สุทัตตา เชื้อวู้หลิม

สุทัตตา เชื้อวู้หลิม ชื่อเล่น นุช เกิดวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2535 ที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงชาวไทย ผู้ทำหน้าที่ในตำแหน่งหัวเสา และเคยเป็นนักวอลเลย์บอลหลักร่วมสังกัดสโมสรเฟดเดอร์บรอย[1]

สุทัตตา เชื้อวู้หลิม
ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อเต็มสุทัตตา เชื้อวู้หลิม
ชื่อเล่นนุช
เกิด19 ธันวาคม พ.ศ. 2535 (31 ปี)
ไทย อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ส่วนสูง1.73 m (5 ft 8 in)
น้ำหนัก64 kg (141 lb)
กระโดดตบ292 ซม.
บล็อก282 ซม.
ข้อมูล
ตำแหน่งบอลหัวเสา
สโมสรปัจจุบันไดมอนด์ฟู๊ด
หมายเลข9
อาชีพ
ปีทีม
2010
2010-2014
2015-2018
2018-2019
2019-ปัจจุบัน
ไทย เฟดเดอร์บรอย
ไทยสุพรีม-นครศรี
ไทยบางกอกกล๊าส
ไทยควินท์ แอร์ฟอร์ซ
ไทยเจนนาราลี่ สุพรีม ชลบุรี
ทีมชาติ
2552-2553
2553
2564-ปัจจุบัน
ไทย ทีมชาติไทย (ชุดเยาวชน)
ไทย ทีมชาติไทย (ชุดยุวชน)
ไทย ทีมชาติไทย

ประวัติ แก้

เกิดเมื่อวันที่19 ธันวาคม พ.ศ. 2535 ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นธิดาของนายสมัย นางทองหยิบ เชื้อวู้หลิม จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่6 จากโรงเรียนบ้านห้วยน้ำโจนซึ่งเธอเล่นกีฬาวอลเลย์บอลจากที่นี่ เดือนมกราคม พ.ศ. 2552 สุทัตตาได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตเข้าแข่งขันวอลเลย์บอลในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 36 [2] และในวันที่ 4 กรกฎาคม ของปีเดียวกันนี้ เธอเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมชาติไทยชนะทีมชาติเยอรมนี ในการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์โลก 2009 ด้วยการเสิร์ฟของเธอเพียงคนเดียวที่สามารถทำได้ถึง 11 แต้ม ส่งผลให้ทีมของเธอสามารถเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในเวลาต่อมา[3][4]

เดือนมีนาคม พ.ศ. 2553 สุทัตตาได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลสังกัดกรุงเทพมหานคร ในการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 26 [5] ต่อมา ในเดือนพฤษภาคม เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาวอลเลย์บอลยุวชนหญิงทีมชาติไทย เข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2010 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศมาเลเซีย[6] รวมถึงในวันที่ 14 กันยายน ของปีเดียวกัน เธอได้ทำหน้าที่ร่วมกับทีมชาติไทย ในการแข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2010 ที่ประเทศเวียดนาม โดยทีมของเธอสามารถชนะทีมชาติอินเดีย 3-0 เซ็ต[7] และในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นรอบรองชนะเลิศ ทีมของเธอเป็นฝ่ายแพ้ต่อทีมชาติจีนที่ 0-3 เซ็ต[8]

เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 สุทัตตาได้เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยเอเชีย ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้น ณ อูลานบาตาร์ ประเทศมองโกเลีย[9] ส่วนในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน เธอได้เป็นตัวแทนทีมมหาวิทยาลัยไทย เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลในกีฬามหาวิทยาลัยชิงแชมป์อาเซียน ที่จัดขึ้น ณ ประเทศลาว โดยทีมของเธอสามารถเป็นฝ่ายชนะทีมชาติลาวที่ 3-0 เซ็ต รวมถึงชนะทีมชาติมาเลเซียที่ 3-1 เซ็ต[10]

เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 สุทัตตาได้ทำหน้าที่ร่วมกับทีมสโมสรวอลเลย์บอล สุพรีม-นครศรี ในการแข่งขันวอลเลย์บอลไทยเดนมาร์คซูเปอร์ลีก 2013 โดยทีมของเธอเป็นฝ่ายแพ้ต่อทีมสโมสรวอลเลย์บอลไอเดีย-ขอนแก่น ในรอบชิงชนะเลิศที่ 0-3 เซ็ต[11]

และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 สุทัตตาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยแห่งอาเซียน ครั้งที่ 17 ที่จัดขึ้น ณ ปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย[12][13]

สโมสร แก้

เกียรติประวัติและผลงาน แก้

สโมสร แก้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "Profil zawodniczki na stronie FIVB". สืบค้นเมื่อ 11 October 2015.
  2. "มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-01-26.
  3. สาวไทยสยบเบียร์ 3-1 เซตลิ่ว 8 ทีมตบยุวชนโลก - สยามสปอร์ต
  4. ตบสาวไทยคว้าชัยทะลุรอบ 2 ศึกวอลเลย์บอลยุวชนโลก - คมชัดลึก[ลิงก์เสีย]
  5. สุทัตตา เชื้อวู้หลิม - การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 26[ลิงก์เสีย]
  6. "เปิดโผนักตบสาวลุ้นตั๋วลุยยูธ อลป. : ข่าวสดออนไลน์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-01-26.
  7. ตบ ยช.สาวมั่นใจทะลุรอบรอง อช.
  8. วอลเลย์สาวไทยเล่นผิดฟอร์มพ่ายจีน 0-3 ชวดชิงฯลูกยางเยาวชนเอเชีย
  9. วอลเลย์ฯญ.ไทยพร้อมป้องกันแชมป์ ม.เอเชีย : INN News[ลิงก์เสีย]
  10. "สาววอลเลย์ฯปัญญาชนไทยสุดแกร่ง-คว้าชัย 2 นัดติดในกีฬา ม.อาเซียน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-29. สืบค้นเมื่อ 2021-10-02.
  11. 11.0 11.1 “อรอุมา” พาไอเดียขอนแก่นคว้าแชมป์ตบไทยเดนมาร์คซูเปอร์ลีก[ลิงก์เสีย]
  12. ฐาปไพพรรณ นำทัพตบทีมไทย ลุยศึก ม.อาเซียน[ลิงก์เสีย]
  13. "'ลูกยางไทย' ลั่นกวาด 4 ทอง 'ปัญญาชนอาเซียน'". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-17. สืบค้นเมื่อ 2021-10-02.
  14. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๕ ข หน้า ๒๖, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

แหล่งข้อมูลอื่น แก้