สู่ความหวังใหม่
บทความนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน มีเนื้อหา รูปแบบ หรือลักษณะการนำเสนอที่ไม่เหมาะสมสำหรับสารานุกรม |
สู่ความหวังใหม่ คือสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 1 ของวงซูซู วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2532 โดยค่าย แว่วหวาน ที่มี เอ็มจีเอ เป็นผู้จัดจำหน่าย โดยมี ระพินทร์ พุฒิชาติ และ ทอม ดันดี เป็นนักร้องนำหลักของวง เมื่ออัลบั้มนี้ได้ถูกวางจำหน่ายออกไป ก็ได้รับความสนใจแก่นักฟังเพลงในช่วงเวลานั้นอยู่ไม่น้อย[ใคร?] โดยเฉพาะคนฟังเพลงในแนวเพลงเพื่อชีวิต ด้วยเพลงเปิดตัวอย่าง อับดุลเลาะห์ ที่ได้แอ๊ด คาราบาว มาร่วมร้องเพลงนี้ในท่อนเปิด และเพลงที่ทำให้ซูซูนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก็คือเพลง บ่อสร้างกางจ้อง บทเพลงสนุกในสไตล์จังหวะสามช่า ที่ขับร้องโดย ทอม ดันดี จากผลงานการเขียนของ เศก ศักดิ์สิทธิ์ ผู้จัดการวง ที่เคยเขียนเพลง เด็กปั๊ม และ สาวรำวง จนประสบความสำเร็จมาก่อนหน้า โดยอัลบั้มนี้สามารถทำยอดขายได้สูงถึงกว่า 900,000 ตลับเลยทีเดียว[1]
สู่ความหวังใหม่ | ||||
---|---|---|---|---|
สตูดิโออัลบั้มโดย | ||||
วางตลาด | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 | |||
บันทึกเสียง | มิกซ์สตูดิโอ | |||
แนวเพลง |
| |||
ความยาว | 40:20 | |||
ค่ายเพลง | แว่วหวาน | |||
โปรดิวเซอร์ | ยืนยง โอภากุล และ ซูซู | |||
ลำดับอัลบั้มของซูซู | ||||
|
รายชื่อเพลง
แก้ลำดับ | ชื่อเพลง | ประพันธ์ | ร้องนำ | ยาว |
---|---|---|---|---|
1. | "อับดุลเลาะห์" | ระพินทร์ พุฒิชาติ , ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง | ยืนยง โอภากุล , ซู | 4.10 |
2. | "ใครสักคน" | ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง , ระพินทร์ พุฒิชาติ | ซู | 4.00 |
3. | "ม้งลงแดง" | วีระศักดิ์ ขุขันธิน , ระพินทร์ พุฒิชาติ | ซู | 4.00 |
4. | "อ้อล้อ" | ยืนยง โอภากุล , วีระศักดิ์ ขุขันธิน | อู๊ด | 3.20 |
5. | "แม่นบ่" | ระพินทร์ พุฒิชาติ , วีระศักดิ์ ขุขันธิน | ซู | 4.00 |
6. | "บ่อสร้างกางจ้อง" | ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง | ทอม | 3.50 |
7. | "นกเขา" | ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งบนปกอัลบั้ม | ทอม | 3.20 |
8. | "ยับเยิน" | วีระศักดิ์ ขุขันธิน | ทอม | 4.27 |
9. | "ไส้เดือน" | ยืนยง โอภากุล , วีระศักดิ์ ขุขันธิน , ระพินทร์ พุฒิชาติ | ทอม / ยืนยง โอภากุล (พูด) | 4.35 |
