สมเด็จพระราชินีนาถคริสตีนาแห่งสวีเดน
สมเด็จพระราชินีนาถคริสติน่าแห่งสวีเดน เป็นพระราชธิดาใน สมเด็จพระราชาธิบดีกุสตาฟ อดอล์ฟที่ 2 แห่งสวีเดน ประสูติในปี ค.ศ. 1626 ในพระราชวังสตอกโฮลม์ ประเทศสวีเดน พระนางมีบุคลิกลักษณะเหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โปรดการทรงม้า การลุกนั่งแบบผู้ชายและฉลองพระองค์สั้นผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทเรียกพระนางว่า เจ้าชายคริสติน่า
สมเด็จพระราชินีนาถคริสตีนาแห่งสวีเดน | |
---|---|
![]() | |
พระบรมนามาภิไธย | คริสติน่า อเล็กซานดรา วาซา |
พระปรมาภิไธย | สมเด็จพระราชินีนาถคริสติน่าแห่งสวีเดน |
พระอิสริยยศ | สมเด็จพระราชินีนาถแห่งสวีเดน |
ราชวงศ์ | วาซา |
บรมราชาภิเษก | 20 ตุลาคม ค.ศ.1650 |
รัชกาล | 22 ปี |
รัชกาลก่อน | พระเจ้ากุสตาฟ อดอลฟ์ที่ 2 |
รัชกาลถัดไป | พระเจ้าชาล์ลส์ที่ 9 กุสตาฟ |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
พระราชสมภพ | 18 ธันวาคม ค.ศ.1626 สต็อกโฮล์ม สวีเดน |
สวรรคต | 19 เมษายน ค.ศ.1689 (62 พรรษา) โรม อิตาลี |
พระราชบิดา | พระเจ้ากุสตาฟ อดอลฟ์ที่ 2 แห่งสวีเดน |
พระราชมารดา | มาเรีย เอเลโอโนวาแห่งบรานเดนเบิร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน |
ครองราชย์แก้ไข
พระนางขึ้นครองราชย์ตอนพระชันษาครบ 6 ปี การศึกษาของพระองค์เท่ากับรัชทายาททั้งหลาย และการศึกษาอย่างมหาศาลทำให้พระนางเบื่อกับการเป็นกษัตริย์ จึงทำให้พระเจ้าชาลส์ที่ 10 กุสตาฟผู้เป็นญาติของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน เป็นเวลา 22 ปีที่น่าเบื่อของพระนาง พระนางทรงลงพระนามในสนธิสัญญาสงบศึกกับเยอรมันเป็นอย่างแรกสุด
การสละราชบัลลังก์แก้ไข
หลังพระนางสละราชบัลลังก์ พระนางพร้อมด้วยบริวารใกล้ชิดเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสันตปาปาและก็เปลี่ยนมานับถือโรมันคาทอลิกพระนางชอบทำตัวให้เป็นที่สนใจเมื่ออยู่ในโรม ชวนคนใหญ่คนโตในโรมทะเลาะ พระสันตปาปาทรงอยากให้พระนางออกไปจากโรมเสียที พระสันตปาปาจึงพระราชทานเงิน 10,000 เหรียญให้พระนางกลับสวีเดนเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1656 และเสด็จแวะไปหา พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระเจ้าหลุยส์ทรงต้อนรับอย่างสมพระเกียรติที่พระราชวังฟองแตนโบล พระนางสั่งสังหาร เคานต์ เมนาล เดซิ ที่มีตำแหน่งเจ้ากรมอัศวราชโดยเพราะท่านเคานต์เขียนจดหมายตำหนิพระนาง พระนางยังพยายามเป็นกษัตริย์เนเปิลส์ และโปแลนด์แต่ไม่สำเร็จ
การกลับสู่โรมและการเสด็จสวรรคตแก้ไข
พระนางไม่สามารถกลับสวีเดนได้แล้ว พระนางจึงกลับสู่โรมพระนางอดทำตัวเป็นที่สนใจไม่ได้แต่ไม่มีใครสนเลย พระนางเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1689 พระศพถูกเก็บไว้ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์