ประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เซอร์เบียและมอนเตเนโกร (อังกฤษ: Serbia and Montenegro, SCG) เป็นชื่อของอดีตสหพันธรัฐซึ่งเป็นการรวมอย่างหลวม ๆ ของเซอร์เบียและมอนเตเนโกร อดีตสาธารณรัฐของยูโกสลาเวีย ตั้งแต่ ค.ศ. 2003 จนถึง ค.ศ. 2006 ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่านตอนตะวันตกกลาง ซึ่งแต่เดิมมีชื่อประเทศว่า สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อประเทศในปี ค.ศ. 2003 ในชื่อ สหภาพรัฐเซอร์เบียและมอนเตเนโกร
สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย (1992–2003) Савезна Република Југославија Savezna Republika Jugoslavija สหภาพรัฐแห่งเซอร์เบียและมอนเตเนโกร (2003–2006) Државна Заједница Србија и Црна Гора Državna Zajednica Srbija i Crna Gora | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1992–2006 | |||||||||||||||
![]() สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย (สีเขียว) ในปี ค.ศ. 2003 | |||||||||||||||
สถานะ | รัฐตกค้างของสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย | ||||||||||||||
เมืองหลวง | เบลเกรดa | ||||||||||||||
เมืองใหญ่สุด | เบลเกรด | ||||||||||||||
ภาษาราชการ | เซอร์เบีย-โครเอเชีย (1992–1997) · เซอร์เบีย (1997–2006) | ||||||||||||||
ภาษาที่รับรอง | แอลเบเนีย · ฮังการี | ||||||||||||||
เดมะนิม | ยูโกสลาฟ (จนถึงปี ค.ศ. 2003) เซิร์บ · มอนเตเนกริน (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003) | ||||||||||||||
การปกครอง | สหพันธ์สาธารณรัฐ (1992–2003) สมาพันธรัฐ สาธารณรัฐรัฐธรรมนูญ (2003–2006) | ||||||||||||||
ประธานาธิบดี | |||||||||||||||
• 1992–1993 (คนแรก) | โดรบิชา โชชิช[a] | ||||||||||||||
• 1997–2000 | สโลโบดัน มิโลเชวิช[a] | ||||||||||||||
• 2003–2006 (คนสุดท้าย) | สเวทอซาร์ มารอวิช[b] | ||||||||||||||
หัวหน้ารัฐบาล | |||||||||||||||
• 1992–1993 (คนแรก) | มิลาน ปานิช[c] | ||||||||||||||
• 2003–2006 (คนสุดท้าย) | สเวทอซาร์ มารอวิช[d] | ||||||||||||||
สภานิติบัญญัติ | สมัชชาสหพันธรัฐ (รัฐสภา) | ||||||||||||||
• สภาสูง | สภาสาธารณรัฐ | ||||||||||||||
• สภาล่าง | สภาประชาชน | ||||||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||||||
• ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ | 27 เมษายน 1992 | ||||||||||||||
• การลงโทษ | 1992–1995 | ||||||||||||||
1998–1999 | |||||||||||||||
5 ตุลาคม 2000 | |||||||||||||||
1 พฤศจิกายน 2000 | |||||||||||||||
• สหภาพรัฐ | 4 กุมภาพันธ์ 2003 | ||||||||||||||
• เอกราชของมอนเตเนโกร | 3 มิถุนายน 2006 | ||||||||||||||
• จุดจบสหภาพ | 5 มิถุนายน 2006 | ||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||
• รวม | 102,173 ตารางกิโลเมตร (39,449 ตารางไมล์) | ||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||
• 2006 ประมาณ | 10,832,545 | ||||||||||||||
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 1995 (ประมาณ) | ||||||||||||||
• รวม | ![]() | ||||||||||||||
• ต่อหัว | ![]() | ||||||||||||||
เอชดีไอ (1996) | ![]() สูง · 87th | ||||||||||||||
สกุลเงิน | เซอร์เบีย:
มอนเตเนโกร:b
| ||||||||||||||
เขตเวลา | UTC+1 (CET) | ||||||||||||||
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) | ||||||||||||||
ขับรถด้าน | ขวา | ||||||||||||||
