สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์

(เปลี่ยนทางจาก สุรชัย แซ่ด่าน)

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ มีชื่อเดิมว่า สุรชัย แซ่ด่าน เป็นอดีตนักเคลื่อนไหว และอดีตนักโทษการเมืองคดีคอมมิวนิสต์คนสุดท้ายของประเทศไทย เป็นอดีตคณะทำงานพรรคไทยรักไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นอดีตแกนนำกลุ่มแดง

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
เกิดสุรชัย แซ่ด่าน
24 ตุลาคม พ.ศ. 2485 (81 ปี)
จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเทศไทย
สาบสูญ12 ธันวาคม พ.ศ. 2561
(ผ่านมาแล้ว​ 5 ปี 4 เดือน 7 วัน)
ประเทศลาว
การศึกษาสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
พรรคการเมืองพรรคไทยรักไทย

ประวัติ แก้

นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ชื่อเดิม สุรชัย แซ่ด่าน (陳嘉前) เกิดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2485 ที่บ้านวัดสระ ตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายยกย้วนและนางสมเช้า แซ่ด่าน จบการศึกษาจากสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ก่อนจะเข้าสู่แวดวงการเมืองเคยมีอาชีพซ่อมวิทยุและโทรทัศน์มาก่อน

สุรชัยสมรสสามครั้ง มีบุตรกับภรรยาคนแรก 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 และบุตรชายอีก 1 คนกับภรรยาคนที่ 2[1]

บทบาทการเมือง แก้

 
หมวกดาวแดงพร้อมลายเซ็นของสุรชัย

นายสุรชัย เดิมทีเป็นที่รู้จักดีในการเมืองช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา จากการเป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทื่เคลื่อนไหวแบบยุทธวิธีกองโจรในป่า ซึ่งต่อมาได้รับโทษถึงประหารชีวิตอันเนื่องจากคดีฆาตกรรมจากการปล้นรถไฟ โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ได้เกิดคดีฆาตกรรม ร.ต.อ. ไสว พลชนะ และปล้นรถไฟที่ สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี โดยปล้นเงินไปได้กว่าหนึ่งล้านสองแสนบาท แต่ต่อมาได้รับการพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ. 2531

ต่อมา นายสุรชัยได้เข้าร่วมการเมืองในระบบรัฐสภาด้วยการเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่ จากการชักชวนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

นายสุรชัย เข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ คมช. ที่ท้องสนามหลวง และต่อมาได้แยกตัวออกมาจัดตั้งกลุ่ม "แดงสยาม" ร่วมกับนายจักรภพ เพ็ญแข โดยมิได้ข้องเกี่ยวอะไรกับกลุ่ม นปช. อีกต่อไป

ในการขึ้นเวที นปช. เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550 นายสุรชัย ได้กล่าวหมิ่นประมาทนายชวน หลีกภัย และศาลอาญามีคำพิพากษาปรับ 50,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษเหลือ 25,000 บาท[2]

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ตำรวจได้จับกุมตัวนายสุรชัย ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 27/2554 ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (กฎหมายอาญามาตรา 112 ในประเทศไทย) หลังจากการปราศรัยบริเวณใกล้ท้องสนามหลวง[3] ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ศาลอาญา มีคำพิพากษา ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน จากคดีดังกล่าว[4] ต่อมาในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เขาจึงได้รับพระราชทานอภัยโทษ[5] และได้รับการปล่อยตัวออกมาในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556[6]

นายสุรชัย ได้จัดทำรายการ "ปฏิวัติประเทศไทย" แพร่ภาพผ่านยูทูปโดยนำเสนอข่าวสารและสาระเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เหตุการณ์ล่าสุด 29 มกราคม 2558 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ ครม.จัดการ ข้อหากบฏต่อแผ่นดิน

เขาเป็นผู้ฝ่าฝืน คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 57/2557 จนกระทั่งศาลทหารออกหมายจับ

ผลงานเขียน แก้

ตำนานนักสู้ สุรชัย แซด่าน เล่มที่ 1 และ 2 (ชื่อเดิม นักโทษประหารคนที่ 310) อัตชีวประวัติของสุรชัย ตั้งแต่สมัยที่ยังต่อสู้เคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคใต้ การเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและชีวิตในเรือนจำโดยสุรชัยใช้เวลาที่ถูกจำคุกในการเขียนหนังสือเล่มนี้[7]

การปราศรัย แก้

หลังการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ พ.ศ. 2553 สุรชัยเริ่มเปิดเวทีปราศรัยที่ราชบุรีเป็นครั้งแรก ในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553[8] จากนั้นก็ได้เดินทางปราศรัยตามคำเชิญทั่วประเทศ