10. | "สุวรรณภูมิ" | ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งบนปกอัลบั้ม | ซู / ทอม | 4.28 |
ความยาวทั้งหมด: | 40:20 |
จุดเริ่มต้น
แก้วงซูซู มีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของทีมนักดนตรีเพลงเพื่อชีวิตชั้นนำในช่วงนั้น นำโดย ซู - ระพินทร์ พุฒิชาติ อดีตหัวหน้าวงกะท้อน ที่ได้ถูกขับไล่ออกจากวงมา ภายหลังจากการทำอัลบั้มชุดที่ 3 ญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ในปี พ.ศ. 2531 ด้วยเหตุผลที่ขัดแย้งกับผู้จัดการวงและเพื่อนร่วมวง จึงได้มารวมตัวกับ 2 นักดนตรีจากวงคาราวาน ที่กำลังจะมีโครงการที่จะพักวงในขณะนั้น ซึ่งก็คือ เอ็ดดี้ - สุเทพ ปานอำพัน และ อู๊ด ยานนาวา พร้อมทั้ง ปราโมทย์ ม่วงไหมทอง ทีมงานในวงกะท้อน และนักร้องหน้าใหม่อย่าง พันทิวา ภูมิประเทศ จากการแนะนำของยืนยง โอภากุล เพื่อก่อตั้งวงดนตรีกันขึ้นมาใหม่ ในชื่อของ ซูซู ที่มีซูเป็นแกนนำ โดยมี วีระศักดิ์ ขุขันธิน มาร่วมจัดการเนื้อร้อง , ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง จัดการในด้านเนื้อร้องเป็นหลัก พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการให้กับวงซูซู และได้ แอ๊ด คาราบาว มาร่วมเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับทางวงให้กับอัลบั้มชุดนี้อีกด้วย
“หน้าที่โปรดิวเซอร์ของผมอาจจะแปลกกว่าคนอื่น
ผมทำได้แค่เพียงว่าจุดไหนเป็นจุดที่ดี ผมจะให้เขาคำนึงกันถึงจุดนั้น
ผมไม่ได้เปลี่ยนทิศทางดนตรีที่เขากำลังเล่นกันอยู่
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเด่นอย่างกีตาร์ของเขา การร้อง หรือลักษณะดนตรี
สัดส่วนของดนตรียังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่เขามีอยู่
ส่วนเพลงที่เสริมเข้าไป ก็เป็นเพลงที่นำมาจากแนวของตลาดปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นในจุดที่ผมเป็นโปรดิวเซอร์อันนี้ ไม่อยากเรียกตัวเองว่าเป็นโปรดิวซ์ แต่อยากเรียกว่าเป็นผู้ร่วมงานมากกว่า”[ต้องการอ้างอิง]
— ยืนยง โอภากุล
1 ในโปรดิวเซอร์ของอัลบั้มชุดนี้ กล่าวถึงส่วนของการทำงานของตนในชุดนี้
“จุดแรก ผมต้องการจะหนีตัวเอง เพราะทีมที่ทำซูซูนี่ก็เป็นทีมครีเอทีฟของกะท้อนมาตลอด
เราจึงต้องการความคิดอะไรใหม่ๆ ต้องการอะไรที่มันกว้างขึ้น ส่วนของแอ๊ดที่เขามีอยู่มันเข้มข้นดี ก็ขอให้เขามาช่วยคนเดียว
ที่ว่ากว้างนี่หมายถึงสามารถทำอะไรที่มันแตกต่างจากที่เป็นอยู่ อาจจะไม่มากนัก แต่ก็ยังดีกว่าเก่า ...