รหัสโทรศัพท์ | +381 | ||||||||||||||
โดเมนบนสุด | .yu | ||||||||||||||
| |||||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ![]() ![]() ![]() | ||||||||||||||
|
เซอร์เบียและมอนเตเนโกรมีความร่วมมือกันเฉพาะบางด้านในการเมือง (เช่น ผ่านสหพันธ์การป้องกันประเทศ) ทั้ง 2 รัฐมีนโยบายเศรษฐกิจและหน่วยเงินของตนเอง และประเทศไม่มีเมืองหลวงรวมอีกต่อไป โดยที่แบ่งแยกสถาบันที่ใช้ร่วมกันระหว่างเมืองเบลเกรดในเซอร์เบียและเมืองพอดกอรีตซาในมอนเตเนโกร ทั้งสองรัฐแยกออกจากกันหลังจากมอนเตเนโกรจัดให้มีการลงประชามติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 และประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน ทำให้เกิดประเทศใหม่คือประเทศมอนเตเนโกร ส่วนประเทศเซอร์เบียก็กลายเป็นผู้สืบสิทธิ์ต่าง ๆ ของประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร
ภูมิศาสตร์แก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประวัติศาสตร์แก้ไข
ศตวรรษที่ 19แก้ไข
- ก่อนปี ค.ศ. 1903 - ชนชาติต่าง ๆ ที่จะรวมเป็นยูโกสลาเวียได้มีการรวมตัวเป็นอาณาจักรปกครองตนเองโดยมีเชื้อชาติต่าง ๆ ดังนี้
- สโลวีเนีย - ชาวสโลวีนตั้งถิ่นฐานเมื่อศตวรรษที่ 6 และได้ยึดถือศาสนาคริสต์ในช่วงศตวรรษที่ 8 โดยพยายามที่จะกำหนดและป้องกันวัฒนธรรมของตนเอง 100 ปีต่อมา ชาวสโลวีนตกอยู่ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรแฟรงกิสเยอรมันและชาวเยอรมันก็ได้เดินทางมาตั้งรกรากร่วมกับชาวสโลวีน และต่อมาเจ้าแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์กก็เข้ายึดสโลวีเนีย
- โครเอเชีย - ชาวโครแอตแห่งโครเอเชียและสโลวีเนียปกครองตนเองระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฮังการีและออสเตรีย ชาวโครแอตแห่งดัลเมเชียอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิไบแซนไทน์ จักรวรรดิฮังการี สาธารณรัฐเวนิส จักรวรรดิฝรั่งเศส และจักรวรรดิออสเตรีย ตามลำดับ
- เซอร์เบีย - อาณาจักรเซอร์เบียมีความรุ่งเรืองเกือบเที่ยบเท่ากับจักรวรรดิไบแซนไทน์ระยะหนึ่งในยุคกลาง แต่ก็ตกไปอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมานกว่า 500 ปี ก่อนที่จะได้รับเอกราชในศตวรรษที่ 19
- มอนเตเนโกร - ชาวมอนเตเนโกรอยู่ภายใต้การปกครองของนักบวชเป็นศตวรรษ ๆ และปกป้องประเทศภูเขาของตนให้ปราศจากผู้รุกรานได้อย่างดี
- บอสเนีย - บอสเนียเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลามภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน และได้ถูกจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีกลืนกินในช่วงต่อมา
- มาซิโดเนีย - ชาวมาซิโดเนียประกอบด้วยชนกลุ่มน้อยจากหลายเผ่าพันธุ์ อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน
- ค.ศ. 1903 - เกิดจลาจลในที่ต่าง ๆ ในช่วงที่จักรวรรดิออตโตมันและจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอ่อนแอลงประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดได้แก่สโลวีเนีย โดยมีการปลงชีวิตเจ้าผู้ครองประเทศจากราชสกุลหนึ่งโดยอีกราชสกุลหนึ่ง และอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงการปกครองไปในราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งแก้ไข
- ธันวาคม ค.ศ. 1918 - ฝ่ายทหารเซอร์เบียจัดประชุมกับชาวเซิร์บและโครแอตที่กรุงเบลเกรด และก่อตั้งราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโดยมีสมเด็จพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 เป็นกษัตริย์องค์แรกของยูโกสลาเวีย
- ค.ศ. 1929 ถึง ค.ศ. 1941 - ราชอาณาจักรยูโกสลาเวียปกครองด้วยอำนาจเผด็จการโดยพระมหากษัตริย์ (Authoritarian kingdom)
- ค.ศ. 1931 - สมเด็จพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ยุติการปกครองประเทศแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเริ่มการปกครองแบบรัฐธรรมนูญที่มีระบอบประชาธิปไตยแบบจำกัด และวิกฤติเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อยูโกสลาเวีย
- ตุลาคม ค.ศ. 1934 - สมเด็จพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ถูกปลงพระชนม์โดยชาวบัลแกเรียที่เมืองมาร์เซย์ ฝรั่งเศส เจ้าชายปาฟเลแต่งตั้งคณะสำเร็จราชการแทนมกุฎราชกุมารปีเตอร์
- 26 สิงหาคม ค.ศ. 1939 - คณะผู้สำเร็จราชการฯ ลงนามในความตกลงให้โครเอเชียมีสิทธิปกครองตนเอง โดยยูโกสลาเวียยังคงดูแลด้านการทหาร การต่างประเทศ การค้า และการคมนาคมให้กับโครเอเซีย
สงครามโลกครั้งที่สองแก้ไข
- 27 มีนาคม ค.ศ. 1941 - ฝ่ายทหารโค่นล้มคณะผู้สำเร็จราชการฯ และสถาปนาให้มกุฎราชกุมารปีเตอร์เป็นกษัตริย์ (ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุ 16 พรรษา)
- 6 เมษายน ค.ศ. 1941 - กองทัพอากาศนาซี (The Luftwaffe) ทิ้งระเบิดที่กรุงเบลเกรด และ เข้าควบคุมกองทัพ สมเด็จพระเจ้าปีเตอร์ที่ 2 แห่งยูโกสลาเวีย พร้อมด้วยรัฐบาลลี้ภัยออกนอกประเทศ
สงครามเย็นแก้ไข
- ค.ศ. 1944 - ฝ่ายคอมมิวนิสต์ยึดยูโกสลาเวีย นำโดยจอมพลยอซีป บรอซ หรือตีโต
- 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1945 ล้มล้างราชาธิปไตยและเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาชนยูโกสลาเวีย
- ค.ศ. 1963 - เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย
- 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1974 - ยูโกสลาเวียออกพระราชบัญญัติระบุให้จอมพลตีโตเป็นประธานาธิบดีตลอดกาลแห่งยูโกสลาเวีย
- 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1980 - จอมพลตีโตถึงแก่อสัญกรรม ความแตกแยกระหว่างรัฐต่างๆ ที่ประกอบเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวียเริ่มปรากฏ
- 9 ธันวาคม ค.ศ. 1989 - สโลโบดัน มิโลเชวิช ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
การล่มสลายของยูโกสลาเวียแก้ไข
- 6 เมษายน ค.ศ. 1991 - เกิดสงครามระหว่างรัฐบาลบอสเนียกับชาวพื้นเมืองเชื้อสายเซิร์บเนื่องจากพยายามแยกตัวเป็นอิสระ
- 25 มิถุนายน ค.ศ. 1991 - โครเอเชียและสโลวีเนียประกาศแยกตัว
- 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 นายมิโลเชวิชได้ร่วมกับประธานาธิบดีโครเอเชียและบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ลงนามในข้อตกลงสันติภาพ ภายหลังจากการโจมตีทางอากาศของนาโต
- 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1997 - นายมิโลเชวิชลงจากตำแหน่งประธานาธิบดี
- 24 กันยายน ค.ศ. 1998 - นาโตยื่นคำขาดให้นายมิโลเชวิชยุติการสู้รบกับชาวคอซอวอเชื้อสายแอลเบเนีย มิเช่นนั้นจะถูกโจมตีทางอากาศ
- 6 ตุลาคม ค.ศ. 2000 - นายมิโลเชวิชพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อนายวอยีสลาฟ คอชตูนีตซา
- 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 - เปลี่ยนชื่อประเทศจากสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียเป็นเซอร์เบียและมอนเตเนโกร
- 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 - ประชาชนมอนเตเนโกรได้ลงประชามติให้มอนเตเนโกรเป็นอิสระจากเซอร์เบีย
