วิกิพีเดีย:บทความคัดสรรประจำเดือน/พ.ศ. 2565



บทความคัดสรรแบ่งตามปี
2548 - 2549 - 2550 - 2551 - 2552 - 2553 - 2554 - 2555 - 2556 - 2557 - 2558 - 2559 - 2560 - 2561 - 2562 - 2563 - 2564 - 2565 - 2566 - 2567


มกราคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

เฟรมหนึ่งของ คัตสึโดชาชิง ซึ่งมีความยาว 3 วินาที
เฟรมหนึ่งของ คัตสึโดชาชิง ซึ่งมีความยาว 3 วินาที

คัตสึโดชาชิง หรือบางครั้งเรียกว่า ชิ้นส่วนมัตสึโมโตะ เป็นฟิล์มสตริปภาพเคลื่อนไหวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลงานอนิเมะญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่ทราบ โดยไม่ปรากฏชื่อผู้สร้างผลงาน หลักฐานบ่งชี้ว่าสร้างขึ้นก่อน ค.ศ. 1912 ดังนั้นฟิล์มสตริปชิ้นนี้อาจมีมาก่อนการจัดแสดงภาพยนตร์การ์ตูนของตะวันตกในญี่ปุ่น โดยมีการค้นพบ คัตสึโดชาชิง ในชุดสะสมภาพยนตร์และเครื่องฉายในเกียวโตเมื่อ ค.ศ. 2005

คัตสึโดชาชิง ประกอบด้วยชุดของภาพการ์ตูนบนแถบเซลลูลอยด์ห้าสิบเฟรม มีความยาวสามวินาทีที่สิบหกเฟรมต่อวินาที ฟิล์มสตริปแสดงเด็กชายในชุดกะลาสีเขียนตัวอักษรคันจิ "活動写真" (katsudō shashin, "ภาพเคลื่อนไหว") จากขวาไปซ้าย จากนั้นหมุนตัวมาทางผู้ชม ถอดหมวก แล้วคำนับ คัตสึโดชาชิง เป็นชื่อชั่วคราว ด้วยไม่ทราบชื่อที่แท้จริง

งานชิ้นนี้มีความแตกต่างกับแอนิเมชันดั้งเดิมตรงที่เฟรมไม่ได้ผลิตด้วยวิธีการบันทึกภาพ แต่ใช้การพิมพ์ฉลุฟิล์ม โดยใช้ คัปปะ-บัง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับพิมพ์ฉลุสไลด์โคมไฟวิเศษ ภาพเป็นสีแดงและดำบนแถบภาพยนตร์ขนาด 35 มม. โดยส่วนท้ายยึดติดกันเพื่อการเล่นที่ต่อเนื่อง (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: มะเร็งท่อน้ำดีสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเรนอินบลัด


กุมภาพันธ์ 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

ซาร์อีวัน อาแลกซันเดอร์ เป็นจักรพรรดิ (ซาร์) แห่งจักรวรรดิบัลแกเรียตั้งแต่ ค.ศ. 1331–1371 วันเสด็จพระราชสมภพของพระองค์ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด โดยทราบเพียงวันสวรรคตซึ่งตรงกับวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1371 ช่วงระยะเวลาการครองราชสมบัติที่ยาวนานของพระองค์เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของประวัติศาสตร์บัลแกเรียในยุคกลาง ซึ่งพระองค์ทรงต้องจัดการกับปัญหาภายในและภัยคุกคามจากภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจักรวรรดิไบแซนไทน์และจักรวรรดิเซอร์เบีย ซึ่งเป็นดินแดนเพื่อนบ้านของบัลแกเรีย นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ศิลปะและการศาสนาของบัลแกเรียอีกด้วย

อย่างไรก็ตามในช่วงหลัง ซาร์อีวัน อาแลกซันเดอร์ทรงไม่สามารถรับมือกับปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากกาฬมรณะ การรุกรานของจักรวรรดิออตโตมันและการรุกรานบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโดยราชอาณาจักรฮังการี การเผชิญหน้าอย่างไร้ผลกับปัญหาเหล่านี้ พระองค์ได้ทรงแบ่งดินแดนให้พระราชโอรส 2 พระองค์ ซึ่งนำไปสู่ความอ่อนแอและการแบ่งแยกของจักรวรรดิบัลแกเรีย พร้อมกับการเผชิญหน้ากับขยายอำนาจของจักรวรรดิออตโตมัน

