สุรสิทธิ์ ตรีทอง
สุรสิทธิ์ ตรีทอง เป็นนักการเมืองชาวไทย เป็นสมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นหลานชายของ บุญชู ตรีทอง อดีต ส.ส.ลำปาง
สุรสิทธิ์ ตรีทอง | |
---|---|
สมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 | |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ | |
ดำรงตำแหน่ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 – 10 พฤษภาคม 2554 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 3 กันยายน พ.ศ. 2503 |
ศาสนา | พุทธ |
ประวัติ แก้
สุรสิทธิ์ ตรีทอง เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2503 เป็นนักการเมืองชาวแม่ฮ่องสอนโดยกำเนิด จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการเมืองและบูรณาการ และปริญญาโท นิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการท่องเที่ยวและบันเทิง จากมหาวิทยาลัยเกริก กรุงเทพมหานคร
สุรสิทธิ์ ตรีทอง เป็นผู้ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาทางการศึกษาโดยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน และพิจารณาสนับสนุนงบประมาณองค์การบริหารส่วนจังหวัดในการดำเนินการ[1] เขาได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการปกครองท้องถิ่น จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
การทำงาน แก้
การเมืองท้องถิ่น แก้
สุรสิทธิ์ ตรีทอง เป็นสมาชิกสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 สมัย ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ถึง พ.ศ. 2545 เขาได้รับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปี พ.ศ. 2543 เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในปี พ.ศ. 2545 จนถึงปี 2547 ต่อมาในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรงจากประชาชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2547[2] เขาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน
สภาผู้แทนราษฎร แก้
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบสัดส่วน กลุ่ม 1 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 56[3] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้ง 44 ที่นั่ง
วุฒิสภา แก้
ในปี พ.ศ. 2562 สุรสิทธิ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ลำดับที่ 223[4][5]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้
- พ.ศ. 2566 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[6]
- พ.ศ. 2563 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[7]
อ้างอิง แก้
- ↑ "วิทยาลัยแม่ฮ่องสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-19. สืบค้นเมื่อ 2021-04-19.
- ↑ พระปกเกล้า,สถาบัน. ฐานข้อมูลการเลือกตั้งนายก อบจ. สถาบันพระปกเกล้า : กรุงเทพ. 2547
- ↑ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคประชาธิปัตย์)
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา
- ↑ สุดยอด!อดีตผู้ว่าขอนแก่นเจ้าของหนังสือด่วน'ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่'มีชื่อเป็นส.ว.ด้วย
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๔ ข หน้า ๕, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๔, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
แหล่งข้อมูลอื่น แก้
- สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน