สาธิต ปิตุเตชะ
สาธิต ปิตุเตชะ (เกิด 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคกลาง 3 สมัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง 4 สมัย อดีตสมาชิกสภาจังหวัดระยอง และอดีตรองประธานสภาจังหวัดระยอง ที่มีอายุน้อยที่สุดในสภาจังหวัดระยอง
สาธิต ปิตุเตชะ | |
---|---|
สาธิต ในปี พ.ศ. 2562 | |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข | |
ดำรงตำแหน่ง 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 – 1 กันยายน พ.ศ. 2566 (4 ปี 53 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ประยุทธ์ จันทร์โอชา |
รัฐมนตรีว่าการ | อนุทิน ชาญวีรกูล |
ก่อนหน้า | สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ |
ถัดไป | สันติ พร้อมพัฒน์ |
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ | |
ดำรงตำแหน่ง 31 มกราคม พ.ศ. 2557 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 (9 ปี 312 วัน) | |
หัวหน้า | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2557–2566) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (2562–2566) |
ก่อนหน้า | จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ |
ถัดไป | ประมวล พงศ์ถาวราเดช |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | อิสระ |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | ประชาธิปัตย์ (2544–2566) |
คู่สมรส | นพเกตุ ปิตุเตชะ |
บุตร | เฌอ ปิตุเตชะ |
บุพการี |
|
ความสัมพันธ์ |
|
ประวัติ
แก้สาธิต ปิตุเตชะ มีชื่อเล่นว่า ตี๋ เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510[1] ที่ ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เป็นบุตรของสาคร ปิตุเตชะ อดีตกำนันตำบลบางบุตร (เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561) กับ ทอด ปิตุเตชะ และเป็นน้องชายของปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง กับธารา ปิตุเตชะ อดีต ส.ส. ระยอง 3 สมัย และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง สมรสกับ นพเกตุ (บี) บุตรสาวของ สมเกียรติ นพเกตุ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง โดยมีบุตรสาวด้วยกันคนเดียว คือ เฌอ ปิตุเตชะ (ต้นไม้)
สาธิต เข้ารับการศึกษาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เนื่องจากสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ติด และเข้าสู่แวดวงการเมือง จากการได้รับแรงบันดาลใจจากการเข้าร่วมชุมนุมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในปี พ.ศ. 2535 หลังจากสำเร็จการศึกษาไม่นาน ขณะที่เป็นทนายความฝึกหัดอยู่ โดยเข้าร่วมชุมนุมในฐานะผู้ชุมนุมทั่วไป พร้อมกับเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่ต่อมาได้กลายเป็นดารา นักแสดง และนักการเมือง ที่มีชื่อเสียง เช่น ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, ชลิตา พานิชการ รวมไปถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, จำลอง ศรีเมือง, วัชระ เพชรทอง, จาตุรนต์ ฉายแสง, กรุณา บัวคำศรี ฯลฯ อดีตหนึ่งในแนวร่วมการชุมนุมดังกล่าวในขณะนั้น ซึ่งเขาได้ถูกทหารทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าโดยด้ามปืนด้วย[2]
การศึกษา
แก้สาธิต ปิตุเตชะ สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ นโยบายสาธาณะ จาก มหาวิทยาลัยบูรพา และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (บริหารธุรกิจอุตสาหกรรม) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เมื่อ พ.ศ. 2561
การทำงาน
แก้สาธิต ปิตุเตชะ ประกอบอาชีพทนายความ โดยเปิดสำนักงานทนายความแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ก่อนเข้าสู่วงการเมืองครั้งแรกโดยลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) เมื่อปี พ.ศ. 2535 ที่อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ทั้งที่มีฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย ทำให้ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2538 และได้รับเลือกตั้งเป็นอันดับที่ 3 ของจำนวนสมาชิกสภาจังหวัด 9 คน และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาจังหวัดระยอง โดยมีอายุน้อยที่สุดในสภาจังหวัดขณะนั้น และได้ดำรงตำแหน่งอยู่จนครบวาระ
สาธิต ปิตุเตชะ เข้าสู่วงการเมืองระดับประเทศครั้งแรก โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง เขต 1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แข่งขันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4 สมัย จาก พรรคไทยรักไทย สามารถชนะการเลือกตั้งโดยทิ้งห่างคู่แข่งกว่า 10,000 คะแนน และได้รับรางวัล ส.ส. ที่ไม่เคยขาดประชุม เมื่อปี พ.ศ. 2546 จาก อุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ อีกด้วย
ในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 จังหวัดระยอง ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เขาได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา[3]
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ตามข้อบังคับพรรค และเขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว
ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 เขาได้ลงสมัคร ส.ส.จังหวัดระยอง เขต 1 ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกหนึ่งสมัย
ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 เขาได้ลงสมัคร ส.ส.จังหวัดระยอง เขต 1 ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกหนึ่งสมัย ซึ่งเป็น ส.ส.จังหวัดระยอง สมัยที่ 4 ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ในปี พ.ศ. 2565 สาธิต ได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา[4] ซึ่งแต่เดิมเป็นที่คาดหมายว่าตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นของ ไพบูลย์ นิติตะวัน จากพรรคพลังประชารัฐ[5]
ต่อมาในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อลงมติเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ภายหลังอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรค ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ สาธิตได้ประกาศลาออกตามอภิสิทธิ์ไปด้วย ทำให้สาธิตพ้นจากตำแหน่งรักษาการรองหัวหน้าพรรคไปโดยปริยาย[6]
ความสนใจ
แก้กีฬา เขาสนใจกีฬาฟุตบอลตั้งแต่เด็ก โดยตำแหน่งที่เล่นคือกองหน้า และเบอร์เสื้อที่ชื่นชอบที่สุด คือ เบอร์ 11 โดยสโมสรฟุตบอลที่ชื่นชอบ คือ สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล
ดนตรี เขาชอบเล่นดนตรีตั้งแต่สมัยเรียน และได้ตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ๆ โดยเครื่องดนตรีที่ชอบเล่นที่สุด คือ กีตาร์ไฟฟ้า และชอบฟังเพลง Rock วงดนตรีที่ชอบที่สุดคือวง สกอร์เปียนส์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2554 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[7]
- พ.ศ. 2551 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[8]
อ้างอิง
แก้- ↑ ประวัติผู้สมัคร ส.ส. เก็บถาวร 2010-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ↑ บ้านนี้สีฟ้า (รีรัน), รายการทางบลูสกายแชนแนล: เสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2556
- ↑ "เว็บไซต์ ครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-25. สืบค้นเมื่อ 2021-08-30.
- ↑ ""สาธิต" เชื่อ ทำกม.ลูก ไร้ปัญหา การันตีทำเสร็จ พร้อมยื่น "ชวน" 24พฤษภาคม". bangkokbiznews. 2022-04-22.
- ↑ "'สาธิต ปิตุเตชะ' นั่งประธาน กมธ.กฎหมายลูกเลือกตั้ง เฉือน 'ไพบูลย์' 22 ต่อ 21". ThaiPost. 2022-03-01.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""มาดามเดียร์" เว้นวรรค -"สาธิต" ลาออก จากพรรคประชาธิปัตย์". ฐานเศรษฐกิจ. 9 ธันวาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 9 ธันวาคม 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๑๐, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