ศาสนาในประเทศญี่ปุ่น
ศาสนาในประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่นับถือลัทธิชินโตกับศาสนาพุทธ ประมาณ 80% ทำพิธีชินโต สักการะบรรพบุรุษและคามิที่แท่นบูชาประจำบ้านกับศาลเจ้าชินโต ซึ่งมีจำนวนมากพอ ๆ กับศาสนาพุทธ การผสานระหว่างทั้งสอง เรียกโดยทั่วไปว่า ชินบุตสึ-ชูโง ก่อนที่จะมีรัฐชินโตในศตวรรษที่ 19[5] ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือชินโต มีแค่ 3% ที่ตอบในใบสอบถาม เพราะเข้าใจว่าบ่งบอกถึงลัทธิชินโต[6][7] ประมาณสองในสามระบุเป็น "ไม่มีศาสนา" (無宗教, มูชูเกียว) และไม่ถือเป็นไม่มีศาสนา เพราะ มูชูเกียว กล่าวถึงศาสนาที่ดูปกติ "ธรรมดา" ในขณะที่ปฏิเสธการเข้าร่วมกับขบวนการที่ถูกกล่าวเป็นพวกต่างชาติหรือหัวรุนแรง[8].
ศาสนาหลัก
แก้ลัทธิชินโต
แก้ชินโต หรือ คามิโนะมิจิ คือศาสนาพื้นเมืองดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่ประชาชนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นับถือ[9] จอร์จ วิลเลียม ระบุว่าชินโตเป็นศาสนาที่เน้นการกระทำ[10] โดยเฉพาะการปฏิบัติพิธีกรรมอย่างเคร่งครัดเพื่อเชื่อมโยงรากเหง้าของญี่ปุ่นโบราณ[11] มีเอกสารทางศาสนา คือ โคจิกิ และ นิฮงโชกิ บันทึกและประมวลแนวทางการปฏิบัติตามธรรมเนียมชินโตเป็นครั้งแรกเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 8 ซึ่งเป็นการรวบรวมความเชื่อพื้นเมืองและเทวตำนานต่าง ๆ เอาไว้ หาใช่ลัทธิชินโตที่เป็นเอกภาพ[12] กระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 21 ลัทธิชินโตมีศาลเจ้าเป็นของตนเอง ภายในประดิษฐานเทพเจ้าหลายพระองค์ เรียกว่า คามิ[13] ซึ่งศาลเหล่านี้สร้างด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น เป็นอนุสาวรีย์จากสงคราม การเกษตรกรรม และใช้เพื่อองค์กรศาสนาด้านอื่น ๆ ด้วย ศาสนิกชนมีความเชื่อที่หลากหลาย และมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น มีการใช้เครื่องแต่งกายและพิธีกรรมทางศาสนาที่ตกทอดมาแต่ยุคนาระ (ค.ศ. 710–794) และยุคเฮอัง (ค.ศ. 794–1185)[12]
คำว่า "ชินโต" เดิมออกเสียงว่า ชินโด[14] เป็นคำจากภาษาจีนว่า เฉินต่าว (จีน: 神道; พินอิน: shén dào)[15] ประกอบด้วยคันจิสองตัวคือคำว่า ชิน (神) แปลว่า วิญญาณ หรือคามิ กับคำว่า โต (道) แปลว่า เส้นทางแห่งปรัชญาหรือการศึกษา[12][15] ปรากฏชื่อ "ชินโด" ครั้งแรกในเอกสารยุคหลังคริสต์ศตวรรษที่ 6[14] ส่วน คามิ มีความหมายว่า "วิญญาณ" "แก่นแท้" หรืออาจแปลว่า "เทพเจ้า" อันหมายถึงพลังงานที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ[16] คามิปรากฏอยู่หลายรูปแบบ ตั้งแต่ หิน ต้นไม้ แม่น้ำ สัตว์ สถานที่ หรือแม้แต่มนุษย์[16] คามิกับมนุษย์ไม่อาจแยกออกจากกัน เพราะอาศัยอยู่บนโลกเดียวกัน และต่างมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนต่อกัน[12]
