วาสนา บุญภูพันธ์ตันติ

นายวาสนา บุญภูพันธ์ตันติ (เกิด 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2474-16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ 3 สมัย

วาสนา บุญภูพันธ์ตันติ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด11 กรกฎาคม พ.ศ. 2474
อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่
เสียชีวิต16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 (89 ปี)
เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
คู่สมรสพาณี บุญภูพันธ์ตันติ

ประวัติ แก้

นายวาสนา บุญภูพันธ์ตันติ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2474 สำเร็จการศึกษา ชั้นเตรียมอุดมศึกษา จาก โรงเรียนพระนครวิทยาลัย [1]

วาสนา สมรสกับนางพาณี บุญภูพันธ์ตันติ มีบุตร-ธิดา 3 คน คือ นายไชยธัช บุญภูพันธ์ตันติ, นางสาวกนกวรรณ บุญภูพันธ์ตันติ และ นางสาววลัยลักษณ์ บุญภูพันธ์ตันติ

หลังจากวางมือทางการเมือง วาสนา ใช้ชีวิตด้วยการประกอบอาชีพเกษตรกรอย่างสงบเรียบง่าย ณ จังหวัดเพชรบูรณ์ [2] ก่อนที่จะถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคหลอดเลือดสมองแตก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 สิริอายุรวม 89 ปี มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร

งานการเมือง แก้

วาสนา เคยรับราชการ ในตำแหน่งนายตรวจศุลกากร ประจำกรมศุลกากร ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ใน พ.ศ. 2522 สังกัดพรรคกิจสังคม และได้รับเลือกติดต่อกันจนถึง พ.ศ. 2529 รวม 3 สมัย [3]

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แก้

วาสนา บุญภูพันธ์ตันติ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 3 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2522 จังหวัดกระบี่ สังกัดพรรคกิจสังคม
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 จังหวัดกระบี่ สังกัดพรรคกิจสังคม
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2529 จังหวัดกระบี่ สังกัดพรรคกิจประชาคม

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. ภาพและประวัติสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. 2529. สำนักงานเลขารัฐสภา. 2529
  2. นักการเมืองถิ่นจังหวัดกระบี่. กรวิทย์ เกาะกลาง สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า. 2555
  3. ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๒๔๗ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๓, ๑ ธันวาคม ๒๕๓๐
  5. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๓ ตอนที่ ๒๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๑๒, ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๙