ซาร์อีวัน อาแลกซันเดอร์อภิเษกสมรสครั้งแรกกับซารีนาแตออดอราแห่งวอเลเคีย พระธิดาของบาซารับที่ 1 แห่งวอเลเคีย มีพระโอรสธิดาหลายพระองค์ ซึ่งรวมถึงซาร์อีวัน สรัตซีมีร์ ซึ่งเป็นซาร์แห่งบัลแกเรียในวีดินระหว่างปี ค.ศ. 1356–1397 เจ้าชายมีคาอิล อาแซนที่ 4 และเจ้าชายอีวัน อาแซนที่ 4 (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: คัตสึโดชาชิงมะเร็งท่อน้ำดีสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด


มีนาคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

ตัวอย่าง CBC หน้าสิ่งพิมพ์ออกซึ่งแสดงผล CBC และการนับแยกชนิดเม็ดเลือด
ตัวอย่าง CBC หน้าสิ่งพิมพ์ออกซึ่งแสดงผล CBC และการนับแยกชนิดเม็ดเลือด

การตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ (อังกฤษ: complete blood count, CBC หรือ full blood count, FBC) เป็นชุดการตรวจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ที่ให้สารนิเทศเกี่ยวกับเซลล์ในเลือดของบุคคล CBC ระบุจำนวนเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือด ความเข้มข้นของฮีโมโกลบินและฮีมาโทคริต (ร้อยละปริมาตรของเม็ดเลือดแดง) นอกจากนี้ยังรายงานดัชนีเม็ดเลือดแดง ซึ่งระบุขนาดเฉลี่ยและปริมาณฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดง และอาจรวมถึงการนับแยกเม็ดเลือดขาว ซึ่งบอกปริมาณเม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ

การส่งตรวจ CBC มักเป็นไปเพื่อประกอบการประเมินทางการแพทย์ และสามารถใช้เฝ้าติดตามสุขภาพหรือวินิจฉัยโรคได้ การแปลผลมักใช้การเปรียบเทียบกับพิสัยอ้างอิงซึ่งขึ้นอยู่กับเพศและอายุ ค่าเหล่านี้สามารนำไปใช้วินิจฉัยโรคบางโรคที่มีนิยามที่อิงจากค่าที่ได้จากการตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ เช่น ภาวะเลือดจาง และ เกล็ดเลือดน้อย เป็นต้น ดัชนีเม็ดเลือดแดงสามารถให้สารนิเทศเกี่ยวกับสาเหตุของภาวะเลือดจางของบุคคลได้ เช่น การขาดธาตุเหล็กและการขาดวิตามินบี12 และผลการนับแยกเม็ดเลือดขาวสามารถใช้วินิจฉัยการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และปรสิต และโรคเลือด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้ แต่ทั้งนี้ค่าที่เกินพิสัยอ้างอิงไม่จำเป็นต้องรักษาทางการแพทย์เสมอไป

การทดสอบ CBC ใช้อุปกรณ์ห้องปฏิบัติการพื้นฐานหรือเครื่องวิเคราะห์โลหิตวิทยาอัตโนมัติซึ่งนับเซลล์และเก็บสารนิเทศเกี่ยวกับขนาดและโครงสร้างของเม็ดเลือด เครื่องยังวัดความเข้มข้นของฮีโมโกลบิน และคำนวณดัชนีเม็ดเลือดแดงจากค่าเม็ดเลือดแดงและฮีโลโกลบินที่ได้ นอกจากนี้ยังอาจใช้การตรวจด้วยมือเพื่อยืนยันค่าผิดปกติ (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: ซาร์อีวัน อาแลกซันเดอร์แห่งบัลแกเรียคัตสึโดชาชิงมะเร็งท่อน้ำดี