ในส่วนของเนื้อหาก็ยังคงเป็นเพลงเพื่อชีวิตอยู่ มีทั้งหนักทั้งเบานะครับ
คือไม่หนักเท่าคาราวาน คาราบาว เป็นน้องลงมาว่างั้นเถอะ ส่วนที่เป็นเอนเตอร์เทนก็มีมากขึ้น”[ต้องการอ้างอิง]
— ระพินทร์ พุฒิชาติ
ตอบคำถามถึงเหตุผลที่ได้เลือกยืนยงเข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์ของงานชุดนี้
เบื้องหลัง
แก้อับดุลเลาะห์
แก้บทเพลงอับดุลเลาะห์ เริ่มต้นเกิดขึ้นมาจากการที่ระพินทร์ เคยเขียนเพลง “บุหงาอันดามัน” ให้กับวงกะท้อนในอัลบั้ม ญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ถึงเรื่องราวของพี่น้องชาวใต้ในก่อนหน้านี้ เมื่อเริ่มมาทำเพลงให้กับวงซูซู จึงเริ่มจับประเด็นที่หนักขึ้น ถึงปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสอดคล้องแก่โครงการฮารับปันบารูในขณะนั้น ผนวกกับการที่ระพินทร์คิดว่าควรจะมีเพลงที่เกี่ยวกับเพลงที่เกี่ยวข้องกับภาคใต้สักเพลง ในการที่ระพินทร์ได้ลงไปทัวร์คอนเสิร์ตทางภาคใต้ แล้วพบทั้งปัญหาค่าใช้จ่ายสูง และเดินทางลำบาก หากวงไม่แข็งจริงจะไม่เหลือตังค์กลับบ้านเลย ตามคำบอกเล่าของเขา โดยเดิมทีชื่ออัลบั้มและชื่อของเพลงนี้ได้ถูกตั้งชื่อว่า “มูฮัมมัด” มาก่อน[ต้องการอ้างอิง] แต่เนื่องจากความเกี่ยวพันทางด้านศาสนาอิสลาม ที่เป็นปัญหาละเอียดอ่อน จากการปรึกษาท่านจุฬาราชมนตรี ที่ไม่สามารถนำชื่อนี้มาทำเป็นเพลงเพื่อความบันเทิงได้ ถ้าเป็นลูกของท่านก็พอจะอนุโลมได้ แต่ขอให้มีสาระเพื่อส่วนรวม จึงต้องเปลี่ยนมาเป็น ‘อับดุลเลาะห์ (อับดุลลอฮ)’ หรือ ‘สู่ความหวังใหม่’ ในที่สุด นอกจากนี้ยืนยงยังได้มาร่วมร้องเพลงนี้เพื่อความแข็งแรงทางด้านการตลาด พร้อมทั้งแนะนำให้ระพินทร์ตะโกนคำว่า อัสลามูอาลัยกุม ในช่วงเริ่มเพลงเพื่อเป็นการทักทายแก่พี่น้องชาวมุสลิมอีกด้วย
ใครสักคน
แก้แม้จะได้ถูกเลือกให้มาเป็นเพลงที่ 2 ประจำอัลบั้มชุดนี้ แต่จริงๆ แล้วเพลงนี้กลับเป็นเพลงสุดท้ายที่ได้ถูกเขียนขึ้นมาไว้ในชุดนี้ โดยนำเค้าโครงมาจากเรื่องราวชีวิตจริงจากเพื่อนของระพินทร์ที่รู้จักกัน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่เขากำลังนั่งดีดกีต้าร์โปร่งแล้วนึกทำนองขึ้นมาได้ จึงได้มอบให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ประพันธ์เพลงนี้ .. “เพื่อนฉันมันเรียนอย่างเดียว ไม่ต้องทำงานแล้ว เมียหมอนวดมันส่งเรียน” - ระพินทร์[ต้องการอ้างอิง] จนลงตัวออกมาเป็นเพลง ใครสักคน ในอัลบั้มสู่ความหวังใหม่ได้ในที่สุด
อ้อล้อ