ลัทธิชินโตถือเป็นศาสนาที่มีประชากรนับถือมากที่สุดในประเทศ มีประชากรราวร้อยละ 80 ปฏิบัติตนตามธรรมเนียมชินโต แต่มีประชากรน้อยมากที่ระบุตนเองว่าเป็นศาสนิกชนของชินโตในการสำรวจ เพราะชาวญี่ปุ่นเข้าศาลเจ้าชินโต และขอพรจากเทพเจ้าได้ โดยไม่ต้องเข้าร่วมองค์กรทางศาสนาใด ๆ[6] ทั้งยังไม่มีพิธีกรรมเพื่อเข้าเป็นศาสนิกชนชินโตอย่างเป็นทางการ หากจะมีการนับก็จะประมาณการจากจำนวนผู้เข้าร่วมนิกายย่อยของลัทธิชินโตที่จัดตั้งใหม่แทน[7] มีศาลเจ้าชินโต 100,000 แห่ง[13] และมีนักบวชจำนวน 78,890 คน ทั่วประเทศญี่ปุ่น[17]
ศาสนาพุทธ
แก้ศาสนาพุทธเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อ ค.ศ. 538 หรือ 552[18] โดยแพร่หลายมาจากอาณาจักรแพ็กเจ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศเกาหลีใต้)[18] กษัตริย์แพ็กเจส่งม้วนภาพพระพุทธเจ้าและพระสูตรบางส่วนให้แก่จักรพรรดิญี่ปุ่น จากนั้นศาสนาพุทธก็เผชิญการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในช่วงระยะสั้น ๆ ราชสำนักญี่ปุ่นจึงให้การยอมรับศาสนาพุทธใน ค.ศ. 587[18] ในช่วงเวลานั้นรัฐยามาโตะมีอำนาจเหนือชนเผ่าต่าง ๆ มีความเชื่อเรื่องเทพบรรพชนและเทพจากธรรมชาติ[19] ในช่วงเวลานั้นก็เริ่มมีชนกลุ่มอื่นอพยพเข้ามาบนหมู่เกาะญี่ปุ่น ได้แก่ คลื่นผู้อพยพจากคาบสมุทรเกาหลี[20] ชนบนหลังม้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ[18] และการรับวัฒนธรรมจีนแผ่นดินใหญ่ยุคราชวงศ์สุย[21][20] ศาสนาพุทธให้การสนับสนุนอำนาจรัฐ และหล่อหลอมตนเองเข้ากับวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก[19] คณะขุนนางญี่ปุ่นเริ่มสร้างวัดพุทธที่เมืองนาระ และเมืองเฮอัง (ปัจจุบันคือเกียวโต)[19]
เมื่อรัฐบาลโชกุนมีอำนาจในคริสต์ศตวรรษที่ 12 มีการย้ายเมืองหลวงฝ่ายบริหารไปที่เมืองคามากูระ ศาสนาพุทธรูปแบบอื่น ๆ ก็เข้ามาเผยแผ่มากขึ้น โดยเฉพาะนิกายเซน ซึ่งเป็นนิกายที่ได้รับความนิยมมาก และในยุคฟื้นฟูเมจิเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีนโยบายยกลัทธิชินโตเป็นศาสนาประจำชาติ มีการแยกศาสนสถานของชินโตกับพุทธออกจากกัน ตามมาด้วยนโยบายกำจัดศาสนาพุทธอย่างเป็นระบบ หวังให้หมดไปจากแผ่นดินญี่ปุ่น เรียกว่า ไฮบุตสึคิชากุ
