หลินไท่ซือ

(เปลี่ยนทางจาก หลิมไท่ซือ)

หลินไท่ซือ (จีน: 林太师) หรือ หลินไท่ซือกง (林太师公) หรือ หลิมฮู้ไท่ซู (ฮกเกี้ยน: 林府太师) เกิดเมื่อวันที่สี่ เดือนสี่ (四月初四) ปี ค.ศ. 1537 หรือปีพุทธศักราชที่ 2080 ณ บ้านหยุนเซียว มณฑลฟู่เจี้ยน หรือฮกเกี้ยน (福建云霄 - Fújiàn yúnxiāo) ในปีที่ 16 ของรัชสมัยฮ่องเต้เจียจิ้งราชวงศ์หมิง ซึ่งตรงกับปีเกิดปีเดียวกับ King Edward ที่หก ของอังกฤษ, โชกุน อาชิกาย่า โยชิอากิของญี่ปุ่น และกษัตริย์จอนห์ที่3 ของประเทศสวีเดน

หลิ่มไท่ซือ

ท่านมีชื่อจริงว่า หลินเสียชุน (林偕春 - lín xié chūn) หรือฉายาว่า หลินฝู๋หยวน (林孚元 - lín fú yuán) โดยในปีค.ศ. 1565 ท่านได้เข้ารับราชการในตำแหน่งขุนนางในราชสำนักหมิงเป็นครั้งแรก[1] ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ 28 ปีพอดี และท่านยังได้รับเชิญเข้าร่วมสภาฮั่นหลิน (จีน: 翰林院; พินอิน: hàn lín yuàn) ซึ่งเป็นสภาที่ทรงอิทธิพลมากสำหรับบัณฑิตในยุคนั้น[2] ซึ่งหน้าที่ของสภาฮั่นหลินคือ บันทึกและแก้ใขประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ รวมไปถึงการวางแผนการศึกษา และการสอบเพื่อเฟ้นหาบัณฑิตเข้ารับราชการอีกด้วย

สมาชิกของสภาฮั่นหลินก่อนหน้าท่านหลินไท่ซือนี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงสุดยอด ในยุคต่างๆทั้งสิ้น อาทิเช่น หลี่ไป๋ (李白), ไป่จูอี้ (白居易), โอวหยางซิว (欧阳修) และ เสิ่นโข่ว (沈括) เป็นต้น[2] และเป็นที่น่าเสียดายว่า บันทึกเก่าๆ ที่มีคุณค่าซึ่งเก็บรักษาอยู่ในห้องสมุดของสภาฮั่นหลินได้ถูกไฟ ไหม้ทำลายและโดนปล้นไปบางส่วนจากเหตุการณ์กบฏนักมวยที่มีกองกำลังนานาชาติ ได้ปิดล้อมพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง เมื่อปี ค.ศ. 1900 และสภาฮั่นหลินก็ต้องปิดฉากลงอย่างถาวรหลังจากเหตุการณ์กบฏซินห้าย (辛亥革命) ใน ปี ค.ศ. 1911

ในปี ค.ศ. 1568 ท่านได้รับเลือกเป็นมหาบัณฑิตในสภาฮั่นหลินและมีหน้าที่สำคัญคือการบันทึกและแก้ไขประวัติศาสตร์ของประเทศ[1] ปี ค.ศ. 1573 ท่านได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นไท่ซือ (太师) ซึ่งคอยให้การศึกษาแก่องค์รัชทายาท (太子) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดในชีวิตการรับราชการของท่าน และในปี ค.ศ. 1607 ท่านก็ได้สิ้นชีวิตลง รวมอายุได้ 71 ปี ร่างของท่านได้รับการฝังอยู่ที่ภูเขาชีซิง (แปลว่าเขาเจ็ดดาว) มณฑลฮกเกี้ยน (葬与福建省内七星山)

ตามประวัติได้มีการบันทึกว่า ขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งไท่ซือนั้น ท่านได้ปราบปรามพวกอันธพาลนักเลงที่กำลังทำลายศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่ท่านดูแลในฐานะของไท่ซืออยู่ หลังจากที่ท่านได้จับพวกอันธพาลได้หมดแล้ว ท่านจึงได้ทราบว่าศาลเจ้าแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อสักการบูชาเทพเจ้ากิ้วอ๋องไต่เต่ (九皇大帝)

และในคืนนั้นเอง กิ้วอ๋องไต่เต่ ได้มาปรากฏขึ้นในความฝันของท่าน เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้ช่วยเหลือศาลเจ้าให้รอดพ้นจากการทำลาย และในฝันนั้น องค์กิ้วอ๋องไต่เต่ ยังได้แต่งตั้งตำแหน่งให้ท่านเป็นกิ้วอ๋องไท่ซือกง (九皇太师公) อีกด้วย[1]

วันต่อมาท่านได้กลับไปที่ศาลเจ้า และได้เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้น คือในศาลเจ้าได้มีเก้าอี้ซึ่งอุทิศไว้สำหรับท่าน ปรากฏขึ้นในศาลเจ้าของกิ้วอ๋องไต่เต่นั้นเอง ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านก็เคารพนับถือท่านในฐานะของ หลินฮู้ไท่ซือ (林府太师) หรือกิ้วอ๋องไท่ซือกง (九皇太师公) เป็นต้นมาจวบกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งศาลเจ้าหรือแท่นบูชา (สินตั๋ว) โบราณๆ ที่บูชากิ้วอ๋องไต่เต่ มักจะมีการบูชาหลินไท่ซือด้วย เพื่อเป็นการแสดงเคารพนับถือท่านเช่นกัน

หลินไท่ซือ ยังได้รับการยกย่องบูชาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าของบรรพบุรุษคนแซ่หลิม (林氏祖先) หรือ แซ่หลิน ในภาษาจีนกลาง อีกด้วย[1]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2008-12-13.
  2. 2.0 2.1 (正体中文)翰林院.大英百科全書 http://tw.britannica.com/MiniSite/Article/id00027531.html[ลิงก์เสีย]