อะกาเว

(เปลี่ยนทางจาก อากาเว่)
Agave
ป่านศรนารายณ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
ไฟลัม: Streptophyta
ชั้น: Equisetopsida
ชั้นย่อย: Magnoliidae
อันดับ: Asparagales
วงศ์: Agavaceae
สกุล: Agave
L.

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ แก้

อากาเว่ (อังกฤษ: Agave, /əˈɡɑːv/[1] หรือ /əˈɡv/[2]) เป็นสกุลของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว อยู่ในวงศ์ย่อย Agavoideae วงศ์ Asparagaceae[3] เป็นพืชกลุ่มที่เคยอยู่ในวงศ์ Agavaceae[4] เป็นพืชที่เจริญเติบโตในสภาพอากาศที่ร้อน แห้งแล้งแบบทะเลนทราย เป็นพืชทรงทรงพุ่มแผ่เป็นวงกว้าง สูงประมาณ 2 เมตร พุ่มกว้าง 0.3-1 เมตร ใบออกเป็นใบเดี่ยว ใบมีลักษณะผิวสัมผัสที่หยาบ มีสีเขียวอมเทา ใบทำหน้าที่ป้องกันตัว ขอบใบจะมีหนามแข็ง บางชนิดคล้ายหนวด การเรียงตัวของใบเรียงแบบเวียนสลับ ดอกออกเป็นช่อสูงถึง 6 เมตร ดอกออกเป็นช่อลักษณะแบบช่อแยกแขนง ดอกสีเหลือง ออกดอกครั้งเดียวแล้วจะตาย

ต้นกำเนิดและการกระจายพันธุ์ แก้

อากาเว่เป็นพืชดั้งเดิมของทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และบางประเทศในอเมริกากลาง เวสต์อินดีส์ ตอนเหนือของอเมริกาใต้ และอินเดีย การกระจายพันธุืไปทั่วโลกของต้นอากาเว่

การกระจายพันธุ์ของอากาเว่ มีจุดเริ่มต้นมาจากทวีปอเมริกาเหนือตอนใต้ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ตอนบน มากถึง 200 สปีชี่ส์ และกระจายพันธุ์เข้าสู่พื้นที่เขตอากาศแบบร้อนถึงอบอุ่น โดยประเทศที่อากาเว่กระจายพันธุ์เข้าไปมี แอลเบเนีย, อัลดาบรา, แอลจีเรีย, แองโกลา, อาร์เจนตินา, แอสเซนชัน, บังคลาเทศ, โบลิเวีย, บอตสวานา, บราซิล, บุรุนดี, กัมพูชา, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง, ชาด, จีน, เอกวาดอร์, เอธิโอเปีย, ฟิจิ, ฝรั่งเศส, กรีซ, กินี, ฮาวาย, อินเดีย, อิตาลี, เกาหลี, ลิเบีย, มาดากัสการ์, โมร็อกโก, โมซัมบิก, เมียนมาร์, เนปาล, นิวซีแลนด์, ปากีสถาน, ปาเลสไตน์, เปรู, โปรตุเกส, รวันดา, เซเนกัล, โซมาเลีย, สเปน, ศรีลังกา, ไทย, ตูนิเซีย, ตุรกี และยูโกสลาเวีย

ส่วนต่างๆและุณสมบัติของอากาเว่ แก้

ดอก: ใช้ผลิตนํ้าผึ้ง รู้จักกันในชื่อ นํ้าผึ้งดอกอากาเว่ และน้ำเชื่อมดอกอากาเว่

ใบ: ใช้ทําเป็นเส้นใยนํามาเป็นเชือก มีความเเข็งเเรงสูง

ลําต้น: นํามาทําเป็นอาหาร เเต่เฉพาะสายพันธุ์ เเต่ต้องลอกเปลือกลําต้นเเละเอาเเค่เนื้อในที่เป็นสีขาว โดย วิธีการทําควรทําให้สุก เพื่อไม่ให้สารพิษตกค้างเนื่องจากอะกาเวมีพิษ เมื่อโดนพิษจะทําให้ปวดท้อง อาเจียนหรือปวดหัว

เครื่องดื่ม: อากาเว่ใช้ทําเครื่องดื่ม เรียกว่า เตกิลา (tequila) โดยชนิดสายพันธุ์ที่นํามาผลิต คือ blue agave (agave azul) (Agave tequilana) ซึ่งพบเห็นได้ในเม็กซิโกเป็นส่วนใหญ่ โดยสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัฐฮาลิสโกของเม็กซิโก

สารสำคัญที่พบในอากาเว่ โดยส่วนใหญ่จะได้จากส่วนของดอกและลำต้น มี Kaempfero, Kaempferol-3-glucoside, Myricetin-3-O-rhamnoside, Quercetin-3-O-arabinoside, 2,4,6-octatriene, 4-terpineol, 𝛼-terpineol, nerol, bornyl formate, geraniol, 𝛼-cubebene, copaene, anastreptene, bergamotene, 𝛽-farnesene, 1,2,3,4-tetrahydronaphthalene, germacrene, 𝛼-curcumene, 𝛼-muurolene, 𝛼-bisabolene, cadinene, 𝛼-spirovetivene, cedrol, trans-nerolidol, cadalene, cadinol, patchouli alcohol and 𝛼-bisabolol.

