อารามอ็อทโทบ็อยเริน

อารามอ็อทโทบ็อยเริน (เยอรมัน: Kloster Ottobeuren) เดิมเป็นอารามคณะเบเนดิกติน ที่ปัจจุบันเป็นตั้งอยู่ที่เมืองอ็อทโทบ็อยเริน ในรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมนี

อารามอ็อทโทบ็อยเริน
Kloster Ottobeuren
ด้านหน้าอารามออกแบบโดยโยฮัน มิชชาเอล ฟิชเชอร์ (Johann Michael Fischer)
แผนที่
47°56′29″N 10°17′53″E / 47.94139°N 10.29806°E / 47.94139; 10.29806
ที่ตั้งอ็อทโทบ็อยเริน
ประเทศประเทศเยอรมนี
เว็บไซต์เว็บไซต์อารามอ็อทโทบ็อยเริน
สถานะอาราม
สถาปนิกบุญราศีโทโท
รูปแบบสถาปัตย์บารอก
ปีสร้างค.ศ. 764
แล้วเสร็จค.ศ. 1725

ประวัติ แก้

อารามอ็อทโทบ็อยเรินก่อตั้งเมื่อขึ้นใน ค.ศ. 764 โดยบุญราศีโทโท (Toto) อุทิศให้เซนต์อเล็กซานเดอร์มรณสักขี (St. Alexander, the Martyr) หลักฐานทางประวัติศาสตร์มีเหลืออยู่เพียงว่าบุญราศีโทโทเป็นอธิการอารามองค์แรกและเสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 815 และนักบุญอุลริช (St. Ulrich) เป็นอธิการอารามเมื่อ ค.ศ. 972 เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 วินัยอารามก็เสื่อมลงจนกระทั่งอธิการอาดัลฮัล์ม (Abbot Adalhalm) มาเป็นอธิการอารามระหว่างปี ค.ศ. 1082 ถึงปี ค.ศ. 1094 ท่านก็เริ่ม "การปฏิรูปเฮียร์เซา" (Hirsau Reformation) นอกจากนั้นท่านก็ยังบูรณะปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างที่เสื่อมโทรมไปจนเสร็จ

เมื่ออธิการรูแพร์ท (Abbot Rupert I) มาเป็นอธิการอารามต่อมาระหว่างปี ค.ศ. 1102 ถึงปี ค.ศ. 1145 ท่านก็ได้เพิ่มอารามนักพรตหญิงที่มาจากครอบครัวมีสกุล และสร้างอารามมาเรียนแบร์ค (Marienberg Abbey) โดยเลือกนักพรตไปจากอารามอ็อทโทบ็อยเรินไปประจำ

 
การตกแต่งภายในแบบศิลปะโรโกโก

อธิการอิเซนกริม (Abbot Isengrim) อธิการองค์ต่อมา ระหว่างปี ค.ศ. 1145 ถึงปี ค.ศ. 1180 เขียน "Annales minores"[1] และ "Annales majores"[2]

บุญราศีคอนราดแห่งอ็อทโทบ็อยเรินมาเป็นอธิการระหว่างปี ค.ศ. 1193 จนเมื่อสิ้นชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1227 ซึ่งนักพรตเบเนดิกตินกล่าวถึงท่านว่าเป็น "ที่รักของภราดาและคนยากจน" [1] เก็บถาวร 2008-01-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน

เมื่อปี ค.ศ. 1153 และปี ค.ศ. 1217 อารามถูกไฟไหม้ เมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และคริสต์ศตวรรษที่ 15 อารามก็อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก จนเมื่อมาถึงสมัยอธิการโยฮัน เชดเลอร์ (Abbot Johann Schedler) ระหว่างปี ค.ศ. 1416 ถึงปี ค.ศ. 1443 อารามก็มีนักพรตเหลืออยู่เพียง 6 หรือ 8 องค์และรายได้ประจำปีก็ตกลงไปไม่เกิน 46 มาร์คเงิน (silver marks)

