อำเภอเวียงสา

อำเภอในจังหวัดน่าน ประเทศไทย

เวียงสา (ไทยถิ่นเหนือ: ) เป็นอำเภอศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดน่านตอนใต้

อำเภอเวียงสา
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Wiang Sa
คำขวัญ: 
ประตูสู่น่าน ตำนานชนตองเหลือง
เมืองเจ็ดสายน้ำ งามล้ำวัดบุญยืน
เริงรื่นแข่งเรือออกพรรษา
แผนที่จังหวัดน่าน เน้นอำเภอเวียงสา
แผนที่จังหวัดน่าน เน้นอำเภอเวียงสา
พิกัด: 18°35′54″N 100°44′24″E / 18.59833°N 100.74000°E / 18.59833; 100.74000
ประเทศ ไทย
จังหวัดน่าน
พื้นที่
 • ทั้งหมด1,894.893 ตร.กม. (731.622 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
 • ทั้งหมด69,581 คน
 • ความหนาแน่น36.72 คน/ตร.กม. (95.1 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 55110
รหัสภูมิศาสตร์5507
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอเวียงสา หมู่ที่ 12 ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน 55110
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ที่ตั้งและอาณาเขต

แก้

ด้านภูมิประเทศ อำเภอเวียงสาเป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดน่าน ที่มีชายแดนด้านทิศตะวันออกติดกับแขวงไชยบุรี ประเทศลาว ด้านเหนือติดกับอำเภอเมือง ด้านใต้ติดอำเภอนาน้อย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผู้คนมักจะต้องผ่านเพื่อไปยังดอยเสมอดาว และทิศตะวันตกติดกับจังหวัดแพร่ โดยมีเส้นทางหลวงสายหลักคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (แพร่-น่าน) ซึ่งมักมีคำพูดติดตลก ๆ กันว่า เวียงสาน่าจะเจริญกว่าเมืองน่าน เพราะระยะทางใกล้กรุงเทพมหานคร มากกว่าอำเภอเวียงสาตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดน่าน ห่างจากตัวจังหวัดเป็นระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (กำแพงเพชร-ต่อเขตเทศบาลเมืองน่าน) ตอนเวียงสา-ต่อเขตเทศบาลเมืองน่าน และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร เป็นระยะทาง 643 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

ประวัติ

แก้

ตามตำนานที่ไม่มีประวัติที่ทางราชการจัดทำขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่ได้มีคนรุ่นเก่าและอดีตข้าราชการรุ่นเก่า ๆ เล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานสำคัญทางโบราณวัตถุและปูชนียวัตถุซึ่งพอจะเป็นที่ยืนยันและเชื่อถือได้ กล่าวว่าอำเภอเวียงสาเดิมชื่อ "เวียงป้อ-เวียงพ้อ" หรือ "เมืองพ้อ-เมืองป้อ" เพราะตำนานเล่าว่า ถ้าหากมีเหตุการณ์ร้ายแรงอันใดเกิดขึ้น มักเรียกผู้คนที่มีไม่มากนักตามบริเวณนั้นมาป้อ (รวม) กันที่ปากสา (ปากแม่น้ำสาที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน) ซึ่งต่อไปนี้จะใช้คำว่า "เวียงป้อ" แทนชื่อเรียกอำเภอเวียงสาในอดีตที่ระบุในตำนานหรือหลักฐานที่สำคัญ ๆ ต่อไป

เวียงป้อเป็นเมืองที่อยู่ทางทิศใต้ของนครน่าน ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร แรกตั้งครั้งใด นานเท่าไรไม่ปรากฏ อาจจะมีมาตั้งแต่เมืองป้อยุคหิน เพราะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น แหล่งผลิตเครื่องมือหิน เครื่องปั้นดินเผา เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ขุดพบ และอีกหลายแห่งที่ยังไม่ได้สำรวจ ตลอดถึงหลักฐานความเจริญรุ่งเรืองในอดีต ปรากฏหลักฐานซากวัดร้างต่าง ๆ เช่น

  • วัดบุญนะ สถานที่ตั้งตลาดสดเทศบาลตำบลเวียงสา
  • วัดต๋าโล่ง อยู่ห่างจากวัดผาเวียงไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร
  • วัดมิ่งเมือง สถานที่ตั้งสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเวียงสา
  • วัดป่าแพะน้อย อยู่ห่างจากวัดวิถีบรรพต ไปทางทิศตะวันตก 1 กิโลเมตร
  • วัดสะเลียม อยู่ห่างจากวัดสะเลียมใหม่ (ตำบลยาบหัวนา) 800 เมตร
  • วัดหินล้อม อยู่ห่างจากวัดสะเลียมใหม่ (ตำบลยาบหัวนา) 2 กิโลเมตร

