อาชิกางะ โยชิโนริ

อาชิกางะ โยชิโนริ (ญี่ปุ่น: 足利 義教โรมาจิAshikaga Yoshinori) เป็น โชกุน ลำดับที่ 6 แห่ง รัฐบาลโชกุนอาชิกางะ ดำรงตำแหน่งช่วงปี ค.ศ. 1429 ถึง ค.ศ. 1441 ระหว่าง ยุคมูโรมาจิ ของญี่ปุ่น โยชิโนริเป็นบุตรชายของโชกุนลำดับที่ 3 อาชิกางะ โยชิมิตสึ[1] ชื่อในวัยเด็กของเขาคือ ฮารุโทระ (春寅)

อาชิกางะ โยชิโนริ
โชกุนคนที่ 6 แห่ง รัฐบาลโชกุนอาชิกางะ
14 เมษายน ค.ศ. 1428 - 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1441
ก่อนหน้าอาชิกางะ โยชิคาซุ
ถัดไปอะชิกะงะ โยะชิคะสึ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด12 กรกฎาคม 1394
อสัญกรรม12 กรกฎาคม 1441 (47 ปี 0 วัน)
บิดาอาชิกางะ โยชิมิตสึ
บุตร-ธิดาอาชิกางะ โยชิคัตสึ

ประวัติ แก้

อะชิกะงะ โยะชิโนะริ เกิดเมื่อค.ศ. 1394 เป็นบุตรชายของโชกุนอะชิกะงะ โยะชิมิสึ (ญี่ปุ่น: 足利 義満โรมาจิAshikaga Yoshimitsu) กับภรรยาน้อยคือนางฟุจิวะระ โนะ โยะชิโกะ (ญี่ปุ่น: 藤原 慶子โรมาจิFujiwara no Yoshiko) มีพี่ชายร่วมมารดาคืออะชิกะงะ โยะชิโมะชิ (ญี่ปุ่น: 足利 義持โรมาจิAshikaga Yoshimochi) ในปีเดียวกันกับที่โยะชิโนะริเกิดขึ้น โชกุนโยะชิมิสึผู้เป็นบิดาได้สละตำแหน่งโชกุนให้แก่โยะชิโมะพี่ชาย ขึ้นครองตำแหน่งโชกุนต่อจากบิดา เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง โยะชิโนะริจึงบรรพชาเป็นพระภิกษุได้รับฉายาว่า พระภิกษุกิเอ็ง (ญี่ปุ่น: 義圓โรมาจิGien) ในค.ศ. 1408

ในค.ศ. 1423 โชกุนโยะชิโมะชิ สละตำแหน่งให้แก่บุตรชายของตนเองคือ อะชิกะงะ โยะชิกะซุ (ญี่ปุ่น: 足利 義量โรมาจิAshikaga Yoshikazu) ขึ้นเป็นโชกุนคนต่อมา แต่ทว่าโชกุนโยะชิกะซุดำรงตำแหน่งโชกุนได้เพียงสองปีก็ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1425 จากนั้นอีกสามปีโชกุนโยะชิโมะชิก็ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1428 โดยปราศจากทายาท บรรดาผู้แทนของรัฐบาลโชกุนอะชิกะงะเดินทางไปยังศาลเจ้าฮะชิมัง อิวะชิมิซุ (ญี่ปุ่น: 石清水八幡宮โรมาจิIwashimizu Hachimangū) ในเมืองเคียวโตะเพื่อทำการเสี่ยงทายหาผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุนต่อไป ผลการเสี่ยงทายปรากฏว่า พระภิกษุกิเอ็งได้รับเลือกให้เป็นโชกุนคนต่อมา พระภิกษุกิเอ็งจึงสึกออกจากบรรพชิตมาเพื่อดำรงตำแหน่งโชกุน

ในสมัยของโชกุนโยะชิโนะริมีเหตุการณ์สำคัญสองอย่างได้แก่ การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนราชวงศ์หมิง และสงครามกับคันโตคุโบ (ญี่ปุ่น: 関東公方โรมาจิKantō kubō)