ภายใต้เอธิการเลโฮนาร์ด วีเดอมันน์ (Abbot Leonard Wiedemann) ระหว่างปี ค.ศ. 1508 ถึงปี ค.ศ. 1546 อารามก็เริ่มรุ่งเรืองขึ้นมาอีก ท่านก่อตั้งโรงพิมพ์และสถานศึกษาสำหรับนักพรตเบเนดิกตินในสเวเบีย (Swabia) แต่ก็มาถูกปิดไม่นานหลังจากที่เปิดเพราะผลจาก "สงครามสามสิบปี "

อารามอ็อทโทบ็อยเรินได้รับการแต่งตั้งเป็นอิมพีเรียลอาราม ในปี ค.ศ. 1299 แต่ไปเสียตำแหน่งไปเมื่อบิชอปแห่งเอาคส์บวร์คได้รับแต่งตั้งให้มาปกครองอารามในฐานะที่เรียกว่า "Vogt" แต่สิทธิเหล่านี้ก็มาถูกยกเลิกเมื่อตามคำสั่งศาลหลวง "Reichskammergericht" ในปี ค.ศ. 1624

อารามอ็อทโทบ็อยเรินได้รับแต่งตั้งกลับไปเป็นอารามหลวงตามเดิมเมื่อ ค.ศ. 1710 แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสเวเบีย (Swabian Circle)

 
ภาพเขียนภายใต้โดม

อารามอ็อทโทบ็อยเรินมารุ่งเรืองที่สุดในสมัยที่รูแพร์ท เนสส์ (Abbot Rupert Ness) มาเป็นอธิการระหว่างปี ค.ศ. 1710 ถึง ค.ศ. 1740 และรุ่งเรืองต่อมาจนมาถึงสมัย "ปฏิรูป" เมื่อ ค.ศ. 1802 ระหว่างปี ค.ศ. 1711 ถึง ค.ศ. 1725 อธิการรูแพร์ทสร้างอารามที่เห็นกันในปัจจุบันซึ่งเป็นอารามที่ใหญ่โตหรูหราจนเปรียบได้ว่าเป็น "มหาวิหารเอสโคเรียลแห่งสเวเบีย" (the Swabian Escorial) เมื่อ ค.ศ. 1737 ท่านก็ได้สร้างตัวโบสถ์ซึ่งมาเสร็จโดยอธิการอัลเซล์ม แอร์บ (Abbot Anselm Erb) ซึ่งเป็นเจ้าองค์ต่อมาในปี ค.ศ. 1766 เมื่อปี ค.ศ. 1803 อ็อทโทบ็อยเรินย้ายไปขึ้นอยู่กับไบเอิร์น ขณะนั้นอ็อทโทบ็อยเรินมีประชากร 12,000 คนและเนื้อที่ 165 ตารางกิโลเมตร

เมื่อ ค.ศ. 1834 พระเจ้าหลุยส์แห่งไบเอิร์นทรงตั้งอารามอ็อทโทบ็อยเรินให้เป็นอารามเบเนดิกตินขึ้นกับอารามนักบุญสเทเฟนที่เอาคส์บวร์ค (St. Stephen's Abbey) และได้รับเลื่อนให้เป็นอิมพีเรียลอารามเมื่อปี ค.ศ. 1918

เมื่อ ค.ศ. 1910 อารามอ็อทโทบ็อยเรินมีโรงเรียน และโรงเรียนอาชีพสำหรับเด็กยากจน มีบาทหลวงด้วยกัน 5 องค์และภราดาฆราวาสอีก 16 คนและโนวิซฆราวาสอีก 1 คน

อ้างอิง แก้

  1. Monumenta Germaniae Historica: Scriptores, XVII, 315 sq.
  2. ibid., 312 sq.

ข้อมูลเพิ่มเติม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

ระเบียงภาพ แก้