หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)

(เปลี่ยนทางจาก ศร ศิลปบรรเลง)

รองเสวกเอก หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) (6 สิงหาคม พ.ศ. 2424 – 8 มีนาคม พ.ศ. 2497) เป็นนักดนตรีไทยผู้มีชื่อเสียงในด้านการเล่นระนาดเอกและประพันธ์เพลงไทยเดิมประมาณ 300 เพลง


หลวงประดิษฐไพเราะ
(ศร ศิลปบรรเลง)

เกิด6 สิงหาคม พ.ศ. 2424
ตำบลดาวดึงส์ อำเภออัมพวา
จังหวัดสมุทรสงคราม ประเทศสยาม
เสียชีวิต8 มีนาคม พ.ศ. 2497 (72 ปี)
บ้านศิลปบรรเลง ถนนบริพัตร
จังหวัดพระนคร ประเทศไทย
สัญชาติไทย
ชื่ออื่นศร ศิลปบรรเลง
อาชีพนักดนตรีไทย อาจารย์
มีชื่อเสียงจากผู้ชำนาญด้านดนตรีไทย
ผู้ประพันธ์เพลง"แสนคำนึง"
คู่สมรสโชติ หุราพันธ์
ฟู หุราพันธ์
บุตร12 คน

ชีวิตส่วนบุคคล

หลวงประดิษฐไพเราะ นามเดิม ศร เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2424 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ตำบลดาวดึงส์ อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม เป็นบุตรของ นายสิน นางยิ้ม ศิลปบรรเลง บิดาของท่านคือครูสินเป็นเจ้าของวงปี่พาทย์ และเป็นศิษย์ของพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร) [1] หลวงประดิษฐไพเราะถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 รวมอายุ 73 ปี

ครอบครัว

รองเสวกเอก หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) สมรสครั้งแรกกับนางโชติ ประดิษฐ์ไพเราะ (สกุลเดิม: หุราพันธ์) ธิดาของนายพันโท พระประมวญประมาณพล มีบุตรธิดาด้วยกัน 7 คน ต่อมาเมื่อนางโชติถึงแก่กรรมแล้วจึงได้สมรสครั้งที่ 2 กับนางฟู ศิลปบรรเลง (สกุลเดิม: หุราพันธ์) ซึ่งเป็นน้องสาวของนางโชติ มีบุตรธิดาด้วยกัน 5 คน[2] รวมจำนวนบุตรธิดาทั้งหมด 12 คน ซึ่งได้แก่[3]

  1. เด็กหญิงสร้อยไข่มุกด์ ศิลปบรรเลง - ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเด็ก
  2. เด็กหญิงศุกร์ดารา ศิลปบรรเลง - ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเด็ก
  3. นางชิ้น ไชยพรรค (คุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลง)
  4. นางมหาเทพกษัตรสมุห (บรรเลง สาคริก)
  5. เด็กชายศิลปสราวุธ ศิลปบรรเลง - ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเด็ก
  6. นายประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง
  7. นางภัลลิกา ศิลปบรรเลง
  8. นางชัชวาลย์ จันทร์เรือง
  9. เด็กชายแดง ศิลปบรรเลง - ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเด็ก
  10. นายขวัญชัย ศิลปบรรเลง
  11. นาวาเอกสมชัย ศิลปบรรเลง
  12. นายสนั่น ศิลปบรรเลง

ทักษะทางด้านดนตรี

 
หลวงประดิษฐไพเราะ เมื่อวัย 36 ปี

ศร สามารถตีฆ้องวงใหญ่ได้เองตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เริ่มเรียนปี่พาทย์เมื่ออายุ 11 ปี ตีระนาดได้รวดเร็ว มาตั้งแต่เด็ก โดยมีบิดาเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาปี่พาทย์ให้จนกระทั่งมีความสามารถในการประชันวงถึงขั้นมีชื่อเสียงไปทั่วลุ่มแม่น้ำแม่กลอง จากการได้ออกแสดงฝีมือนี้เองทำให้ชื่อเสียงของนายศร เป็นที่เลื่องลือในหมู่นักดนตรีมากขึ้น โดยเฉพาะในงานใหญ่ครั้งแรก คือ "งานโกนจุกเจ้าจอมเอิบ" และ เจ้าจอมอาบ ธิดาเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ จังหวัดเพชรบุรี