- 5 มิถุนายน ค.ศ. 2006 - เซอร์เบียได้ประกาศการแยกตัวอย่างเป็นทางการระหว่างเซอร์เบียและมอนเตเนโกร โดยเซอร์เบียจะเป็นผู้สืบสิทธิ์ของยูโกสลาเวีย
วิกฤตการณ์ยูโกสลาเวียแก้ไข
ความแตกแยกของยูโกสลาเวียในปัจจุบันมีที่มาเป็นปัจจัยพื้นฐานหลายประการ ที่สำคัญประการหนึ่งคือปัจจัยทางประวัติศาสตร์ ซึ่งสั่งสมมานานกว่าพันปีจากการที่สาธารณรัฐต่าง ๆ ซึ่งมาร่วมกันเป็นสหพันธ์ฯ มีเชื้อชาติ ศาสนา ความเป็นมาทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แตกต่างกัน ความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติจึงเป็นปัญหาที่คุกรุ่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างชาวโครแอต ชาวเซิร์บ และชาวมุสลิม ในอดีตสโลวีเนียและโครเอเชียเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันและจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี แห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก (Hapsburg Empire) มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ จึงมีความเกี่ยวพันทางสังคม วัฒนธรรม ภาษา ศาสนา และจิตใจกับยุโรปตะวันตก ในขณะที่รัฐทั้งหลายทางตอนใต้ คือ เซอร์เบีย มอนเตเนโกร บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และมาซิโดเนีย เคยอยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine) และจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman) มานับพันปี จึงได้รับการหล่อหลอมวัฒนธรรมแบบบอลข่าน คือ แบบมุสลิมหรือคริสเตียนตะวันออก (Orthodox) ถึงแม้ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงด้วยการล่มสลายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และมีการก่อตั้ง "ราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีน" (Kingdom of Serbs, Croates and Slovenes) เป็นประเทศเอกราช โดยมีกษัตริย์ปกครอง แต่เสถียรภาพทางการเมืองภายในยังคงคลอนแคลน เพราะรัฐต่าง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างด้านเชื้อชาติและศาสนา ยังคงมีความขัดแย้งกันลึก ๆ ในปี 1929 กษัตริย์อาเลกซานดาร์ได้ทรงเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย" (Kingdom of Yugoslavia) และปกครองประเทศด้วยนโยบายเด็ดขาดโดยความร่วมมือของทหารตลอดมา จนได้รับขนานนามว่าเป็น “Royal Dictatorship” เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดลง ประธานาธิบดียอซีป ตีโต สามารถยึดเหนี่ยวรัฐต่าง ๆ ของยูโกสลาเวียให้รวมกันอยู่ต่อไป ทั้งนี้ โดยใช้นโยบายอันเด็ดขาดกอปรกับอัจฉริยภาพของประธานาธิบดีตีโตเอง จนกระทั่งเมื่อประธานาธิบดีตีโตถึงแก่กรรมเมื่อปี 1980 ความแตกแยกระหว่างรัฐทั้งหลายที่ประกอบขึ้นเป็นสหพันธรัฐยูโกสลาเวียก็เริ่มปรากฏขึ้น และเมื่อนายสโลโบดัน มิโลเชวิช ผู้นำเชื้อสายเซิร์บ ซึ่งมีแนวคิดชาตินิยม ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 1989 ความขัดแย้งภายในจึงได้ทวีความรุนแรงจนเกิดวิกฤตการณ์ยูโกสลาเวียเดิมประกอบด้วย 6 สาธารณรัฐ กล่าวคือ สาธารณรัฐสโลวีเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และมาซิโดเนีย รวมทั้งจังหวัดปกครองตนเองคอซอวอและวอยวอดีนา ซึ่งเป็นมณฑลปกครองตนเอง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1991 สาธารณรัฐสโลวีเนียและโครเอเชียได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราช ไม่อยู่ภายใต้การปกครองของยูโกสลาเวียอีกต่อไป ภายหลังจากการออกเสียงประชามติทั่วประเทศในสาธารณรัฐทั้งสอง การประกาศเป็นเอกราชดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการณ์ยูโกสลาเวีย ซึ่งได้ขยายตัวเป็นสงครามกลางเมืองในเวลาต่อมา เมื่อสาธารณรัฐมาซิโดเนียและบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ได้ประกาศยกตัวออกเป็นรัฐเอกราชเช่นเดียวกัน เมื่อเดือนกันยายนและตุลาคม 1991 ตามลำดับ
