อาเลกซิส อาร์เกวโย

อันเดรส อาเลกซิส อาร์เกวโย โบโอร์เกซ (สเปน: Andrés Alexis Argüello Bohórquez เป็นอดีตนักมวยชาวนิการากัว

อาเลกซิส อาร์เกวโย
เกิดอันเดรส อาเลกซิส อาร์เกวโย โบโอร์เกซ
19 เมษายน พ.ศ. 2495

ประวัติ

แก้

อาร์เกวโยเริ่มชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2511 เมื่ออายุได้เพียง 16 ปี และใช้เวลาถึง 6 ปี จึงได้เป็นแชมป์โลกครั้งแรกของสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) ในรุ่นเฟเธอร์เวท เมื่อชนะน็อกรูเบน โอลิบาเรส ยก 13 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 ซึ่งก่อนหน้านี้อาร์เกวโยเคยชกชิงแชมป์ในรุ่นเดียวกันนี้มาแล้วครั้งนึงกับ เอร์เนสโต มาร์เซล เจ้าของตำแหน่งชาวปานามา แต่เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน

หลังได้เป็นแชมป์โลก WBA รุ่นเฟเธอร์เวทแล้ว อาร์เกวโยก็ชกป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 4 ครั้ง ก่อนที่จะสละเพื่อขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่า

อาร์เกวโยขึ้นแชมป์โลกของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ในรุ่นที่สองคือ ซูเปอร์เฟเธอร์เวท (ขณะนั้นยังเรียกพิกัดนี้ว่า จูเนียร์ไลท์เวท) เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2521 ที่เมืองบายามอน ปวยร์โตรีโก และเป็นฝ่ายชนะน็อกไปในยกที่ 13 ต่ออัลเฟรโด เอสกาเลรา เจ้าของตำแหน่งเดิมซึ่งเป็นนักมวยเจ้าถิ่นด้วย จากนั้นจึงป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ถึง 8 ครั้ง ก่อนที่จะสละตำแหน่งในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2523 เนื่องจากควบคุมน้ำหนักไม่ไหว

20 มิถุนายน พ.ศ. 2524 ขึ้นชิงแชมป์โลกของสภามวยโลก ในรุ่นไลท์เวท กับจิม ว็อต เจ้าของตำแหน่งชาวสก็อต ที่สนามเวมบลีย์ ในมหานครลอนดอน สหราชอาณาจักร และเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างขาวสะอาดเมื่อชกกันครบ 15 ยก

อาเลกซิส อาร์เกวโย กลายเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาทันทีจากการเป็นแชมป์โลกถึง 3 รุ่น ในรุ่นไลท์เวทนี้เขาสามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 4 ครั้ง และการชกที่น่าประทับใจก็คือการป้องกันตำแหน่งกับ เรย์ "บูม บูม" แมนซินี นักมวยจอมตะลุยชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียน​ ที่กำลังมีฟอร์มการชกร้อนแรงและเป็นขวัญใจชาวอเมริกัน แต่อาร์เกวโยได้แสดงให้เห็นว่าเขามีการชกที่เหนือชั้นกว่า เมื่อเป็นฝ่ายชนะที.เค.โอ.แมนซีนี ไปได้ในยกที่ 14 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2524

อาร์เกวโยป้องกันตำแหน่งครั้งสุดท้ายในรุ่นไลท์เวท เมื่อชนะน็อกยก 5 ต่อแอนดี แกนิกัน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 และข้ามขึ้นไปชิงแชมป์โลกรุ่นที่ 4 ในรุ่นซูเปอร์ไลท์เวท ของสมาคมมวยโลก กับแอรอน ไพรเออร์ นักมวยอันตรายชาวอเมริกัน ผู้ยังไม่เคยแพ้ใครในขณะนั้น

ผลการชกไพรเออร์แข็งแกร่งกว่า และสามารถเอาชนะน็อกอาร์เกวโยไปในยกที่ 14 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 แต่ต่อมาทั้งคู่ได้มีโอกาสล้างตากันอีก ผลการชกก็ออกมาในรูปแบบเดิม คือ อาร์เกวโยเป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 10 ชวดตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นที่ 4

อาร์เกวโยวางนวมไปนาน จนหลายฝ่ายคาดว่าเขาคงแขวนนวมไปแล้ว แต่แล้วอาร์เกวโยก็หวนคืนมาชกมวยอีกครั้ง และชกครั้งสุดท้ายชนะน็อกบิลลี คอสเตลโล อดีตแชมป์โลกของสภามวยโลกซูเปอร์ไลท์เวท ไปในยกที่ 4 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 ก่อนที่จะหยุดชกไป เมื่อถูกตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจ

อาร์เกวโยหยุดไปรักษาตัวนานเกือบ 10 ปี ก่อนที่จะกลับมาชกอีกครั้ง แต่ก็มีสถิติลุ่ม ๆ ดอน ๆ เนื่องจากสภาพชีวิตย่ำแย่ และในครั้งสุดท้ายก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนนอย่างหมดรูปต่อนักมวยโนเนมอย่างสก็อต วอล์กเกอร์ ในปี พ.ศ. 2538 ก่อนที่จะอำลาชีวิตการชกไปอย่างเป็นทางการในที่สุด

หลังแขวนนวม อาร์เกวโยได้หันไปเล่นการเมือง และได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีกรุงมานากัวด้วย เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 แต่ก็มีปัญหารุมเร้าหลายประการ จนในที่สุดอาร์เกวโยได้ทำการฆ่าตัวตายด้วยการยิงเข้าที่ขั้วหัวใจตนเองเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 รวมอายุได้ 57 ปี[1]

อ้างอิง

แก้
  1. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับที่ 21,995 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 หน้า 18 คอลัมน์ บทสรุปคนกีฬาผู้เสียชีวิตในปี 2009

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้