ค.ศ. 2018 มีพระภิกษุ นักพรต และผู้นำของศาสนาพุทธมากกว่า 355,000 รูป[22] ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมคือจำนวน 40,000 รูป เมื่อ ค.ศ. 2000[23]
การจำแนกประชากร
แก้รายงานจากงานวิจัยรวบรวมสถิติศาสนารายปีใน ค.ศ. 2015 โดยทบวงวัฒนธรรม, รัฐบาลญี่ปุ่น: มีกลุ่มผู้นับถือศาสนา 181,000 กลุ่มในประเทศญี่ปุ่น[24]
รายงานจากงานวิจัยใน ค.ศ. 2006[25] และ 2008[26] ชาวญี่ปุ่นที่ระบุตัวตนเป็นศาสนาองค์กรมีน้อยกว่า 40% ของประชากร ประมาณ 35% นับถือศาสนาพุทธ, 3 ถึง 4% เป็นสมาชิกของลัทธิชินโต และน้อยกว่า 1%[27][28][29] ถึง 2.3% นับถือศาสนาคริสต์[note 1]
ศาสนา | 1984[30] | 1996[31] | 2008[26] |
---|---|---|---|
พุทธ | 27% | 29.5% | 34% |
ชินโต | 3% | 1% | 3% |
คริสต์ | 2% | 2% | 1% |
จังหวัด | พุทธ เท็นได หรือ ชิงงง |
พุทธ นิกาย สุขาวดี |
พุทธ นิกาย เซน |
พุทธ นิชิเร็น |
สมาคม สร้างคุณค่า |
สำนักพุทธอื่นๆ | พุทธองค์รวม | สำนักหรือ องค์กรชินโต |
คริสต์ | ชินโตพื้นบ้าน หรือไม่นับถือ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฮกไกโด | ~3% | 13.3% | 8.2% | 3.2% | ~2% | ~2% | ~31.7% | ~2% | ~1% | ~65.3% |
อาโอโมริ | ~1% | 10.3% | 5.6% | 3.4% | ~2% | ~3% | ~25.3% | ~2% | ~1% | ~71.7% |
อิวะเตะ | ~2% | 6.1% | 12.8% | ~0 | ~2% | ~3% | ~25.9% | ~0 | ~1% | ~73.1% |
มิยางิ | ~3% | 4.8% | 9.5% | ~2% | ~2% | ~2% | ~23.3% | ~0 | ~1% | ~75.7% |
อากิตะ | ~0 | 6.9% | 9.5% | ~3% | ~2% | ~2% | ~21.4% | ~3% | ~0 | ~75.6% |
ยามางาตะ | ~4% | 5.6% | 8.5% | ~3% | ~3% | 3.4% | ~27.5% | ~2% | ~1% | ~69.5% |
ฟูกูชิมะ | 5.2% | 4.8% | 5.2% | ~0 | ~3% | ~3% | ~21.2% | ~0 | ~0 | ~78.8% |
อิบารากิ | 7.1% | 4.1% | ~2% | ~2% | ~3% | ~2% | ~20.2% | ~1% | ~1% | ~77.8% |
โทจิงิ | 6% | 3.1% | ~3% | ~3% | 3.1% | ~2% | ~20.2% | ~0 | ~1 | ~78.8% |
กุมมะ | 6.6% | 3.6% | 5.8% | ~3% | ~3% | ~2% | ~24% | ~1% | ~2% | ~73% |
ไซตามะ | 5.8% | 5.2% | ~3% | ~2% | 3.3% | ~1% | ~20.3% | ~0 | ~2% | ~77.7% |
ชิบะ | 3.8% | 4.5% | ~1% | 3.3% | ~3% | ~1% | ~16.6% | ~0 | ~1% | ~82.4% |
โตเกียว | 3.4% | 8.3% | ~2% | 3.3% | 4% | ~2% | ~23% | ~1% | 3.4% | ~72.6% |
คานางาวะ | ~3% | 5.5% | 3.7% | 3.7% | 3.5% | ~2% | ~21.4% | ~1% | ~3% | ~74.6% |