แม้ว่าโชกุนโยะชิมิสึผู้เป็นบิดาได้เริ่มนำรัฐบาลโชกุนฯสร้างความสัมพันธ์กับราชสำนักจีนราชวงศ์หมิงตั้งแต่ค.ศ. 1402 แต่ในสมัยของโชกุนโยะชิโมะชิผู้เป็นพี่ชายได้ตัดความสัมพันธ์กับจีน ในสมัยของโชกุนโยะชิโนะริค.ศ. 1433 โยะชิโนะริได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับราชสำนักจีนอีกครั้งโดยการส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรียังนครปักกิ่งตรงกับรัชสมัยของจักรพรรดิเซฺวียนเต๋อ นำประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ระบอบบรรณาการจิ้มก้องอีกครั้ง และจัดตั้งโทเซ็ง-บุเงียว (ญี่ปุ่น: 唐船奉行โรมาจิTōsen-bugyō ) ขึ้นในค.ศ. 1434เพื่อดูแลเรื่องงานการทูตกับจีน

ในภูมิภาคคันโต มีผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนเรียกว่า คันโตคุโบ ซึ่งพำนักอยู่ที่เมืองคะมะกุระและมีอำนาจเหนือซะมุไรในภูมิภาคคันโตและภาคตะวันออกทั้งมวล ด้วยอำนาจอันมหาศาลของคันโตคุโบ ทำให้คันโตคุโบกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองของรัฐบาลโชกุนที่เมืองเกียวโต ในค.ศ. 1438 คันโตคุโบอะชิกะงะ โมะชิอุจิ (ญี่ปุ่น: 足利持氏โรมาจิAshikaga Mochiuji) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์ขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนหลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของโชกุนโยะชิโมะชิ แต่พลาดโอกาสไปในการเสี่ยงทายที่ศาลเจ้า คันโตคุโบโมะชิอุจิต้องการตำแหน่งโชกุนที่เกียวโต จึงก่อการกบฎต่อโชกุนโยะชิโนะริ เรียกว่า สงครามปีเอเกียว (ญี่ปุ่น: 永享の乱โรมาจิEikyō no ran) โชกุนโยชิโนะริส่งทัพเข้ายึดเมืองคะมะกุระได้สำเร็จ คันโตคุโบโมะชิอุจิทำการเซ็ปปุกุเสียชีวิต ทำให้ตำแหน่งคันโตคุโบว่างลง

ในค.ศ. 1440 โชกุนโยะชิโนะริมีความต้องการที่จะปลด อะกะมะซึ มิซึซุเกะ (ญี่ปุ่น: 赤松 満祐โรมาจิAkamatsu Mitsusukeชูโงเจ้าครองแคว้นในภูมิภาคชูโงะกุออกจากตำแหน่ง สร้างความวิตกกังวลให้แก่อะกะมะซึ มิซึซุเกะ ปีต่อมาค.ศ. 1441 หลังจากที่โชกุนโยะชิโนะริเสร็จสิ้นสงครามในภูมิภาคคันโตและเดินทางกลับกรุงเกียวโต อะกะมะซึ มิซึซุเกะ ได้เชื้อเชิญให้โชกุนโยะชิโนะริเดินทางมายังคฤหาสน์ของตนเพื่อฉลองสังสรรค์ ในงานเลี้ยงนั้นเกิดความวุ่นวายและโชกุนโยะชิโนะริถูกลอบสังหารถึงแก่อสัญกรรม อะกะมะซึ มิซึซุเกะ หลบหนีกลับไปยังแคว้นของตน รัฐบาลโชกุนฯส่งทัพไปทำการสังหารอะกะมะซึ มิซึซุเกะ ได้สำเร็จ อะชิกะงะ โยะชิกะซึ (ญี่ปุ่น: 足利 義勝โรมาจิAshikaga Yoshikatsu) ผู้เป็นบุตรชายคนโตของโชกุนโยะชิโนะริขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนต่อมา 

ครอบครัว แก้

  • ภรรยาน้อย
    • บุตรชาย: อะชิกะงะ โยะชิมิ

อ้างอิง แก้

  1. Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du japon, p. 331., p. 331, ที่ Google Books