สถานการณ์ในคอซอวอแก้ไข
คอซอวอเป็นจังหวัดปกครองตนเองแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของสาธารณรัฐเซอร์เบีย ประกอบด้วยชาวแอลเบเนียร้อยละ 90 จากประชากรจำนวน 2 ล้านคน ในปี 1998 เคยเกิดการสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังชาวคอซอวอเชื้อสายแอลเบเนียกับกองทัพของเซอร์เบียเมื่อเซอร์เบียประกาศยกเลิกสถานะการปกครองตนเองของคอซอวอ การสู้รบขยายตัวไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวแอลเบเนียอย่างโหดเหี้ยม ส่งผลให้เกิดผู้ลี้ภัยชาวแอลเบเนียในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก
การสู้รบดังกล่าว ยุติลงเมื่อ NATO ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับเซอร์เบีย ในปี 1999 ซึ่งต่อมา NATO ได้ส่งกองกำลังคอซอวอ (Kosovo Force, KFOR) เข้าไปปฏิบัติการรักษาสันติภาพในคอซอวอ และสหประชาชาติได้จัดตั้งองค์กรบริหารชั่วคราวขึ้นในคอซอวอ (UNMIK) อย่างไรก็ดี กล่าวได้ว่า สถานการณ์ในคอซอวอหลังปี 1999 ยังไม่สงบนัก เนื่องจากมีการปะทะกันระหว่างชาวคอซอวอเชื้อสายแอลเบเนียกับเชื้อสายเซิร์บอยู่เป็นประจำ ก่อให้เกิดความตึงเครียดเป็นระยะ ๆ
การเจรจาระหว่างชาวคอซอวอเชื้อสายแอลเบเนียกับเชื้อสายเซิร์บแก้ไข
เมื่อวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2006 ได้มีการเจรจาแบบเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างฝ่ายเซิร์บกับฝ่ายแอลเบเนียในคอซอวอที่กรุงเวียนนา เพื่อกำหนดสถานะในอนาคตของคอซอวอ โดยเป็นการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับกลางของทั้งสองฝ่าย และมีเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นผู้ประสานการเจรจา โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2006 ได้มีการเจรจาระดับสูงระหว่างประธานาธิบดีเซอร์เบียและนายกรัฐมนตรีคอซอวอขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1999 แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องสถานะทางการเมืองที่ถาวรของคอซอวอ ฝ่ายเซิร์บยืนกรานให้คอซอวอเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย โดยยินยอมให้อิสระในระดับหนึ่ง ขณะที่ฝ่ายแอลเบเนียต้องการอิสรภาพ สำหรับการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่ครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อวันที่ 7-8 สิงหาคม ที่ผ่านมายังไม่สามารถหาข้อยุติได้ โดยฝ่ายเซิร์บได้คว่ำบาตรการเจรจาในหัวข้อที่เกี่ยวกับอนาคตของคอซอวอ
การล่มสลายของสหภาพรัฐแก้ไข
มอนเตเนโกรลงประชามติแยกตัวออกจากประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกรเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2006 มอนเตเนโกรได้จัดการลงประชามติเพื่อแยกตัวออกจากประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร โดยมีผู้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้รัฐมอนเตเนโกรแยกตัวออกจากประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร ร้อยละ 55.4 ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำ (ร้อยละ 55) ที่สหภาพยุโรปกำหนดที่จะให้การรับรอง โดยมีจำนวนผู้ที่มาใช้สิทธิมากถึง ร้อยละ 86.3 จากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนทั้งหมด 485,000 คน ซึ่งผลการลงประชามติในครั้งนี้ จะทำให้มอนเตเนโกรกลายเป็นประเทศเกิดใหม่ล่าสุดของโลก และมีแนวโน้มที่มอนเตเนโกรจะได้รับโอกาสในการพัฒนาประเทศและเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม เซอร์เบียจะเป็นรัฐสืบสิทธิเพียงผู้เดียว สำหรับมอนเตเนโกรนั้น เมื่อแยกตัวออกมาเป็นประเทศเอกราชจะต้องขอรับการรับรองจากนานาประเทศ และสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ อีกครั้งหนึ่ง