นีงาตะ | 3.2% | 10.6% | 4.9% | ~1% | ~2% | ~2% | ~23.7% | ~1% | ~1% | ~74.3% |
โทยามะ | ~2% | 41.3% | ~1% | ~2% | ~1% | ~1% | ~48.3% | ~0 | ~0 | ~51.7% |
อิชิกาวะ | ~2 | 36.2% | ~1% | ~1% | ~0 | ~3% | ~43.2% | ~1% | ~1% | ~54.8% |
ฟูกูอิ | ~2% | 41.4% | 5.5% | 3.9% | ~1% | ~3% | ~56.8% | ~1% | ~0 | ~42.2% |
ยามานาชิ | ~1% | 4.5% | 6.2% | 8.9% | ~3% | ~3% | ~26.6% | ~1% | ~1% | ~71.4% |
นางาโนะ | 3.5% | 11.8% | 7.6% | ~2% | ~3% | ~2% | ~29.9% | ~1% | ~1% | ~68.1% |
กิฟุ | ~3% | 23.2% | 6.8% | ~1% | ~3% | ~1% | ~38.1% | ~1% | ~1% | ~59.9% |
ชิซูโอกะ | ~1% | 6.2% | 9.4% | 7.3% | 3.6% | ~4% | ~31.5% | ~1% | ~1% | ~66.5% |
ไอชิ | ~3% | 16.7% | 8.5% | ~1% | ~3% | ~2% | ~34.2% | ~2% | ~2% | ~61.8% |
มิเอะ | ~3% | 22.9% | 4.2% | ~1% | ~2% | ~2% | ~35.1% | ~1% | ~1% | ~62.9% |
ชิงะ | 3% | 26.7% | 3.2% | ~2% | ~3% | ~0 | ~37.9% | ~0 | ~1% | ~61.1% |
เกียวโต | ~3% | 17.5% | 3.4% | ~2% | ~3% | ~3% | ~31.9% | ~2% | ~2% | ~66.1% |
โอซากะ | 5.9% | 15.6% | ~3% | 3% | 5.2% | ~1% | ~33.7% | ~1% | ~1% | ~64.3% |
เฮียวโงะ | 8.6% | 12.2% | 3.1% | ~3% | 3.1% | ~3% | ~33% | ~2% | ~2% | ~63% |
นาระ | 4.2% | 17.3% | ~1% | ~3% | ~3% | ~2% | ~30.5% | ~0 | ~1% | ~68.5% |
วากายามะ | 9.6% | 13.5% | ~3% | ~1% | 3.5% | ~2% | ~32.6% | ~0 | ~0 | ~67.4% |
ทตโตะริ | ~3% | 10.4% | 8.8% | 4% | ~2% | ~3% | ~31.2% | ~3% | ~1% | ~64.8% |
ชิมาเนะ | ~4% | 18.4% | 6.5% | ~2% | ~1% | ~3% | ~30.9% | ~2% | ~1% | ~66.1% |
โอกายามะ | 16.6% | 5.1% | 3% | 5.9% | ~3% | 0 | ~33.6% | ~2% | ~1% | ~63.4% |
ฮิโรชิมะ | 4.4% | 35.3% | 3.6% | ~2% | 4.9% | ~1% | ~51.2% | ~2% | ~2% | ~44.8% |
ยามางูจิ | ~3% | 21.9% | 3.8% | ~2% | 3.8% | ~1% | ~35.5% | ~1% | ~1% | ~62.5% |
โทกูชิมะ | 19.8% | 6.7% | ~0 | ~1% | 3% | ~1% | ~31.5% | ~1% | ~1% | ~66.5% |
คางาวะ | 14% | 18% | ~1% | ~2% | ~3% | ~1% | ~39% | ~0 | ~1% | ~60% |
เอฮิเมะ | 9.3% | 6.7% | 5.3% | ~2% | ~3% | ~1% | ~27.3% | ~1% | ~2% | ~69.7% |
โคจิ | 6.3% | 6.3% | ~0 | ~1% | ~3% | ~1% | ~17.6% | 5.5% | ~0 | ~76.9% |
ฟูกูโอกะ | ~2% | 24.1% | 3.3% | 3% | 3.3% | ~2% | ~37.7% | ~1% | ~2% | ~59.3% |
ซางะ | ~4% | 21.9% | 6.1% | ~3% | ~2% | ~3% | ~40% | ~0 | ~0 | ~60% |