เวียงป้อเป็นเมืองที่อยู่ใกล้นครน่าน ผลกระทบและอิทธิพลด้านต่าง ๆ มักได้รับพร้อมกันกับนครน่าน และเนื่องจากการเดินทางติดต่อโดยทางบกใช้เวลาเดินทางเท้าประมาณ 6-8 ชั่วโมง ถ้าหากขี่ม้าเร็วก็จะประมาณ 2-3 ชั่วโมง การเดินทางติดต่อทางน้ำใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ที่ตั้งของเวียงป้อนอกจากจะตั้งอยู่ที่ราบระหว่างดอยต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน เช่น แม่น้ำสา แม่น้ำว้า แม่น้ำแหง แม่น้ำปั้ว แม่น้ำสาคร ตลอดถึงสายน้ำน่านและสายน้ำว้าเดิมที่เปลี่ยนเส้นทางเดินกลายสภาพเป็นหนองน้ำซึ่งมีอยู่มากมาย ชาวบ้านเรียกว่า "น้ำครก" และสายธารอื่น ๆ อีกมากมายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน จึงทำให้เวียงป้อเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีความอุดมสมบูรณ์

เวียงป้อเป็นหัวเมืองประเทศราชขึ้นตรงต่อนครน่าน พงศาวดารน่านได้บันทึกไว้ พ.ศ. 2139 สมัยพระเจ้าเจตบุตรพรหมินทร์ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 31 ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2103-2134) ได้เสด็จเวียงป้อ มีใจความตอนหนึ่งของพงศาวดารกล่าวไว้ว่า "จุลศักราชได้ 985 เดือน 8 ลง 3 ค่ำ ท่านก็เสด็จลงไปอยู่เมืองพ้อ ไปสร้างวัดดอนแท่นไว้ ได้อภิเษกสามีเจ้าขวา หื้อเป็นสังฆราชแล้ว..."

กล่าวถึงพระยาหน่อเสถียรไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครน่าน ลำดับที่ 35 ได้ทราบตำนานวัดพระธาตุแช่แห้ง มีศรัทธาแรงกล้า จึงบูรณะซ่อมแซมและต่อเติมศาสนสถานแห่งนี้ และกล่าวถึงเจ้าเวียงป้อไว้ตอนหนึ่งว่า "ปีเต่าสง้า สร้างบ่อน้ำและโรงอาบ เว็จกุฎิหื้อสมเด็จสังฆราชเจ้าเมืองพ้อ มาเป็นหัวหน้าอยู่ เป็นเค้าเป็นประธานแก่ช่างไม้ทั้งหลาย..."

เหตุการณ์ที่ระบุเจ้าเวียงป้อเป็นช่างใหญ่นั้น แสดงว่าเวียงป้อเป็นเมืองที่ขึ้นตรงต่อนครน่านราว พ.ศ. 2123-2127

พ.ศ. 2243-2251 เมืองน่านและเมืองประเทศราชถูกกองทัพพม่าเผาทำลายเสียหายทั้งเมืองและวัดวาอาราม ผู้คนถูกเข่นฆ่าจำนวนมาก ชาวน่านแตกหนีภัยสงครามเข้าอยู่ซ่อนในป่าในถ้ำ ทิ้งเมืองให้ร้าง ผลกระทบนี้เมืองป้อก็ได้รับเช่นกันดังในพงศาวดารนครน่าน ตอนที่ 4 ว่าด้วยเมืองน่านคราวเป็นจลาจลความว่า "ปีกาเม็ด จุลศักราชได้ 1096 ตัว เถินวัน 14 ค่ำ ทัพพม่าครั้งเถิงเมืองแล้วก็กระทำอันตรายแก่เมืองรั้วเมืองทั้งมวล คือ จุดเผาม้างพระพุทธรูป... วัดวาอาราม ศาสนาธรรม พระพุทธเจ้าที่จุดเผาเสี้ยง จะดาไว้แด่แผ่นดินนั้นแล ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายก็ตายกันเป็นอันมานัก หันแล"