วิธีปราศรัยของสุรชัยเป็นสิ่งที่สุรชัยเรียกว่าการพูดแบบเฉียดฉิว นั่นคือการที่สุรชัยใช้วาทกรรมเปรียบเปรยสังคมไทยเป็นปริศนาที่ทำให้ผู้ฟังต้องนำไปตีความ สุรชัยบอกในการปราศรัยเสมอว่าปัญหาของประเทศไทยนั้นมาจากชนชั้นสูง ดังนั้นการแก้ปัญหาของประเทศต้องใช้แนวทางปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศใหม่ สุรชัยเน้นในการปราศรัยว่าการปฏิวัตินั้นเป็นสิ่งที่ดีทำให้ประเทศมีความเจริญขึ้น แตกต่างจากรัฐประหารที่ทำให้ประเทศตกต่ำลง โดยการปฏิวัติประเทศไทยเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวคือการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475

แฟชั่นหมวกดาวแดง แก้

สุรชัยมักจะปรากฏตัวด้วยแฟชั่น หมวกเขียว-ดาวแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการต่อสู้ของกลุ่มคอมมิวนิสต์ ซึ่งนายเทพไท เสนพงศ์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า "เหิมเกริม ท้าทายอำนาจรัฐ" หมวกดาวแดงของสุรชัยรุ่นล่าสุด มีการพิมพ์คำว่า "แดงสยาม" ที่หน้าหมวก

การหายสาบสูญ แก้

สุรชัยหายตัวไปในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561 นายสุรชัย พร้อมด้วยผู้ติดตามสองคน คือสหายภูชนะ และสหายกาสะลอง ได้หายตัวไปในเขตประเทศลาว ไม่แน่ชัดว่าสุรชัยไปอยู่ที่ใดหรือเสียชีวิต

ในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562 มีการเผยผลพิสูจน์ DNA 1 ใน 2 ศพการฆาตกรรมผ่าท้องยัดเสาปูนถ่วงน้ำ แม่น้ำโขง จังหวัด นครพนม ว่าตรงกันกับศพของนายภูชนะ วันต่อมา ผลตรวจ DNA ออกมาตรงกับศพของสหายกาสะลอง หรือนายไกรเดช ลือเลิศ อายุ 47 ปี เป็นคน อ. แม่จัน จ. เชียงราย[9][10]

กลุ่มบุคคลที่เชื่อว่านายสุรชัยเสียชีวิต นำโดยนายอานนท์ นำภา ได้จัดกิจกรรมรำลึกถึงสุรชัยและผู้ติดตามอีกสองคน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ณ แยกราชประสงค์[11]

อ้างอิง แก้

  1. เปิดประวัติ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ จากไทยรัฐ
  2. ศาลปรับ "สุรชัย แซ่ด่าน" 5หมื่น ฐานหมิ่น "ชวน หลีกภัย"
  3. "ตำรวจรวบสุรชัย แซ่ด่าน คาบ้านพัก คดีหมิ่น". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-10. สืบค้นเมื่อ 2011-02-24.
  4. "จำคุก 2 ปี 6 เดือน! "สุรชัย แซ่ด่าน" หมิ่นเบื้องสูง".
  5. "สุรชัย แซ่ด่าน ได้รับพระราชทานอภัยโทษ -ออกคุกค่ำ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-05. สืบค้นเมื่อ 2013-10-03.
  6. "สุรชัย แซ่ด่าน ได้รับพระราชทานปล่อยตัว". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2013-10-04.
  7. สุรชัย แซ่ด่าน,ตำนานนักสู้ สุรชัย แซด่าน เล่มที่ 1 และ 2
  8. "สุรชัยเริ่มเปิดเวทีปราศรัยที่ราชบุรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-06. สืบค้นเมื่อ 2011-02-25.
  9. สุรชัย แซ่ด่าน : ภรรยาไม่ปักใจสามีคือ 1 ใน 3 ศพนิรนาม แต่เชื่อสามี “ถูกอุ้ม” ในลาว
  10. ผู้การฯนครพนม ยืนยัน 2 ศพฆ่าคว้านท้องยัดแท่งปูน ถ่วงน้ำโขงเป็นผู้ติดตาม “สุรชัย แซ่ด่าน”[ลิงก์เสีย]
  11. ไว้อาลัย ‘สุรชัย แซ่ด่าน’ และสหาย รวมตัววางดอกไม้กลางแยกราชประสงค์