ในปี พ.ศ. 2443 ขณะเมื่ออายุ 19 ปี ท่านได้แสดงฝีมือเดี่ยวระนาดเอกถวายสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นที่ต้องพระทัยมาก จึงทรงรับตัวเข้ามาไว้ที่วังบูรพาภิรมย์ ทำหน้าที่คนระนาดเอกประจำ ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นายศร ศิลปบรรเลง ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงประดิษฐไพเราะ มีราชการในกรมมหรสพ ถือศักดินา 400[4] เข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ณ พระที่นั่งบรมพิมาน[5] แล้วได้รับพระราชทานยศเป็น หุ้มแพร ในวันที่ 13 กรกฎาคม ศกเดียวกัน[6] ทั้งนี้ท่านไม่เคยรับราชการอยู่ในกรมกองใดมาก่อน แต่เพราะฝีมือและความสามารถของท่านเป็นที่ต้องพระหฤทัย[ต้องการอ้างอิง]

ในปี พ.ศ. 2469 ท่านได้เข้ารับราชการในกรมปี่พาทย์และโขนหลวง กระทรวงวัง ท่านได้มีส่วนถวายการสอนดนตรีให้กับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี รวมทั้งมีส่วนช่วยงานพระราชนิพนธ์เพลงสามเพลง คือ เพลงราตรีประดับดาวเถา เพลงเขมรละออองค์เถา และ เพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง สามชั้น

ยศและบรรดาศักดิ์

  • 27 มิถุนายน 2468 – หลวงประดิษฐ์ไพเราะ
  • 11 กรกฎาคม 2468 – เข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์
  • 13 กรกฎาคม 2468 – หุ้มแพร

ในสื่อ

ชีวประวัติของท่านเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องโหมโรง ออกฉายในปีพ.ศ. 2547 และได้รับการดัดแปลงซ้ำเป็นละครโทรทัศน์ ออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อ พ.ศ. 2555

ผลงาน

 
หลวงประดิษฐไพเราะ เมื่อวัย 51 ปี

หลวงประดิษฐไพเราะ ท่านได้แต่งเพลงไว้มากกว่าร้อยเพลง ดังนี้:

เพลงโหมโรง
  • โหมโรงกระแตไต่ไม้
  • โหมโรงปฐมดุสิต
  • โหมโรงศรทอง
  • โหมโรงประชุมเทวราช
  • โหมโรงบางขุนนท์
  • โหมโรงนางเยื้อง
  • โหมโรงม้าสะบัดกีบ
  • โหมโรงบูเซ็นซ๊อค
  • ฯลฯ
เพลงเถา
  • กระต่ายชมเดือนเถา
  • ขอมทองเถา
  • เขมรเถา
  • เขมรปากท่อเถา
  • เขมรราชบุรีเถา
  • แขกขาวเถา
  • แขกสาหร่ายเถา
  • แขกโอดเถา
  • จีนลั่นถันเถา
  • ชมแสงจันทร์เถา
  • ครวญหาเถา
  • เต่าเห่เถา
  • นกเขาขแมร์เถา
  • พราหมณ์ดีดน้ำเต้าเถา
  • มุล่งเถา
  • แมลงภู่ทองเถา
  • ยวนเคล้าเถา
  • ช้างกินใบไผ่เถา
  • ระหกระเหินเถา
  • ระส่ำระสายเถา
  • ไส้พระจันทร์เถา
  • ลาวเสี่ยงเทียนเถา
  • แสนคำนึงเถา
  • สาวเวียงเหนือเถา
  • สาริกาเขมรเถา
  • โอ้ลาวเถา
  • ครุ่นคิดเถา
  • กำสรวลสุรางค์เถา
  • แขกไทรเถา
  • สุรินทราหูเถา
  • เขมรภูมิประสาทเถา
  • แขไขดวงเถา
  • พระอาทิตย์ชิงดวงเถา
  • กราวรำเถา
  • ฯลฯ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. ""ทำเนียบศิลปิน ท้องถิ่นอัมพวา"". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-30. สืบค้นเมื่อ 2017-04-07.
  2. "คีตกวีไทย หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-16. สืบค้นเมื่อ 2018-05-02.
  3. หนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) 10 มีนาคม 2498 ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส
  4. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานบรรดาศักดิ์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 42, ตอน 0 ง, 5 กรกฎาคม 2468, หน้า 1033
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์, เล่ม 42, ตอน 0 ง, 19 กรกฎาคม 2468, หน้า 1151-2
  6. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานยศ เก็บถาวร 2018-05-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 42, ตอน 0 ง, 19 กรกฎาคม 2468, หน้า 1152
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน เก็บถาวร 2022-07-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๒๒๘, ๒๓ พฤศจิกายน ๒๔๗๓
  8. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-07-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๖๔, ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๗๒
  9. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชรุจิ, เล่ม ๒๔ ตอนที่ ๕๒ หน้า ๑๔๑๔, ๒๙ มีนาคม ๑๒๖
  10. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญราชรุจิ, เล่ม ๓๔ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๕๙๓, ๒๗ พฤษภาคม ๒๔๖๐

แหล่งข้อมูลอื่น