หม่อมเจ้าทินทัต ศุขสวัสดิ์
ร้อยเอก หม่อมเจ้าทินทัต ศุขสวัสดิ (10 กรกฎาคม พ.ศ. 2433 – 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463) เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช ประสูติแต่หม่อมแช่ม ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา
หม่อมเจ้าทินทัต ศุขสวัสดิ์ | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 4 | |
ประสูติ | 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2433 |
สิ้นชีพตักษัย | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 (30 ปี) |
หม่อม | หม่อมผิว ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา |
พระบุตร | หม่อมราชวงศ์ทินะประภา อิศรเสนา ณ อยุธยา หม่อมราชวงศ์กานดาศรี ศุขสวัสดิ หม่อมราชวงศ์รุจีสมร สุขสวัสดิ์ |
ราชสกุล | ศุขสวัสดิ์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช |
พระมารดา | หม่อมแช่ม ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา |
พระประวัติ
แก้หม่อมเจ้าทินทัต ศุขสวัสดิ เป็นพระโอรสองค์แรกในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช ประสูติแต่หม่อมแช่ม ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2433 มีโสทรขนิษฐาองค์เดียว คือ หม่อมเจ้ารัตจันทน์ ศุขสวัสดิ
หม่อมเจ้าทินทัตทรงรับราชการในกรมทหารม้า และได้เสกสมรสกับหม่อมผิว ธิดาของหลวงนิธิพิมล (พลอย วสุวัต) กับนางสุ่น ขณะมีพระยศเป็นร้อยตรี มีธิดาด้วยกัน 3 คน คือ
- หม่อมราชวงศ์ทินะประภา อิศรเสนา (2 มิถุนายน พ.ศ. 2460 – 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555) สมรสกับศาสตราจารย์ กัลย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา มีบุตรสองคน[1]คือ 1.รองศาสตราจารย์อนุกัลย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา อดีตอาจารย์สอนวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 2.คุณหญิงภัทราภา อิศรเสนา ณ อยุธยา ตัณสถิตย์ อดีตราชเลขาธิการ (เสียชีวิต พ.ศ. 2558)
- หม่อมราชวงศ์กานดาศรี ศุขสวัสดิ (18 ธันวาคม พ.ศ. 2461 - พ.ศ. 2541)
- หม่อมราชวงศ์รุจีสมร ศุขสวัสดิ (12 กันยายน พ.ศ. 2463 – 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2565)
พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้าทินทัต เปนนักเรียนกระทรวงกลาโหมออกไปศึกษาวิชาทหาร ณ ประเทศเยรมันนี
ต่อมาถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2455 หม่อมเจ้าทินทัตได้เข้าสอบวิชาตามหลักสูตร์กรมทหารกรุงเบอลินสำเร็จ จึงได้เข้ารับราชการเปนฟานเมนยุงแคร์ในกรมทหารม้าที่ 6 เมืองไมนส์ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเปนที่พอใจในความเพียรพยายาม และความอดทนของหม่อมเจ้าทินทัต จึงได้เลื่อนยศขึ้นเปนนายพวก (Gefreiter) แล้วเปนนายสิบ (Unter offizier) มีตำแหน่งผู้บังคับหมู่ จนที่สุดผู้บังคับการกรมทหารบกม้าที่ 6 ได้รายงานขอให้เข้าศึกษาวิชาในโรงเรียนรบต่อไป
ครั้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2456 ได้รับสัญญาบัตร์เปนนายร้อยตรีในกองทัพบกเยรมัน
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2457 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตร์ให้หม่อมเจ้าทินทัต เปนนายร้อยตรีในกองทัพบกสยาม แต่งตัวสังกัดกรมทหารบกม้าที่ 2 แต่ยังคงให้ประจำอยู่ในกองทัพบกเยรมันต่อไป เพื่อหาความชำนาญในการฝึกหัดสั่งสอนและวิชาทหาร
ในปลายปี พ.ศ. 2459 หม่อมเจ้าทินทัต ได้สำเร็จการศึกษาแล้ว กลับเข้ามารับราชการในตำแหน่งผู้บังคับหมวดในกรมทหารม้านครปฐม รับพระราชทานเงินเดือนอัตรานายร้อยตรีชั้น 3 กับเงินเพิ่มพิเศษ
ครั้นเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ได้ย้ายไปประจำกรมทหารบกม้ากรุงเทพรักษาพระองค์ของพระบาทสมเด็จฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานยศเปนนายร้อยโท
