั่วไปตามก้อนหินริมน้ำ (เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวลานสนภูสอยดาว ช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง 10 มกราคม ของทุกปี)
  • ทุ่งดอกไม้ในบริเวณป่าสนสามใบ : ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่น ดอกหงอนนาค, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ในฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน, กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และต้นเมเปิลซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมาก(เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวลานสนภูสอยดาว ช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง 10 มกราคม ของทุกปี)
  • ลานสนสามใบภูสอยดาว: เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป เป็นป่าสนสามใบ พืชชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ การเดินทางไปเที่ยวลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องเดินทางเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง(เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวลานสนภูสอยดาว ช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง 10 มกราคม ของทุกปี)
  • หลักเขตไทย-ลาว: เป็นหลักเขตที่ปักปันเขตแดนแบ่งระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว มีขึ้นหลังสงครามบ้านร่มเกล้า(เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวลานสนภูสอยดาว ช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง 10 มกราคม ของทุกปี)
  • พิชิตยอดภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร (เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวพิชิตยอดภูสอยดาว ช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง 10 มกราคม ของทุกปี)

การเดินทาง แก้

การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถไปได้ 2 เส้นทางคือ

  • จากจังหวัดพิษณุโลก ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร[6]
  • ใช้เส้นทาง อุตรดิตถ์-น้ำปาด (ทางหลวงหมายเลข 117) ออกจากจังหวัดอุตรดิตถ์ พอถึง อ.น้ำปาด ให้เลี้ยวรถเข้าไปใช้ทางหลวงจังหวัด หมายเลข 1239 แล้วขับรถไปอีกประมาณ 46 กิโลเมตร แล้วจึงเลี้ยวรถไปใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ขับไปประมาณ 19 กิโลเมตรก็จะถึง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวกบนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว แก้

 
  • ที่จอดรถ: มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
  • บริการอาหาร: มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว เฉพาะทางขึ้นภู
  • ลานกางเต็นท์: อุทยาน แห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถาน ที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้ กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
  • ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว: มีศูนย์ บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09 5629 9528ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

การขออนุญาต และกติการการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาตภูสอยดาว แก้

  1. นักท่องเที่ยวลงทะเบียนจองเข้าอุทยานแห่งชาติล่วงหน้าได้ 15 วัน ผ่านแอพลิเคชั่น QueQ (ทางอุทยานจำกันนักท่องเที่ยวขึ้นลานสนเพียง 150 คนต่อวันเท่านั้น; ผ่านแอพลิเคชั่น QueQ 102 คน และ Walk-in 48คน)
  2. ใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที เพื่อกรอกข้อมูลเพื่อทำการลงทะเบียน ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
  3. ชั่งสัมภาระ จุดบริการที่ 1 หากต้องการจะจ้างลูกหาบ จากนั้นจะต้องขึ้นรถรับ-ส่งของอุทยานฯเพื่อไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยวที่ 2 (น้ำตกภูสอยดาว)
  4. ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวอนุญาตให้ลงทะเบียนภายในเวลา 07:00-13:00 เท่านั้น

รางวัลอันทรงคุณค่าที่ได้รับ แก้

  • รางวัลสถานที่ท่องเที่ยว 1 ใน 9 แห่งสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวเมืองไทย ในโครงการ Thailand's Top Destinations Vote

อ้างอิง แก้

  1. "ภูสอยดาว". กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. สืบค้นเมื่อ 10 August 2021.
  2. "พระราชกฤษฎีกา กำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำปาด และป่าภูสอยดาว ในท้องที่ตำบลม่วเจ็ดต้น ตำบลบ้านโคก ตำบลนาขุม อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ใหเป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 125 (71 Kor): 1–3. 28 May 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-05-28. สืบค้นเมื่อ 30 December 2020.
  3. "สถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2562". กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. 2019. สืบค้นเมื่อ 16 February 2021, no.95 Phu Soi Dao N.P.{{cite web}}: CS1 maint: postscript (ลิงก์)
  4. "Phu Soi Dao". Protected Planet. สืบค้นเมื่อ 28 October 2022.
  5. “10 อันดับยอดเขาที่สูงที่สุดของไทย”
  6. 6.0 6.1 อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เก็บถาวร 2006-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

แหล่งข้อมูลอื่น แก้