หลวงสิริราชไมตรี (จรูญ สิงหเสนี)
อำมาตย์ตรี หลวงสิริราชไมตรี นามเดิม จรูญ สิงหเสนี (7 ตุลาคม พ.ศ. 2441 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2534) เป็นอดีตอัครราชทูตไทยประจำกรุงโรม ประเทศอิตาลี และ สมาชิกคณะราษฎร
หลวงสิริราชไมตรี | |
---|---|
รัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 10 ธันวาคม 2475 – 1 เมษายน 2476 | |
นายกรัฐมนตรี | พระยามโนปกรณนิติธาดา |
เจ้ากรมกระทรวงต่างประเทศ | |
ดำรงตำแหน่ง 28 มิถุนายน – 10 ธันวาคม 2475 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | จรูญ สิงหเสนี 7 ตุลาคม พ.ศ. 2441 จังหวัดนครราชสีมา ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2534 (93 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
เชื้อชาติ | ไทย |
ศาสนา | พุทธ |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | คณะราษฎร |
คู่สมรส | คุณหญิงอนงค์ |
บุตร | 5 คน |
อาชีพ | นักการทูต |
เป็นที่รู้จักจาก | การเมือง |
ประวัติ
แก้หลวงสิริราชไมตรี มีนามเดิมว่า จรูญ สิงหเสนี เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2441 เป็นบุตรคนที่ 3 ของพระยาประเสริฐสุนทราศรัย (กระจ่าง สิงหเสนี) กับคุณหญิงตุ่ม (บุตรสาวของนายเดช-นางใย สิงหเสนี)
เมื่อายุได้ 7 ปี ได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพมหานคร และเข้าศึกษาที่โรงเรียนบพิตรพิมุข โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนราชวิทยาลัย โรงเรียนอัสสัมชัญ (อสช 2654) และโรงเรียนกฎหมาย ตามลำดับ ได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2457-2461) เมื่อสงครามสิ้นสุดจึงได้ยศสิบตรี (ส.ต.) เคยเป็นนักเรียนวิชากฎหมายในประเทศฝรั่งเศส ด้วยทุนกระทรวงยุติธรรม ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยราชการสถานทูตสยามประจำกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในตำแหน่งเลขานุการเอกอัครราชทูต
นายจรูญได้เข้าร่วมกับคณะราษฎร เพื่อร่วมในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากการชักชวนของนายปรีดี พนมยงค์ นักเรียนวิชากฎหมาย ทุนกระทรวงยุติธรรมเช่นเดียวกัน จัดเป็นคณะราษฎรชุดแรกที่มีการก่อตัวขึ้น 7 คน และถือเป็นเพียงคนเดียวที่มิได้มีสถานภาพเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา อีกทั้งเมื่อสมาชิกคนอื่น ๆ ได้ศึกษาจบแล้ว ก็ได้เดินทางกลับสู่ประเทศสยาม แต่นายจรูญไม่ได้กลับมาด้วย[1] [2]
เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศสยาม ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้มีบรรดาศักดิ์และราชทินนามเป็น หลวงสิริราชไมตรี ถือศักดินา ๖๐๐ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2468[3]
ต่อมาหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองสำเร็จแล้ว หลวงสิริราชไมตรีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีแทนที่ไม่ได้สังกัดกระทรวง (รัฐมนตรีลอย) และต่อมาได้เป็นราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ปี พ.ศ. 2481 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำกรุงโรม ประเทศอิตาลี จนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวได้อพยพไปอยู่ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนสงครามสงบในปี พ.ศ. 2488 จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย ดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำกระทรวง และในปี พ.ศ.2490 ได้โอนไปรับราชการที่กระทรวงการคลังและออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเมื่อต้นปี พ.ศ. 2492