แก้คือเพลงที่ยืนยง เขียนขึ้นมาได้กว่า 80% ระพินทร์จึงได้ขอรับมาทำต่อให้เสร็จ ด้วยการให้เพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ “ยาดอง” เข้าไปในท้ายเพลงด้วย และเพลงนี้เป็นเพลงที่ใช้เวลาในการเลือกนักร้องอยู่พอสมควร เพราะตัวของระพินทร์เองขอเลือกที่จะไม่ร้องเพลงนี้ หรือจะเอาพันทิวาก็เสียงเหน่อไป จึงได้ตัดสินใจเลือกมือกลองอย่างอู๊ดมาร้องเพลงนี้ แม้ตัวเขาเองจะปฎิเสธไป แต่ระพินทร์ก็ได้ให้เหตุผลแนะนำไปว่าเป็นเพลงดีที่ควรจะร้อง คนฟังจะได้สนใจในการตีกลองของเขาด้วย จนเขาต้องยอมร้องในที่สุด[ต้องการอ้างอิง]
“เป็นมติของทางวงเขานะ เขาเห็นว่าเสียงแปลกดี ไม่ใช่นักร้อง พอร้องหวานๆ ก็ร้องไม่ได้ บังคับเสียงไม่เป็น เสียงมันก็ออกมาดิบๆ ตอนร้องก็หลายเทค (หัวเราะ) สั่นน่าดู ยากนะ ใครมาลองร้องเพลงดูสิ แล้วจะรู้ โอ้โห อย่าบอกใครเลย” - อู๊ด ยานนาวา[ต้องการอ้างอิง]
ม้งลงแดง
แก้เพลงนี้มาจากเค้าโครงจากเรื่องราวของ วีระศักดิ์ ขุขันธิน (ผู้ประพันธ์เพลงนี้) ที่ได้นำเรื่องราวมาจากการตนเคยกินเหล้าข้าวโพดกับพี่น้องชาวม้งอยู่บ่อยครั้ง ในช่วงที่เคยเข้าป่าไปเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อนหน้านี้ จนลงตัวออกมาเป็นเพลง ม้งลงแดง ในเวลาต่อมา[ต้องการอ้างอิง]
บ่อสร้างกางจ้อง
แก้ในช่วงที่ต้องเริ่มทำอัลบั้มกัน ระพินทร์ , ศักดิ์สิทธิ์ และวีระศักดิ์ ได้พากันเดินทางขึ้นไปทางภาคเหนือ เพื่อเริ่มหาข้อมูลเขียนเพลงให้กับอัลบั้ม โดยมีคอนเซปต์ไว้ในใจเเล้วว่า จะต้องมีเพลงโจ๊ะเป็นเพลงนำร่องในอัลบั้มชุดนี้ด้วย ทั้ง 3 ได้พักอยู่ทางภาคเหนือถึง 1 อาทิตย์ด้วยกัน เเละได้เก็บข้อมูลจากหลายๆ สถานที่ โดยหนึ่งในสถานที่ก็คือ หมู่บ้านทำร่มบ่อสร้าง ใน อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ศักดิ์สิทธิ์ได้มีความประทับใจกับร่มที่มีสีสันสวยงาม และพบกับแม่ค้าขายร่มจากหมู่บ้านทำร่มบ่อสร้างที่เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อกลับมาถึงที่พัก ศักดิ์สิทธิ์จึงได้จับปากกาเขียนเพลง จากภาพความประทับใจนั้นออกมา ภายในระยะเวลาเพียงแค่คืนเดียว ในชื่อของ สาวบ่อสร้าง แต่เนื่องจากศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าชื่อเพลงนั้นไปคล้ายกับชื่อเพลงสาวรำวงที่ตนเคยเเต่งไว้ในอดีต จึงได้เปลี่ยนมาเป็น บ่อสร้างกางจ้อง และเมื่อทางวงได้มอบเพลงนี้ให้พันทิวา ได้ลองร้องเพื่อทำการออดิชันก่อนเข้าวง ก็กลับลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ[ต้องการอ้างอิง] จึงได้รับพันทิวาเข้ามาเป็นนักร้องนำ พร้อมกับมอบเพลงนี้ให้เขาร้อง จนทำให้หลายคนได้รู้จักชื่อของ ทอม ดันดี จากเพลงนี้ในเวลาต่อมา นอกจากนี้เพลงนี้ยังได้ถูกเคยนำไปใช้ประกอบในพิธีเปิดแข่งขันกีฬาแห่งหนึ่ง ณ สนามสมโภช 700 ปี เชียงใหม่อีกด้วย[ต้องการอ้างอิง]
ยับเยิน