เมษายน 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

เด็กหญิงชาวโตราจาในพิธีแต่งงาน
เด็กหญิงชาวโตราจาในพิธีแต่งงาน

ชาวโตราจา เป็นกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองในพื้นที่ภูเขาแห่งหนึ่งของจังหวัดซูลาเวซีใต้ ประเทศอินโดนีเซีย มีประชากรอยู่ประมาณ 1,100,000 คน ในจำนวนนี้มี 450,000 คนที่อาศัยอยู่ในอำเภอตานาโตราจา (Tana Toraja; "ดินแดนโตราจา") ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ที่เหลือนับถือศาสนาอิสลามหรือมีความเชื่อแบบวิญญาณนิยมท้องถิ่นที่เรียกว่า อาลุก (aluk; "วิถีทาง") รัฐบาลอินโดนีเซียได้รับรองความเชื่อนี้ในชื่อ อาลุกโตโดโล (Aluk To Dolo; "วิถีบรรพชน")

คำว่า โตราจา (Toraja) มาจากศัพท์ โตรียาจา (to riaja) ซึ่งแปลว่า "คนที่สูง" ในภาษาบูกิซ รัฐบาลอาณานิคมดัตช์เรียกชนกลุ่มนี้ว่าชาว "โตราจา" ครั้งแรกใน ค.ศ. 1909 ชาวโตราจาเป็นที่รู้จักจากพิธีศพที่ประณีต สถานที่ฝังศพที่แกะสลักเข้าไปในผาหิน บ้านทรงตงโกนันซึ่งมีหลังคายอดแหลมใหญ่ และงานแกะสลักไม้สีสันสดใส ส่วนพิธีศพของชาวโตราจาเป็นกิจกรรมทางสังคมที่สำคัญ โดยทั่วไปมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนและจัดขึ้นเป็นเวลาหลายวัน

ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 20 ชาวโตราจาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีลักษณะปกครองตนเอง มีพิธีกรรมเกี่ยวกับวิญญาณ และไม่ค่อยมีการติดต่อกับโลกภายนอก จนกระทั่งต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 มิชชันนารีชาวดัตช์ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่และโน้มน้าวให้ชาวโตราจาหันไปนับถือศาสนาคริสต์ เมื่ออำเภอตานาโตราจาเปิดกว้างสู่โลกภายนอกยิ่งขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1970 ตานาโตราจาได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซีย และถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาเชิงท่องเที่ยวและกลายเป็นเป้าหมายการศึกษาในทางมานุษยวิทยา (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: การตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ซาร์อีวัน อาแลกซันเดอร์แห่งบัลแกเรียคัตสึโดชาชิง


พฤษภาคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ ดันเจียนซีจ (อังกฤษ: Dungeon Siege) เป็นเกมแอ็กชันเล่นตามบทบาทที่พัฒนาโดยแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ ซึ่งไมโครซอฟท์ได้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2002 และเดสทิเนียร์ได้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มแมคโอเอสเท็นในปีถัดไป โดยมีฉากอยู่ในอาณาจักรยุคกลางสมมติ ชื่อ เอห์บ เกมนี้ยังจัดเป็นแนวแฟนตาซีระดับสูงที่เดินเรื่องตามชาวไร่หนุ่มคนหนึ่งและเพื่อนร่วมทางขณะที่พวกเขาออกเดินทางเพื่อกำจัดกองกำลังที่รุกราน ในตอนแรก กลุ่มตัวเอกเพียงต้องการเตือนเมืองใกล้เคียงเกี่ยวกับการรุกรานของเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่ชื่อครุก และในอีกไม่นาน ชาวไร่คนดังกล่าวและเพื่อนร่วมทางกับเขาตกอยู่ในสถานการณ์หาทางเอาชนะเผ่าพันธุ์อื่นที่เรียกว่าเซกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งฟื้นคืนพลังใหม่หลังจากถูกคุมขังอยู่ 300 ปี โลกของดันเจียนซีจไม่ใช้ระบบเลเวลเหมือนกับวิดีโอเกมเล่นตามบทบาทอื่น ๆ ในยุคนั้น หากแต่เป็นพื้นที่เดียวที่ต่อเนื่อง โดยปราศจากการโหลดหน้าจอ ซึ่งผู้เล่นเดินทางผ่านเพื่อต่อสู้กับฝูงศัตรู นอกจากนี้ แทนที่จะกำหนดคลาสตัวละครและควบคุมตัวละครทั้งหมดในกลุ่มด้วยตนเอง ผู้เล่นจะควบคุมกลยุทธ์และอาวุธ ตลอดจนการใช้เวทมนตร์โดยรวมของพวกเขา ซึ่งกำกับการเติบโตของตัวละคร