นางาซากิ | 4.9% | 19.5% | 3.6% | 5.1% | ~3% | ~3% | ~39.1% | ~2% | 5.1% | ~53.8% |
คูมาโมโตะ | ~2% | 28.4% | ~3% | ~2% | ~2% | ~1% | ~38.4% | ~0 | ~1% | ~61.6% |
โออิตะ | ~3% | 20.7% | 4.7% | ~3% | ~3% | ~1% | ~35.4% | ~2% | ~1% | ~61.6% |
มิยาซากิ | ~3% | 18.2% | ~3% | ~3% | ~3% | 3.3% | ~33.5% | 3.8% | ~1% | ~61.7% |
คาโงชิมะ | ~2% | 29.8% | ~1% | ~2% | ~3% | 6% | ~43.8% | ~3% | ~0 | ~53.2% |
โอกินาวะ | ~0 | ~0 | ~0 | ~0 | 3.6% | ~0 | ~3,6% | ~0 | ~3 | ~93.4% |
ญี่ปุ่น | 4% | 12.9% | 4.1% | ~3% | 3% | ~2.5% | ~29.5% | ~1% | ~2% | ~67.5% |
หมายเหตุ
แก้- ↑ รายงานจาก the Dentsu survey ประจำปี 2006: 1% นับถือโปรเตสแตนต์, 0.8% นับถือโรมันคาทอลิก และ 0.5% นับถืออีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์[25]
อ้างอิง
แก้- ↑ Japan - Country. CIA, Government of the United States.
- ↑ "Population Estimates Monthly Report - December 1, 2020 (Final estimates)".
- ↑ CIA World Factbook:[1]
- ชินโต: 70.5%
- พุทธ: 67.2%
- คริสต์: 1.5%
- อื่น ๆ: 5.9%
Percentages calculated using the official total population figure of 126,088,000 as of the end of 2020.[2]
- ↑ "ISSP" (PDF). NHK. 2018.
- ↑ Reischauer, Edwin O.; Jansen, Marius B. (1988). The Japanese today: change and continuity (2nd ed.). Belknap Press of Harvard University Press. p. 215. ISBN 978-0-674-47184-9.
- ↑ 6.0 6.1 Engler, Price. 2005. p. 95
- ↑ 7.0 7.1 Williams, 2004. pp. 4-5
- ↑ LeFebvre, J. (2015). "Christian wedding ceremonies: 'Nonreligiousness' in contemporary Japan". Japanese Journal of Religious Studies, 42(2), 185-203
- ↑ Williams, 2004. p. 4
- ↑ Williams, George (2004). Shinto. Religions of the World. Philadelphia: Infobase Publishing (ตีพิมพ์ 2009). p. 6. ISBN 9781438106465. สืบค้นเมื่อ 12 May 2019.
Shinto is an action-centered religion (one based on actions) and not a confessional religion (one that requires a set of beliefs or a profession of faith).
- ↑ John Nelson. A Year in the Life of a Shinto Shrine. 1996. pp. 7–8
- ↑ 12.0 12.1 12.2 12.3 Richard Pilgrim, Robert Ellwood (1985). Japanese Religion (1st ed.). Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall Inc. pp. 18–19. ISBN 978-0-13-509282-8.