แก้ยับเยิน เป็นเพลงที่วีระศักดิ์ ตั้งใจเขียนขึ้นมาให้กับตัวของพันทิวาได้ร้องเอาไว้โดยเฉพาะ และยังได้ยืนยงมาร่วมโซโล่กีตาร์ให้กับเพลงนี้ในท่อนกลางและท่อนจบในเพลงนี้อีกเช่นเคย
“... ถ้าเพลงอย่างยับเยิน เรียกว่าเป็นเพลงเพื่อชีวิต ผมว่ามันยังทำงานได้อีกเยอะเลย เพราะว่ามันง่ายๆ ชัดเจนโดยแง่คิด สมมติว่ามันเป็นเพลงเพื่อชีวิตโดยอารมณ์ หัวข้อมันตั้งขึ้นมาก็ต้องเป็นเพลง ‘เพื่อชีวิต’ แล้วล่ะ ไม่ได้หลุดไปจากตรงนี้ เพียงแต่ว่าแง่มุมไหนที่จะให้มันง่ายหน่อย” - วีระศักดิ์ให้ความเห็นกับนิตยสารสีสัน ถึงทิศทางความตันของเพลงเพื่อชีวิตในเวลานั้น โดยยกยับเยิน ผลงานของตนมาเป็นตัวอย่าง[ต้องการอ้างอิง]
นักดนตรี
แก้- ซู พุฒิชาติ : กีตาร์ , ร้องนำ
- อู๊ด ยานนาวา : กลอง , ร้องนำ
- สุเทพ ปานอำพัน : เบส , คอรัส
- พันทิวา ภูมิประเทศ : ร้องนำ
- เรืองยศ พิมพ์ทอง : คีย์บอร์ด , แฮมมอนด์
- ปราโมทย์ ม่วงไหมทอง : คอรัส , ผู้ช่วยนักดนตรี
นักดนตรีอื่นที่ร่วมงาน
แก้- Mr. Ulu : Xylorimba
- สิริพร พงษ์พิสิษฎ์ : คอรัส
- พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ : คอรัส
- ยืนยง โอภากุล : กีตาร์โซโล่เพลง “ไส้เดือน” , “อ้อล้อ” (ท่อนกลาง) , “ยับเยิน” (ท่อนกลางถึงจบ) และร้องนำเพลง “อับดุลเลาะห์”
เครดิต
แก้- คำร้อง-ทำนอง : ยืนยง โอภากุล , ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง , วีระศักดิ์ ขุขันธิน , ระพินทร์ พุฒิชาติ
- บันทึกเสียง : มิกซ์สตูดิโอ
- ซาวด์เอ็นจีเนียร์ : สนอง โสตถิลักษณ์ , สนิท นรฮิม , กฤษณะ วงศ์สุข , สัมพันธ์ บัวผดุง , Mori Hideki (Records Drums Set)
- มิกซ์เสียง : คาราบาวสตูดิโอ
- ผู้มิกซ์เสียง : Gino Bodio
- โปรดิวเซอร์ : ยืนยง โอภากุล และ Zu-Zu
- มาสเตอร์เทป : สุรสิทธิ์ จิวะราพงษ์
- ธุรกิจ : ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง
แหล่งข้อมูล
แก้- ปกอัลบั้ม “สู่ความหวังใหม่” (พ.ศ. 2532)
- ZUZU นักรบผู้ติดอาวุธดนตรี / จากนิตยสาร “สีสัน” ปีที่ 2 ฉบับที่ 5 , พฤษภาคม พ.ศ. 2532
- BACK-UP : อู๊ด ยานนาวา / จากหนังสือเพลง “THE GUITAR” ฉบับที่ 184 , พฤษภาคม พ.ศ. 2532
- BACK-UP : ระพินทร์ พุฒชาติ “สู่ความหวังใหม่” ในความเป็น “ซูซู” / จากหนังสือเพลง “THE GUITAR” ฉบับที่ 185 , มิถุนายน พ.ศ. 2532
- เรื่องราวของวงซูซู จาก Facebook ของระพินทร์ พุฒิชาติ
- เรื่องราวเพลงอับดุลเลาะห์ จาก Facebook ของระพินทร์ พุฒิชาติ
- เรื่องราวเพลงบ่อสร้างกางจ้อง จากศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง โดยคุณกันต์ สกุลโพน
- ↑ ความในใจจาก แอ๊ด คาราบาว บนปกซีดีอัลบั้ม ‘ทำมือ’ (กระบือแอนด์โค , พ.ศ. 2540)