ดันเจียนซีจเป็นผลงานแรกของบริษัทแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1998 โดยคริส เทย์เลอร์ แล้วมีชื่อเสียงขึ้นมาจากเกมวางแผนเวลาจริงอย่างโทเทิลแอนไนอะเลชันใน ค.ศ. 1997 เทย์เลอร์ต้องการสร้างเกมประเภทอื่นหลังจากเพื่อนร่วมงานหลายคนจากเคฟด็อกเอนเตอร์เทนเมนต์ได้เข้าร่วม และพวกเขาก็ตัดสินใจสร้างเกมแอ็กชันเล่นตามบทบาทเป็นเกมแรกหลังจากลองใช้แนวคิดหลายอย่างแล้ว เทย์เลอร์ยังรับหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้ออกแบบเกมนี้ รวมถึงเจคอบ แม็กแมน ในฐานะหัวหน้าผู้ออกแบบและผู้อำนวยการสร้างอีกคน ตลอดจนนีล ฮอลฟอร์ด เป็นหัวหน้าผู้เขียนเรื่องราวและบทสนทนา ส่วนเจเรมี โซล เป็นผู้แต่งเพลง ซึ่งเคยทำงานในโททัลแอนไนอิเลชัน (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: ชาวโตราจาการตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์ซาร์อีวัน อาแลกซันเดอร์แห่งบัลแกเรีย


มิถุนายน 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

รูปที่อาจเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร
รูปที่อาจเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร

ชาวโยดะยา หรือ ชาวอยุธยาในพม่า เป็นคำที่เรียกกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวสยามจากอาณาจักรอยุธยา ซึ่งอพยพเข้ามาประเทศพม่า มีทั้งอพยพไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารกษัตริย์พม่าโดยสมัครใจ บ้างก็เป็นเชลยซึ่งถูกกวาดต้อนเมื่อเกิดสงคราม

เมื่อเวลาผ่านไปหลายศตวรรษ ชาวอยุธยาในพม่าค่อย ๆ ผสมปนเปไปกับสังคมพม่า บ้างก็โยกย้ายจากถิ่นฐานเดิม พวกเขาเลิกพูดภาษาไทยและหันไปพูดภาษาพม่า จนกระทั่งทิน มอง จี นักวิชาการชาวพม่าผู้มีเชื้อสายโยดะยาเขียนบทความสั้นชื่อ "สุสานกษัตริย์ไทย" (A Thai King’s Tomb) ก่อน พ.ศ. 2538 โดยเชื่อว่าสถูปเก่าองค์หนึ่งในป่าช้าเนินล้านช้างหรือเนินกระแซ (ลินซินกอง) เป็นสุสานของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร อดีตพระมหากษัตริย์อยุธยาผู้นิราศจากบัลลังก์และตกเป็นเชลยในพม่า และเริ่มมีชื่อเสียงจากการที่มัคคุเทศก์พานักท่องเที่ยวไทยไปยังสถูปแห่งหนึ่งในป่าช้าลินซิน แต่กระแสดังกล่าวทำให้เกิดความตื่นตัวในการศึกษาชาวอยุธยาในพม่า และมีความพยายามในการตามหาชุมชนอยุธยาที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน

จนกระทั่งใน พ.ศ. 2556 จึงได้มีการค้นพบชุมชนเชื้อสายอยุธยาชื่อหมู่บ้านซูกา มีประชากรราว 200 คน (พ.ศ. 2560) และยังมีชุมชนของผู้มีเชื้อสายอยุธยา ณ บ้านมินตาซุ (ย่านเจ้าฟ้า) มีประชากรเชื้อสายอยุธยาอยู่ไม่ต่ำกว่า 30 คน (พ.ศ. 2557) ทั้งสองชุมชนนี้ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ แม้ไม่สามารถใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันได้แล้ว แต่วัฒนธรรมหลายอย่างของชาวอยุธยายังคงอยู่และส่งอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมพม่าบางประการมาจนถึงยุคปัจจุบัน (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: ดันเจียนซีจชาวโตราจาการตรวจนับเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์


กรกฎาคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

ถ้วยบอชช์เสิร์ฟโรยหน้าด้วยผักชีลาวและสเมตานา (ครีมเปรี้ยว)
ถ้วยบอชช์เสิร์ฟโรยหน้าด้วยผักชีลาวและสเมตานา (ครีมเปรี้ยว)

บอชช์ เป็นซุปเปรี้ยวที่พบได้ทั่วไปในยุโรปตะวันออกและเอเชียเหนือ คำว่า "บอชช์" มักใช้เรียกซุปรูปแบบที่มีต้นกำเนิดจากยูเครนที่มีส่วนประกอบหลักคือบีตรูตซึ่งทำให้ซุปมีสีแดง อย่างไรก็ตาม ชื่อของซุปนี้ยังนำไปใช้เรียกรูปแบบที่หลากหลายของซุปเปรี้ยวอื่น ๆ ที่ไม่ใส่บีตรูตอย่างบอชช์เขียวซึ่งทำมาจากซอเริล บอชช์ขาวซึ่งทำมาจากข้าวไรย์ และบอชช์กะหล่ำปลี เป็นต้น

บอชช์มีที่มาจากซุปโบราณชนิดหนึ่ง เดิมทีได้จากต้น ใบ และช่อซี่ร่มของฮ็อกวีดธรรมดา (Heracleum sphondylium) ที่ดองแล้วนำมาปรุง ฮ็อกวีดธรรมดาเป็นไม้ล้มลุกที่ขึ้นในทุ่งหญ้าชื้นแฉะและเป็นที่มาของชื่อซุปนี้ในภาษากลุ่มสลาฟ เมื่อเวลาผ่านไป ซุปได้พัฒนาและมีรูปแบบที่หลากหลาย ในจำนวนนี้บอชช์สีแดงที่ทำจากบีตรูตของยูเครนได้กลายเป็นที่นิยมมากที่สุด โดยทั่วไปการปรุงบอชช์ประกอบด้วยการผสมน้ำสต๊อกกับผักต่าง ๆ ที่นำไปผัดเร็ว ๆ นอกจากบีตรูตแล้วยังมีการใช้กะหล่ำปลี แครอต หอมใหญ่ มันฝรั่ง และมะเขือเทศ ในบางสูตรอาหารอาจใส่เนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา หรืออาจใส่แต่ผักเท่านั้น เสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น และเสิร์ฟได้ทั้งในรูปมื้ออาหารเป็นหม้อ ไปจนถึงซุปใส หรือแม้แต่เครื่องดื่มสมูธธี บ่อยครั้งนิยมเสิร์ฟบอชช์กับสเมตานาหรือครีมเปรี้ยว ไข่ต้ม หรือมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องโรยหน้าหรือเครื่องเคียงอีกมากที่เสิร์ฟกับซุปนี้ได้เช่นกัน เช่น อุชกา (เกี๊ยวชิ้นเล็ก) หรือปัมปุชกา (ขนมปังก้อนกลม) เป็นต้น (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: ชาวโยดะยาดันเจียนซีจชาวโตราจา


สิงหาคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

เหล่าทีมงานผู้พัฒนาเกมฟลอเรนซ์
เหล่าทีมงานผู้พัฒนาเกมฟลอเรนซ์

ฟลอเรนซ์ เป็นเรื่องเล่าและวิดีโอเกมแนวปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาโดยสตูดิโอเมาต์เทนส์ในออสเตรเลีย และจัดจำหน่ายโดยแอนนาเพอร์นาอินเตอแรกทิฟ เกมถูกปล่อยวางจำหน่ายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 (วันวาเลนไทน์) สำหรับไอโอเอส และวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2018 สำหรับแอนดรอยด์ และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 สำหรับไมโครซอฟท์ วินโดวส์, แม็คโอเอส และนินเท็นโด สวิตช์