- ↑ 13.0 13.1 Breen, Teeuwen. 2010. p. 1
- ↑ 14.0 14.1 Stuart D. B. Picken, 1994. p. xxi
- ↑ 15.0 15.1 Sokyo, Ono (1962). Shinto: The Kami Way (1st ed.). Rutland, VT: Charles E Tuttle Co. p. 2. ISBN 978-0-8048-1960-2. OCLC 40672426.
- ↑ 16.0 16.1 Stuart D. B. Picken, 1994. p. xxii
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBestor, Yamagata. 2011. p. 65
- ↑ 18.0 18.1 18.2 18.3 Brown, 1993. p. 455
- ↑ 19.0 19.1 19.2 Brown, 1993. p. 456
- ↑ 20.0 20.1 Brown, 1993. p. 454
- ↑ Brown, 1993. p. 453
- ↑ Agency for Cultural Affairs (2019). 宗教年鑑 令和元年版 [Religious Yearbook 2019] (PDF) (ภาษาญี่ปุ่น). p. 35.
- ↑ Agency for Cultural Affairs (2002). 宗教年鑑 平成13年版 [Religious Yearbook 2001] (PDF) (ภาษาญี่ปุ่น). Agency for Cultural Affairs. p. 31. ISBN 978-432406748-2.
- ↑ Iwai, Noriko (11 October 2017). Measuring religion in Japan: ISM, NHK and JGSS (PDF) (Report). JGSS Research Center.
- ↑ 25.0 25.1 Dentsu Communication Institute, Japan Research Center: Sixty Countries' Values Databook (世界60カ国価値観データブック).
- ↑ 26.0 26.1 "2008 NHK survey of religion in Japan — 宗教的なもの にひかれる日本人〜ISSP国際比較調査(宗教)から〜" (PDF). NHK Culture Research Institute.
- ↑ Mariko Kato (February 24, 2009). "Christianity's long history in the margins". The Japan Times.
The Christian community itself counts only those who have been baptized and are currently regular churchgoers — some 1 million people, or less than 1 percent of the population, according to Nobuhisa Yamakita, moderator of the United Church of Christ in Japan
- ↑ "Christians use English to reach Japanese youth". Mission Network News. 3 September 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 June 2010.
The population of Japan is less than one-percent Christian
- ↑ Heide Fehrenbach, Uta G. Poiger (2000). Transactions, transgressions, transformations: American culture in Western Europe and Japan. Berghahn Books. p. 62. ISBN 978-1-57181-108-0.
... followers of the Christian faith constitute only about a half percent of the Japanese population
- ↑ 1984 NHK survey of religion in Japan. Results recorded in: Bestor, Yamagata, 2011, p. 66
- ↑ 31.0 31.1 Religion in Japan by prefecture, 1996
สารานุกรม
แก้- LeFebvre, J. (2015). Christian Wedding Ceremonies: “Nonreligiousness” in Contemporary Japan. Japanese Journal of Religious Studies, 42(2), 185–203. http://nirc.nanzan-u.ac.jp/nfile/4454
- LeFebvre, J. (2021). The Oppressor's Dilemma: How Japanese State Policy toward Religion Paved the Way for Christian Weddings. Journal of Religion in Japan. https://brill.com/view/journals/jrj/aop/article-1163-22118349-20210001/article-1163-22118349-20210001.xml
- Earhart, H. Byron. Japanese Religion: Unity and Diversity, in The Religious Life of Man Series. Second ed. Encino, Calif.: Dickenson Publishing Co., 1974. ISBN 0-8221-0123-8
- Inoue, Nobutaka et al. Shinto, a Short History (London: Routledge Curzon, 2003) online เก็บถาวร 2020-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Matsunaga, Daigan; Matsunaga, Alicia (1996), Foundation of Japanese Buddhism, Vol. 1: The Aristocratic Age, Los Angeles; Tokyo: Buddhist Books International. ISBN 0-914910-26-4
- Matsunaga, Daigan, Matsunaga, Alicia (1996), Foundation of Japanese Buddhism, Vol. 2: The Mass Movement (Kamakura and Muromachi Periods), Los Angeles; Tokyo: Buddhist Books International. ISBN 0-914910-28-0
- Picken, Stuart D. B. (1994). Essentials of Shinto an Analytical Guide to Principal Teachings. Westport, Conn.: Greenwood Press. ISBN 9780313369797.