การใช้ประโยชน์อากาเว่ในประวัติศาสตร์โลกและปัจจุบัน แก้

ในสมัยเมโสอเมริกามีการใช้ส่วนของใบมาทำเชือก, สิ่งทอ, อานขี่สัตว์, วัสดุก่อสร้าง และเชื้อเพลิง ส่วนของแกนกลางของอากาเว่เป็นที่เก็บส่วนของ คาร์โบไฮเดรตและน้ำ คนส่วนมากเลยนำมารับประทาน

ในสมัยมายาใช้หนามของอากาเว่เป็นอุปกรณ์นำเลือดออกในพิธีบูชายัญต่างๆ

ในช่วงเวลาปัจจุบันได้มีการนำอากาเว่มาใช้ประโยชน์มากมาย การทำสิ่งทอ, ยา, ใช้เป็นเส้นใยจากธรรมชาติ เช่น เชือกป่าน, ส่วนประกอบหลักในการหมักทำเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสมัยใหม่ เช่น เตกิล่า (Tequila) พลูเก้ (Pulque) บาคาโนร่า (bacanora) เมสแคล (Mescal) และ ไรซิย่า (Raicilla)

ประเทศผู้ผลิตอากาเว่รายใหญ่ในปัจจุบัน และสรรพคุณ แก้

ประเทศผู้ผลิตอากาเว่รายใหญ่ในปัจจุบัน ในอุตสาหกรรมเส้นใยจากอากาเว่ บราซิลจะเป็นผู้ผลิตมากที่สุด และในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม แม็กซิโกจะเป็นผู้ผลิตมากที่สุด

อากาเว่ ใช้รักษาอาการท้องผูกท้องอืด ท้องเดิน  โรคมะเร็ง และท้องร่วง เพื่อบำรุงกำลัง และเร่งปัสสาวะ อากาเว่ใช้กับผิวหนังเพื่อรักษาแผลและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม  หากต้องการใช้อากาเว่ ในกรณีอื่น ๆ อาจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์หรือเภสัชกรด้านสมุนไพร

กลไกการออกฤทธิ์

ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้อากาเว่แพร่หลายไม่มากนัก หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร แต่อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางชิ้นพบว่า อากาเว่มีสารเคมีบางชนิดที่ช่วยลดอาการบวม (อักเสบ) ทำให้มดลูกหดตัว หรือป้องกันการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

วิธีการเก็บเกี่ยว และการสกัด แก้

วิธีการเก็บเกี่ยวอากาเว่ แก้

ในแถบอเมริกากลางถึงอเมริกาใต้ที่เป็นผู้ผลิตหลักของอากาเว่ จะเก็บเกี่ยวในอีก 7-10 ปี หลังจากการปลูก จะทำการตัดใบออก ให้เหลือแกนกลางไว้ ให้มีลักษณะคล้ายกับสับปะรด จากนั้นใช้มีด หรืออุปกรณ์เก็บเกี่ยวทำการตัดจากด้านล่างของต้น ก็จะได้ผลผลิตออกมา เรียกผลผลิตนั้นว่า piña

การสกัดอากาเว่ แก้

นำ piña ที่ได้มาคั่วหรือนึ่งในเตาอบเพื่อให้ piña มีความมนิ่มขึ้น จากนั้นเราจะใช้มีดตัดส่วนใบที่เหลือด้านบนออก แล้วคว้านเนื้อส่วนกลางลำต้นออกมาแล้วนำภาชนะที่จะใช้เก็บน้ำที่สกัดออกมาวางในแกนกลางที่คว้านไว้ รอให้น้ำหวานจากต้นอากาเว่ไหลเข้าไป กระบวนการนี้คล้ายกับการเก็บเกี่ยวน้ำเชื่อมเมเปิ้ลจากต้น เมื่อได้ผลผลิตก็สามารถนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้ต่อไป

อ้างอิง แก้

  1. An Anglo-Hispanic pronunciation. Sunset Western Garden Book, 1995:606–607.
  2. An Anglo-Latin pronunciation. OED: "Agave".
  3. Mark W. Chase, James L. Reveal, and Michael F. Fay. 2009. "A subfamilial classification for the expanded asparagalean families Amaryllidaceae, Asparagaceae, and Xanthorrhoeaceae". Botanical Journal of the Linnean Society 161(2):132-136.
  4. Sara V. Good-Avila, Valeria Souza, Brandon S. Gaut, and Luis E. Eguiarte. 2006. "Timing and rate of speciation in Agave (Agavaceae)". PNAS (Proceedings of the National Academy of Sciences, USA) 103(24):9124-9129. doi:10.1073/pnas.0603312103

ระเบียงภาพ แก้