วิภูแถลง พัฒนภูมิไท

วิภูแถลง พัฒนภูมิไท ชื่อเดิม แถลง รองขุน[1] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นชาวพัทลุง ผู้ก่อตั้งและเป็นโฆษกกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คมช. เป็นแนวร่วมกับกลุ่มวิทยุชุมชนคนรักทักษิณของชินวัตร หาบุญผาด ต่อมาเข้าร่วมเป็น 1 ใน 8 แกนนำกลุ่ม นปก. ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คมช.

วิภูแถลง พัฒนภูมิไท
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด26 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 (72 ปี)
จังหวัดพัทลุง
พรรคการเมืองไทยรักษาชาติ

ประวัติ แก้

วิภูแถลง พัฒนภูมิไท เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 ที่ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของนายผอม รองขุน กับนางสวน รองขุน[1] ชื่อเดิมว่า แถลง รองขุน ปัจจุบันนายวิภูแถลง มีสถานภาพหย่า มีบุตร 1 คน คือ นางสาววริษฐา พัฒนภูมิไท[1]

นายวิภูแถลง เคยเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนสตรีพัทลุง ต่อมาย้ายมาสอนที่โรงเรียนศรีพฤฒาที่อยู่ในหมู่บ้านนักกีฬา ลาออกจากอาจารย์มาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แถวดอนเมืองอยู่พักหนึ่ง

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 46 สังกัดพรรคเพื่อไทย[2] ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 45[3]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 "บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-06-17. สืบค้นเมื่อ 2011-10-18.
  2. ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคเพื่อไทย)
  3. ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (พรรคเพื่อไทย)
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕ เก็บถาวร 2022-02-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๙ ตอนที่ ๓๕ ข หน้า ๗๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๑๘๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