อินทรัตน์ ยอดบางเตย

พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย (18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 - ) อดีตสมาชิก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ประเทศไทย) พ.ศ. 2557 ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดเชียงใหม่ อดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการทหารสูงสุด และเคยเป็นที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (อนงค์วรรณ เทพสุทิน)

พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย
ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
ดำรงตำแหน่ง
2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่ง
31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 – 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 (78 ปี)
เชียงใหม่, ประเทศไทย
ศาสนาพุทธ
พรรคการเมืองมัชฌิมาธิปไตย
คู่สมรสนางบุษบา ยอดบางเตย

ประวัติ แก้

พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย เกิดที่ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บิดาเป็นพลตำรวจอาสา มารดาเป็นแม่ค้าขายหมูในตลาดวโรรส ชีวิตในวัยเด็กเริ่มต้นต่อสู้กับชีวิตด้วยตนเอง จากการขายของตามตลาดต่างๆ เมื่อวัยเยาว์ และขายหนังสือพิมพ์แผ่นดินไทยให้กับนายไกรสร ตันติพงศ์ อดีตรัฐมนตรี จนกระทั่งสำเร็จมัธยมศึกษาปีมี่ 6 เมื่ออายุ 14 ปี รุ่นเดียวกันกับนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จบการศึกษาจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย โรงเรียนศรีวิทยา โรงเรียนบูรณะศักดิ์วิทยา โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หลังจากจบการศึกษาได้เข้ารับราชการทหารในสายงานนายทหารยุทธการ และศึกษาต่อโรงเรียนเสนาธิการทหารบก จนได้ฉายาว่า "เสธ.ม่อย" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเล่นของตัวเป็น "ยอด" หรือ "เสธ.ยอด"

พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย สมรสกับนางบุษบา ยอดบางเตย อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

การทำงาน แก้

พลตรีอินทรัตน์ รับราชการในสังกัดกองทัพบก จนได้รับตำแหน่งสูงสุดเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการทหารสูงสุด และลาออกจากราชการมาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดเชียงใหม่[1] ต่อมาได้เข้าร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง และดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย จากนั้งได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 4 คู่กับนายอำนวย ยศสุข[2] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยแพ้ให้กับนายสุรพล เกียรติไชยากร จากพรรคพลังประชาชน และนายนรพล ตันติมนตรี จากพรรคเพื่อแผ่นดิน

พลตรีอินทรัตน์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี เนื่องจากการยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย[3]

พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ได้รับคัดเลือกจากมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร (AFAPS Alumni Foundation)ให้ได้รับ "รางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2547" ในสาขาการเมืองและการพัฒนากีฬา

พลตรีอินทรัตน์ ดำรงตำแหน่ง รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติรองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย และ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนากีฬายกน้ำหนักสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจ เลือกตั้งให้เป็น นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ต่อเนื่องมา 2 สมัยติดต่อกัน (ช่วงปี 2543 - 2547)

ในปี พ.ศ. 2557 พลตรีอินทรัตน์ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา) ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา[4]

ปัจจุบัน พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ดำรงตำแหน่งทางด้านกีฬา คือ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พ.ศ. 2556-2559), รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ(IWF)(พ.ศ. 2556-2559), รองประธานคนที่ 1 สหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (AWF), ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ และ นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย

 
พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย, 2561

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เขตเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ (พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายถาวร เกียรติไชยากร พลตำรวจเอก สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-12-05. สืบค้นเมื่อ 2018-03-12.
  2. รายชื่อผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่[ลิงก์เสีย]
  3. "เปิดชื่อ 109 กก.บริหาร "พปช.-ชาติไทย-มัชฌิมาฯ" ถูกยุบ-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-18. สืบค้นเมื่อ 2011-06-10.
  4. คำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ ๘๔๒/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย)
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2015-09-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๑, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๒๕ ข หน้า ๑๐, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๓
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๓, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
  8. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องหมายเปลวระเบิดสำหรับประดับเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๙๐ ตอนที่ ๑๘๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๔๔, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๖
  9. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๑๖๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔๑, ๒๖ กันยายน ๒๕๑๗
  10. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๙๒ ตอนที่ ๑๐๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๘, ๙ มิถุนายน ๒๕๑๘
  11. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๙๗ ตอนที่ ๖๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๔๔๙, ๒๑ เมษายน ๒๕๒๓

แหล่งข้อมูลอื่น แก้