เมื่อออกจากราชการได้เป็นกรรมการในสมาคมสหายสงครามในพระบรมราชูปถัมภ์และได้ร่วมบุกเบิกการทำป่าไม้ และเหมืองแร่ ซึ่งเป็นสัมปทาน ที่รัฐบาลให้แก่ทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1
ถึงแก่อสัญกรรม
แก้นาย จรูญ สิงหเสนี ถึงแก่อสัญกรรม ที่บ้านพัก อย่างสงบ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ในย่านเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร งานศพถูกจัดขึ้น ณ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร สิริอายุรวม 93 ปี
ครอบครัว
แก้หลวงสิริราชไมตรี สมรสกับคุณหญิงอนงค์ (บุตรีพระยาอนุชิตชาญไชย (สาย สิงหเสนี) กับนางน้อม) มีบุตรด้วยกัน 5 คน ดังนี้
- นายอุดมพร สิงหเสนี (Pietro)
- นายพสุพร สิงหเสนี (Nickie)
- นายสิงพร สิงหเสนี (Georgie)
- นางสาวพรพงา สิงหเสนี (Suzanne)
- นางสาวพรระพี สิงหเสนี (Angela)
การศึกษา
แก้- พ.ศ. 2450 โรงเรียนบพิตรพิมุข
- พ.ศ. 2453 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- พ.ศ. 2454 โรงเรียนราชวิทยาลัย
- พ.ศ. 2460 โรงเรียนกฏหมาย
- พ.ศ. 2468 Ecole Libre des Sciences Politiques, Paris
ยศ
แก้ตำแหน่งหน้าที่
แก้- พ.ศ. 2459 นักเรียนล่ามกระทรวงยุติธรรม
- พ.ศ. 2460 พลทหารรถยนต์กระทรวงกลาโหม
- พ.ศ. 2461 นายสิบตรี
- พ.ศ. 2462 เสมียนฝึกหัดกระทรวงการต่างประเทศ
- พ.ศ. 2463 นักเรียนผู้ช่วยสถานทูต
- พ.ศ. 2466 ผู้ช่วยชั้นหนึ่ง
- พ.ศ. 2469 เลขานุการตรี
- พ.ศ. 2475 เจ้ากรม
- พ.ศ. 2476 รัฐมนตรีแทนเลขานุการคณะรัฐมนตรี
- พ.ศ. 2476 รัฐมนตรีหัวหน้ากองการโฆษณา
- พ.ศ. 2476 เจ้ากรมกระทรวงการต่างประเทศ
- พ.ศ. 2477 เลขานุการเอก กระทรวงการต่างประเทศ
- พ.ศ. 2477 เลขานุการเอกสถานทูต ณ กรุงลอนดอน
- พ.ศ. 2477 ราชเลขานุการในพระองค์ ณ เมืองโลซานน์
- พ.ศ. 2481 อัครราชทูตประจำประเทศอิตาลี
- พ.ศ. 2489 อัครราชทูตประจำกระทรวง
- พ.ศ. 2490 กระทรวงการคลัง
- พ.ศ. 2492 ออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
แก้- พ.ศ. 2484 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[6]
- พ.ศ. 2483 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)[7]
- พ.ศ. 2472 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. 2472 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)
- พ.ศ. 2470 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 5 (ป.ป.ร.5)[8]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
แก้- ฝรั่งเศส: พ.ศ. 2472 - เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ ชั้น 5 อัศวิน
- อิตาลี: พ.ศ. 2484 - Order of the Crown of Italy ชั้น 1 อัศวิน
อ้างอิง
แก้- ↑ สองฝั่งประชาธิปไตย, "2475". สารคดีทางไทยพีบีเอส: 26 กรกฎาคม 2555
- ↑ ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช หนึ่งในสี่ทหารเสือคณะราษฎร์
- ↑ พระราชทานบรรดาศักดิ์
- ↑ พระราชทานยศ
- ↑ พระราชทานบรรดาศักดิ์
- ↑ , แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2012-05-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 58, ตอน 0 ง, 18 กันยายน พ.ศ. 2484, หน้า 3160
- ↑ , แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม 57, ตอน 0 ง, 1 ตุลาคม พ.ศ. 2483, หน้า 1898
- ↑ พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์
- สายสกุลสิงหเสนี, บรรณาการในงานพระราชทานเพลิงศพนางสาวจวงจันทร์ สิงหเสนี ป.ภ., ท.ช., 3 พฤศจิกายน 2541, หน้า 181