พ.ศ. 2247-2251 หัวเมืองต่าง ๆ ขาดผู้ครองเมือง กองทัพญวนและกองทัพลาวบุกเข้ากวาดต้อนผู้คนนครน่านและเวียงป้อด้วย ต่อมา พ.ศ. 2322 นครน่านขาดผู้ครองนคร จึงมีผลกระทบต่อเมืองป้อ จากฝ่ายพม่าเข้ามากวาดต้อนผู้คนไปไว้เมืองเชียงแสน ทิ้งเมืองให้เป็นเมืองร้าง จึงเป็นยุคที่เสื่อมโทรมอย่างยิ่ง พงศาวดารของเมืองน่านได้กล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ในยามนั้น เมืองลานนาไทย ก็บ่เที่ยงสักบ้านสักเมืองแล ดังเมืองน่านเรา เปนอันว่างเปล่า ห่างสูญเสียห้าท้าวพระยาบ่ได้แล" ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าเวียงป้อเป็นเมืองร้างนานถึง 15 ปี อำเภอเวียงสาขณะที่ยังไม่ได้สร้างเป็นเมืองหรือเวียงนั้น ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นเมืองหรือเวียงโดยเจ้าผู้ครองนครน่านชื่อ เจ้าฟ้าอัตถาวรปัญโญ เมื่อ พ.ศ. 2340 คือหลังจากสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ได้เพียง 15 ปี

จนมีการใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ ร.ศ. 116 (พ.ศ. 2440) มีฐานะเป็นเมือง หรือเรียกตามภาษาภาคเหนือว่า "เวียง" และมีชื่อว่า "เวียงป้อ" มีผู้ครองเมืองซึ่งเป็นเชื้อสายของเจ้าผู้ครองนครน่านชื่อว่า "เจ้าอินต๊ะวงษา" แต่ประชาชนนิยมศึกษาว่า "เจ้าหลวงเวียงสา" โดยขนานนามเมืองว่า เมืองสา ตามชื่อแม่น้ำสำคัญของเมือง แล้วให้โอนการปกครองขึ้นต่อเมืองน่านตอนใต้ ต่อมาปี พ.ศ. 2451 เมืองสาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ และอำเภอสา ตามลำดับ

ปี พ.ศ. 2461 ได้เปลี่ยนชื่ออำเภอเป็น อำเภอบุญยืน ตามชื่อวัดที่ตำบลกลางเวียง แต่ต่อมาได้กลับมาใช้ชื่อ อำเภอสาอีกครั้งจนถึงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2529[1] ได้มีการตามพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่ออำเภอเป็น อำเภอเวียงสา ให้ถูกต้องตามที่ราษฎรเรียกต่อๆกันมา จวบจนปัจจุบันนี้

ต่อมาตำบลส้าน ได้แยกหมู่บ้าน 4 หมู่บ้านตั้งเป็นตำบลส้านนาหนองใหม่ จนถึงปี พ.ศ. 2526 ได้แยกการปกครองของ 3 หมู่บ้านของตำบลยาบหัวนา และตั้งเป็นตำบลแม่ขะนิง ปี พ.ศ. 2531 บ้านสาครหมู่ที่ 5 และอีก 4 หมู่บ้านของตำบลอ่ายนาไลย ได้จัดตั้งเป็นตำบลแม่สาคร ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 ได้ตั้งตำบลแม่สา โดยแยกออกจากตำบลปงสนุก และตำบลทุ่งศรีทอง โดยแยกออกจากตำบลน้ำปั้ว ทำให้ปัจจุบันอำเภอเวียงสามีการปกครองทั้งหมด 17 ตำบล

ชาติพันธุ์

แก้

ชาติพันธุ์ของผู้คนในเวียงสาเป็นคนพื้นเมือง ถิ่นเดิมคือพวกละว้า ลักษณะทางพันธุกรรมเป็นคนรูปร่างใหญ่ สูง โครงกระดูกใหญ่โต มีภาษาสำเนียงพื้นถิ่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง อาศัยทำมาหากินตั้งบ้านเรือน ถิ่นฐานอยู่ริมแม่น้ำน่านและแม่น้ำว้า และอีกส่วนหนึ่งเป็นคนเมืองโยนก หรือ ชาวไทยเชียงแสนที่เรียกตัวเองว่าไทยยวนหรือคนเมือง ซึ่งอพยพเป็นข้าขอบขันทะสีมากับสยามประเทศ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ที่เจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญได้กวาดต้อนผู้คนมาสร้างบ้านแปงเมืองให้สงบสุขร่มเย็นเป็นปึกแผ่น วิถีของผู้คนในเวียงสาเป็นคนรักสงบ โอบอ้อมอารี มีความสมัครสมานสามัคคี เรียบง่าย อ่อนงาม ทำมาหากินโดยสุจริต แต่ก่อนมีอาชีพทำนา ทำสวน ทำไร่ บนพื้นที่ราบลุ่ม กว้างใหญ่ ที่มีแม่น้ำไหลผ่านถึงเจ็ดสาย จึงเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหาร สัตว์บก สัตว์น้ำ หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองให้อิ่มหนำสำราญ ดำรงรักษาวิถีรากเหง้า วัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมไว้จากรุ่นสู่รุ่น อันส่งผลให้ “เวียงสา” เจริญรุ่งเรือง และอยู่เย็นเป็นสุขจนตราบทุกวันนี้