พ.ศ. 2463 ได้เลื่อนยศเปนนายร้อยเอก แลเลื่อนตำแหน่งเปนผู้รั้งผู้บังคับการม้านครปฐม กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เปนราชองครักษ์เวรด้วย
เมื่อ พ.ศ. 2463 ได้ย้ายกลับมาเปนผู้รั้งผู้บังคับการกรมทหารบกม้ากรุงเทพฯ รักษาพระองค์ ของพระบาทสมเด็จฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมาได้เลื่อยศเป็นร้อยเอก ผู้รั้งผู้บังคับการกรมทหารบกม้ากรุงเทพรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
สิ้นชีพิตักษัย
แก้เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 นายร้อยเอก หม่อมเจ้าทินทัต ประชวรโรคบิดมีตัว ได้รักษาองค์อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อาการก็ทุเลาเปนลำดับมา และในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 กำหนดว่าในวันรุ่งขึ้นจะได้กลับจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แต่ครั้นเวลา 5 นาฬิกา (11 ทุ่มเศษ) พระอาการกลับหนักลงไปอีก แพทย์ได้จัดการรักษาเต็มความสามารถ แต่เปนการพ้นวิสัยที่นายแพทย์จะป้องกันให้กลับคืนได้ หม่อมเจ้าทินทัต สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 ขณะชันษา 30 ปี[3][4]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2462 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 5 (ว.ป.ร.5)[5]
พระยศและตำแหน่ง
แก้- 23 พฤษภาคม 2459 – นายร้อยโท[6]
- – ผู้บังคับกองร้อยกรมทหารม้านครปฐม
- 20 พฤษภาคม 2462 – รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารม้านครปฐม[7]
- 10 พฤศจิกายน 2462 – ราชองครักษ์เวร[8]
- 29 มิถุนายน 2463 – รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้บังคับกรมทหารม้ากรุงเทพฯ รักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว[9]
พระอนุสรณ์
แก้ศาลาทินทัต
แก้ศาลาทินทัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2465 ตามพระประสงค์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช เพื่อเป็นอนุสรณ์อุทิศประทานแก่ นายร้อยเอก หม่อมเจ้าทินทัต ศุขสวัสดิ พระโอรส ตัวอาคารตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงพยาบาลจุฬาลงการณ์ มีลักษณะที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้ำสมัยในเวลานั้น กลมกลืนกับอาคารของโรงพยาบาล ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ศาลาทินทัต ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยคงความงดงามของโครงสร้างเดิมไว้ เพื่อใช้ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบัน ศาลาทินทัต เป็นที่ตั้งของแผนกอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รับอุทิศร่างกายให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์
อ้างอิง
แก้- ↑ "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ดังนี้". สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7. 11 มิถุนายน 2556. สืบค้นเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2558.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ ประชุมพระราชปุจฉา ภาคที่ 5 คำนำ
- ↑ ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-221-818-8
- ↑ "ข่าวสิ้นชีพิตักษัย" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 5 ธันวาคม 1920.
- ↑ พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ เล่ม 36 หน้า 3325 ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 25 มกราคม 2462
- ↑ พระราชทานยศนายทหารบก
- ↑ แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง เลื่อนย้ายนายทหารรับราชการและออกจากประจำการ
- ↑ แจ้งความกรมราชองครักษ์ เรื่อง ตั้งราชองครักษ์เวร
- ↑ "แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง เลื่อนย้ายนายทหารรับราชการ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา: 1111. 4 กรกฎาคม 1920.