การเมืองการปกครองแก้ไข
บริหารแก้ไข
ประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกรปกครองแบบสาธารณรัฐ โดยประธานาธิบดีเป็นประมุขมาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้รับเลือกตั้งจากสภาสำหรับจังหวัดปกครองตนเองคอซอวออยู่ภายใต้การบริหารของสหประชาชาติ
นิติบัญญัติแก้ไข
ตุลาการแก้ไข
การแบ่งเขตการปกครองแก้ไข
ประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกรประกอบด้วย 2 สาธารณรัฐ (republics) คือ
- สาธารณรัฐเซอร์เบีย (เมืองหลวง-เบลเกรด)
- สาธารณรัฐมอนเตเนโกร (เมืองหลวง-พอดกอรีตซา)
ภายในสาธารณรัฐเซอร์เบียมี 2 มณฑลปกครองตนเอง (autonomous provinces) คือ
- จังหวัดปกครองตนเองวอยวอดีนา (เมืองหลวง-นอวีซาด)
- จังหวัดปกครองตนเองคอซอวอและเมโตฮียา (เมืองหลวง-พรีชตีนา)
- ส่วนของเซอร์เบียที่ไม่ได้อยู่ในเขตของ 2 มณฑลดังกล่าว (มักเรียกว่า เซนทรัลเซอร์เบีย) ไม่ได้เป็นจังหวัดและไม่มีสถานะพิเศษ รวมทั้งไม่มีเมืองหลวงและรัฐบาล
ในพื้นที่ดินแดนทั้ง 3 แห่งข้างต้น จะแบ่งออกเป็น เขต (districts) รวม 29 เขต และแต่ละเขตแบ่งย่อยลงไปอีกเป็น เทศบาล (municipalities)
ส่วนในสาธารณรัฐมอนเตเนโกรนั้นจะแบ่งออกเป็น 21 เทศบาล
กองทัพแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กำลังกึ่งทหารแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เศรษฐกิจแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กีฬาแก้ไข
ฟุตบอลแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บาสเก็ตบอลแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วอลเลย์บอลแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วัฒนธรรมแก้ไข
วันหยุดแก้ไข
วัน | ชื่อ | หมายเหตุ |
---|---|---|
1 มกราคม | วันปีใหม่ | (วันหยุดราชการ) |
7 มกราคม | วันคริสต์มาส | ตามนิกายออร์ทอดอกซ์ (วันหยุด) |
27 มกราคม | Saint Sava's feast Day — Day of Spirituality | |
27 เมษายน | วันรัฐธรรมนูญ | |
29 เมษายน | วันศุกร์ประเสริฐ (ตามนิกายออร์ทอดอกซ์) | จนถึง ค.ศ. 2005 |
1 พฤษภาคม | วันอีสเตอร์ | ค.ศ. 2005 |
วันแรงงานสากล | (วันหยุด) | |
2 พฤษภาคม | Easter Monday (ตามนิกายออร์ทอดอกซ์) | ค.ศ. 2005 |
9 พฤษภาคม | วันแห่งชัยชนะ | |
28 มิถุนายน | Vidovdan (Martyr's Day) | วันรำลึกผู้เสียชีวิตจาก สงครามคอซอวอ |
- วันหยุดที่มีการเฉลิมฉลองในเซอร์เบีย
- 15 กุมภาพันธ์ – Sretenje (วันชาติ, วันหยุด)
- วันหยุดที่มีการเฉลิมฉลองในมอนเตเนโกร
- 13 กรกฎาคม – Statehood Day (วันหยุด)
ดูเพิ่มแก้ไข
บันทึกแก้ไข
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 "Human Development Report Yugoslavia 1996" (PDF). undp.org. สืบค้นเมื่อ 22 June 2021.
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร |
- Country Profile: Serbia and Montenegro, BBC
- Audio clips: Traditional music of Serbia and Montenegro. Musée d'Ethnographie de Genève. Retrieved 25 November 2010. (ฝรั่งเศส)