การแบ่งเขตการปกครอง

แก้

การปกครองท้องที่

แก้

อำเภอเวียงสาแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 17 ตำบล 128 หมู่บ้าน ได้แก่

ที่ ชื่อตำบล ตัวเมือง อักษรโรมัน จำนวนหมู่บ้าน จำนวนประชากร

(ธันวาคม 2565)[2]

1. กลางเวียง   Klang Wiang 15 9,851
2. ขึ่ง   Khueng 7 4,028
3. ไหล่น่าน   Lai Nan 8 3,414
4. ตาลชุม   Tan Chum 7 3,574
5. นาเหลือง   Na Lueang 7 3,074
6. ส้าน   San 10 6,851
7. น้ำมวบ   Nam Muap 8 3,234
8. น้ำปั้ว   Nam Pua 7 3,866
9. ยาบหัวนา   Yap Hua Na 7 5,402
10. ปงสนุก   Pong Sanuk 4 1,372
11. อ่ายนาไลย   Ai Na Lai 11 6,701
12. ส้านนาหนองใหม่   San Na Nong Mai 4 1,876
13. แม่ขะนิง   Mae Khaning 7 3,895
14. แม่สาคร   Mae Sakhon 6 2,727
15. จอมจันทร์   Chom Chan 8 3,870
16. แม่สา   Mae Sa 7 2,883
17. ทุ่งศรีทอง   Thung Si Thong 5 2,571

การปกครองส่วนท้องถิ่น

แก้

ท้องที่อำเภอเวียงสาประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 16 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลเวียงสา ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลกลางเวียง
  • เทศบาลตำบลกลางเวียง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปงสนุกทั้งตำบล และตำบลกลางเวียง (นอกเขตเทศบาลตำบลเวียงสา)
  • เทศบาลตำบลขึ่ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลขึ่งทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลไหล่น่าน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไหล่น่านทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลตาลชุม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตาลชุมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลนาเหลือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาเหลืองทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลส้าน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลส้านทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำมวบ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลน้ำมวบและตำบลส้านนาหนองใหม่ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำปั้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลน้ำปั้วทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลยาบหัวนา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลยาบหัวนาทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลอ่ายนาไลย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลอ่ายนาไลยทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ขะนิง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ขะนิงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สาคร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่สาครทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลจอมจันทร์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลจอมจันทร์ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่สาทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งศรีทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งศรีทองทั้งตำบล

การขนส่ง

แก้
ทางหลวง
  • ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ร้องกวาง-เวียงสา-น่าน)
  • ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 (เวียงสา-นาน้อย)
  • ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1162 (เวียงสา-บ้านน้ำมวบ)

เศรษฐกิจ

แก้

ธนาคาร

แก้

การศึกษา

แก้

ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียน 1 แห่ง

แก้
  • ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเวียงสา เป็นสถานศึกษาสังกัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดน่าน สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ มีที่ตั้งอาคารสำนักงานที่บ้านภูเพียง หมู่ที่ ๖ ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน และมีศูนย์บริการการศึกษานอกระบบ ประจำตำบล ๑๗ ตำบล

ห้องสมุดประชาชนอำเภอเวียงสา

แก้

ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน

แก้

ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์

แก้

สถานศึกษา

แก้

ศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แก้

สถานที่ท่องเที่ยว

แก้
  • ตลาดเช้า
  • วัดบุญยืน
  • เฮือนรถถีบมะเก่า
  • ชุมชนผีตองเหลือง (มลาบรี)
  • บ้านสล่าเก๊า
  • กะลกไม้

อ้างอิง

แก้
  1. ราชกิจจานุเบกษา พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อ อำเภอสา จังหวัดน่าน พ.ศ.๒๕๒๙
  2. "ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร". stat.bora.dopa.go.th.