- Reader, Ian (1991). Religion in Contemporary Japan, Honolulu: University of Hawaii Press
- Matsunami, Kodo (2004). "A guide to Japanese Buddhism" (PDF). Tokyo: Japan Buddhist Federation. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-02. สืบค้นเมื่อ 15 May 2021.
- Shimazono, Susumu (2004): From Salvation to Spirituality: Popular Religious Movements in Modern Japan. Trans Pacific Press
- Sims, Barbara (1989). Traces That Remain: A Pictorial History of the Early Days of the Bahá'í Faith Among the Japanese. Osaka, Japan: Japan Bahá'í Publishing Trust.
- Staemmler, Birgit, Dehn, Ulrich (ed.): Establishing the Revolutionary: An Introduction to New Religions in Japan. LIT, Münster, 2011. ISBN 978-3-643-90152-1
- Victoria Bestor, Theodore C. Bestor, Akiko Yamagata. Routledge Handbook of Japanese Culture and Society. Routledge, 2011. ASIN B004XYN3E4, ISBN 0415436494
- John Breen, Mark Teeuwen. Shinto in History. Curzon Press, Richmond, Surrey, England, 2000. ISBN 0700711708
- Steven Engler, Gregory P. Grieve. Historicizing "Tradition" in the Study of Religion. Walter de Gruyter, Inc., 2005. ISBN 3110188759. pp. 92–108
- George Williams, Ann Marie B. Bhar, Martin E. Marty. Shinto. Religions of the World. Chelsea House, 2004. ISBN 0791080978
- John Breen, Mark Teeuwen. A New History of Shinto. Blackwell, 2010. ISBN 1405155167
- Earhart H. Religion in Japan: Unity and Diversity. Cengage Learning, 2013. ISBN 1133934811
- Delmer Brown, John Whitney Hall. The Cambridge History of Japan, Volume 1. Cambridge University Press, 1993. ISBN 0521223520
- Ikuo Higashibaba. Christianity in Early Modern Japan: Kirishitan Belief and Practice. Brill Academic Publishing, 2002. ISBN 9004122907
- Craig, Edward (1998), Routledge Encyclopedia of Philosophy, Volume 7, Taylor & Francis, ISBN 978-0-415-07310-3
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- International Religious Freedom Report 2015: Japan, most recent International Religious Freedom Report by the United States Department of State's Bureau of Democracy, Human Rights, and Labor
- Fitzgerald, Tim (2003-07-10). "Religion and the Secular in Japan: Problems in History, Social Anthropology and the Study of Religion". Electronic Journal of Contemporary Japanese Studies.
- Kavanagh, Christopher M. and Jong, Jonathan (2020). Is Japan Religious? 14(1), DOI 10.1558/jsrnc.39187, pp. 152–180, https://journals.equinoxpub.com/OLDJSRNC/article/view/39187
- LeFebvre, J. (2015). Christian wedding ceremonies: “Nonreligiousness” in contemporary Japan. Japanese Journal of Religious Studies, 42(2), 185–203. http://nirc.nanzan-u.ac.jp/nfile/4454
- LeFebvre, J. (2021). The Oppressor's Dilemma: How Japanese State Policy toward Religion Paved the Way for Christian Weddings. Journal of Religion in Japan. https://brill.com/view/journals/jrj/aop/article-1163-22118349-20210001/article-1163-22118349-20210001.xml