ใน ฟลอเรนซ์ ผู้เล่นจะได้ติดตามเรื่องราวของฟลอเรนซ์ โยห์ สาววัย 25 ปีที่ใช้ชีวิตประจำวันและได้พบกับคริช นักเชลโลที่เธอได้พบที่สวน ตัวเกมได้แสดงบทสนทนาสั้น ๆ และบอกเล่าเรื่องราวของฟลอเรนซ์ผ่านบทสั้น ๆ หลายบท ปริศนาในเกมเป็นตัวช่วยในการเติมเต็มชีวิตของฟลอเรนซ์ซึ่งผู้เล่นสามารถทำได้ผ่านเรื่องราวของเธอ

ผู้ออกแบบหลัก เคน หว่อง ต้องการสร้างเกมที่ไม่มีความรุนแรงและได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานวิดีโอเกมก่อนหน้านี้ของเขาอย่าง โมนูเมนต์แวลเลย์ เพื่อให้เกมมีประสบการณ์ที่เน้นการบรรยายโดยรวมเอาเกมปริศนาเข้าไปด้วย ตัวเกมได้รับการชื่นชมถึงภาพ เพลงประกอบ และรูปแบบการบรรยาย แต่ฉากจบกลับถูกวิจารณ์ (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: บอชช์ชาวโยดะยาดันเจียนซีจ


กันยายน 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

ตาของพายุเฮอร์ริเคนอิซาเบล
ตาของพายุเฮอร์ริเคนอิซาเบล

ตาพายุ คือบริเวณที่สภาพอากาศโดยส่วนมากสงบที่จุดศูนย์กลางของพายุหมุนเขตร้อนที่มีพลัง ตาของพายุมีลักษณะเป็นพื้นที่วงกลมอย่างคร่าว ๆ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโดยปกติที่ 30–65 กม. (20–40 ไมล์) ซึ่งถูกล้อมรอบด้วย กำแพงตา วงแหวนของพายุฟ้าคะนองที่สูงตระหง่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสภาพอากาศรุนแรงเกิดขึ้น ความกดอากาศต่ำที่สุดของพายุหมุนจะเกิดขึ้นภายในตาพายุ และมีความกดอากาศต่ำกว่าความกดอากาศภายนอกพายุ 15 เปอร์เซ็นต์

ในพายุหมุนเขตร้อนที่มีพลัง ตาของพายุจะมีลักษณะพิเศษคือ มีลมเบาและท้องฟ้าโปร่ง ซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงตาสมมาตรที่สูงลิ่ว ในพายุหมุนเขตร้อนที่อ่อนกำลัง ตาพายุที่แจ่มชัดน้อยสามารถถูกปกคลุมด้วยการระบายความร้อนและยกตัวของไอน้ำอย่างหนาแน่นจากแกนกลางของพายุ (Central dense overcast) เป็นพื้นที่ที่มีเมฆหนาแน่น ซึ่งส่องสว่างในภาพถ่ายดาวเทียม พายุที่อ่อนหรือไม่เป็นระบบ อาจมีกำแพงตาที่ไม่เป็นวงกลมโดยสมบูรณ์รอบตาพายุ หรือบริเวณตาพายุมีฝนตกหนัก ซึ่งในพายุหมุนเขตร้อนทุกแบบ ตาพายุคือที่ตั้งของพื้นที่ความกดอากาศต่ำที่สุดภายในตัวพายุที่ระดับน้ำทะเล

ตาพายุอาจจะมีอากาศปลอดโปร่งหรือมีเมฆน้อย (ตาพายุแบบปลอดโปร่ง) หรืออาจมีเมฆชั้นกลางและชั้นล่าง (ตาพายุแบบเต็มไปด้วยเมฆ) หรืออาจถูกบดบังโดยไอน้ำอย่างหนาแน่นจากแกนกลางของพายุก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในศูนย์กลางของพายุจะมีลมเบาและฝนน้อย โดยเฉพาะในบริเวณใกล้ ๆ กับศูนย์กลาง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับในกำแพงตาของพายุ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีลมแรงที่สุดของพายุ (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: ฟลอเรนซ์บอชช์ชาวโยดะยา


ตุลาคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

มันออกเสียงว่า 'จิฟ' ไม่ใช่ 'กิฟ'
มันออกเสียงว่า 'จิฟ' ไม่ใช่ 'กิฟ'

การออกเสียงคำว่า GIF ซึ่งเป็นคำย่อของวลีภาษาอังกฤษว่า Graphics Interchange Format ('รูปแบบสับเปลี่ยนภาพกราฟิกส์') เป็นประเด็นโต้แย้งกันมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 ในภาษาอังกฤษนิยมออกเสียงคำย่อนี้เป็นคำพยางค์เดียวว่า /ɡɪf/ (เสียงคล้าย กิฟ, ฟังเสียง) ด้วยเสียง g หนัก (เสียงคล้ายเสียงของ "ก") และ /ɪf/ (เสียงคล้าย จิฟ, ฟังเสียง) ด้วยเสียง g เบา (เสียงคล้ายเสียงของ "จ") การออกเสียงทั้งสองแบบต่างกันที่หน่วยเสียงที่เขียนแทนด้วยอักษร G ที่มาของข้อถกเถียงมาจากข้อเท็จจริงว่าในภาษาอังกฤษไม่มีกฎกลางสำหรับการออกเสียงลำดับอักษร gi

บุคคลสาธารณะและสถาบันจำนวนมากได้ออกมาแสดงจุดยืนของตนในประเด็นโต้แย้งเกี่ยวกับการออกเสียงคำว่า GIF เช่น สตีฟ วิลไฮต์ ผู้คิดค้นรูปแบบไฟล์ภาพนี้ เคยกล่าวสุนทรพจน์ที่งานมอบรางวัลเวบบี 2013 โดยโต้แย้งว่าการออกเสียงอักษร G ในคำนี้เป็น g เบา (เสียงคล้ายเสียงของ "จ") คือการออกเสียงที่ถูกต้อง ในขณะที่คนอื่น ๆ ชี้ว่าอักษร G ในคำนี้มีที่มาจากคำว่า graphics (เสียงคล้าย แกรฟิกส์) ซึ่งออกเสียงอักษร G เป็น g หนัก (เสียงคล้ายเสียงของ "ก") จึงควรออกเสียงอักษร G ในคำนี้เป็น g หนัก ตามไปด้วย

แม้ว่าความถี่ของการออกเสียงแต่ละแบบจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค แต่ผลการสำรวจโดยทั่วไปแสดงให้เห็นว่าการออกเสียงอักษร G ในคำว่า GIF เป็น g หนัก เป็นที่แพร่หลายมากกว่าในภาษาอังกฤษ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พูดภาษาอังกฤษบางคนยังอ่านออกเสียงคำย่อนี้แบบเรียงตัวอักษรว่า / ɛf/ (เสียงคล้าย จีไอเอฟ, ฟังเสียง) (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: ตา (พายุหมุน)ฟลอเรนซ์บอชช์


พฤศจิกายน 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตอับคาเซีย เป็นสาธารณรัฐที่มีอยู่เป็นเวลาสั้น ๆ ในภูมิภาคคอเคซัสของสหภาพโซเวียต มีอาณาบริเวณครอบคลุมอับคาเซีย และดำรงอยู่ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1921 ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1931 สาธารณรัฐก่อตั้งขึ้นหลังการรุกรานจอร์เจียโดยกองทัพแดงใน ค.ศ. 1921 และคงสถานะเป็นรัฐเอกราชจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1921 ที่ซึ่งลงนามในข้อตกลงร่วมเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตจอร์เจีย สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตอับคาเซียมีความเหมือนกันกับสาธารณรัฐปกครองตัวเอง แต่ยังคงความเป็นเอกราชจากจอร์เจียรวมถึงได้รับสิทธิประโยชน์บางประการที่มีแต่สาธารณรัฐสหภาพเต็มตัวเท่านั้นจึงมีได้ เช่น การมีกองทัพเป็นของตนเอง ผ่านสถานะของรัฐในฐานะ "สาธารณรัฐตามสนธิสัญญา" (treaty republic) กับจอร์เจีย อับคาเซียเข้าร่วมในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตทรานส์คอเคซัส ซึ่งรวมสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตต่าง ๆ ในภูมิภาคคอเคซัส คือ อาร์มีเนีย, อาเซอร์ไบจาน และจอร์เจีย เช้าด้วยกันเป็นหน่วยสหพันธ์หนึ่ง หลังสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตจอร์เจียตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1922 สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตอับคาเซียสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1931 และเปลี่ยนผ่านเป็นสาธารณรัฐปกครองตัวเองสังคมนิยมโซเวียตอับคาซภายใต้สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตจอร์เจีย

สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตอับคาเซียมีผู้นำคือเนสเตอร์ ลาโกบา ผู้ซึ่งตามตำแหน่งแล้ว เป็นประธานคณะกรรมการราษฎร แต่ควบคุมสาธารณรัฐมากจนถึงจุดที่มักเรียกสาธารณรัฐกันอย่างขำขันว่าเป็น "ลาโคบีสถาน" (Lakobistan) ลาโกบามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกับผู้นำโซเวียต โจเซฟ สตาลิน จึงส่งผลให้โครงการรวมที่นาในอับคาเซียถูกชะลอไปจนกว่าอับคาเซียจะถูกผนวกเข้ากับจอร์เจีย ในยุคนี้ อับคาเซียยังคงสถานะเป็นผู้นำในการผลิตยาสูบ โดยเป็นผู้เพาะปลูกอุปทานเกินครึ่งหนึ่งของยาสูบในสหภาพโซเวียต (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: การออกเสียงคำว่า GIFตา (พายุหมุน)ฟลอเรนซ์


ธันวาคม 2565

ดู - สนทนา - ประวัติ

ภาพ HRCT ของทรวงอกของผู้ป่วยโรคนี้
ภาพ HRCT ของทรวงอกของผู้ป่วยโรคนี้

หลอดลมฝอยอักเสบทั่วแบบกระจาย (อังกฤษ: diffuse panbronchiolitis) หรือ DPB เป็นโรคของปอดชนิดหนึ่งที่ยังไม่ทราบสาเหตุ โดยหลอดลมฝอยของผู้ป่วยจะมีการอักเสบที่รุนแรงและเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยคำว่า "กระจาย" (diffuse) ในที่นี้ หมายถึงการที่ผู้ป่วยจะมีรอยโรคเกิดขึ้นทั่วทั้งบริเวณของปอดทั้งสองข้าง และ "อักเสบทั่ว" (pan) ในที่นี้ หมายถึงเกิดการอักเสบที่ทุกชั้นของหลอดลมฝอย โรคนี้สามารถทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงและมีรอยโรคเป็นปุ่มที่หลอดลมฝอยส่วนปลาย เกิดโพรงอากาศอักเสบเรื้อรัง และไอมีเสมหะมากได้

สาเหตุของโรคเชื่อว่าสัมพันธ์กับการที่ร่างกายของผู้ป่วยมีความไวหรือขาดภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสที่กระตุ้นให้เกิด DPB จากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยในเชื้อชาติเอเชียตะวันออก โดยโรคนี้พบมากที่สุดในคนญี่ปุ่น รองลงมาคือคนเกาหลี ภาวะนี้พบได้ในผู้ชายบ่อยกว่าในผู้หญิง ผู้ป่วยมักเริ่มแสดงอาการที่อายุประมาณ 40 ปี เป็นโรคใหม่ที่เพิ่งเป็นที่รู้จักในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 และได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1969

หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีการดำเนินโรคไปจนเกิดหลอดลมโป่งพองได้ ภาวะนี้จะทำให้หลอดลมและหลอดลมฝอยของผู้ป่วยเสียหายอย่างถาวรและขยายขนาดขึ้น เกิดมีเมือกเสมหะขังอยู่ในหลอดลมฝอยได้ การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในกลุ่มแมโครไลด์อย่างอีริโทรมัยซินทุกวันอย่างต่อเนื่องสามารถบรรเทาอาการและเพิ่มระยะเวลารอดชีวิตได้ แต่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด ในระยะสุดท้ายผู้ป่วยโรคนี้อาจมีการหายใจล้มเหลวและโรคหัวใจได้ (อ่านต่อ...)

บทความคัดสรรก่อนหน้านี้: สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตอับคาเซียการออกเสียงคำว่า GIFตา (พายุหมุน)