วัยเด็ก
วัยเด็ก คือวัยที่มีระยะช่วงเวลาตั้งแต่การเกิดจนถึงวัยรุ่น ในทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ได้กำหนดวัยเด็กคือช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 10 ปี ตามกระบวนการพัฒนาการสมองของมนุษย์ที่จะเกิดขึ้น สองช่วงเวลาคือ ตอนอายุ 10 ปี และตอนอายุ 25 ปี เป็นเกณฑ์การแบ่งช่วงวัย วัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ คือ ตั้งแต่ 10 ลงมาถือว่าเป็นวัยเด็ก ตั้งแต่ 11 ถึง 25 เป็นวัยรุ่น และตั้งแต่ 26 ขึ้นไปเป็นวัยผู้ใหญ่
ตามทฤษฎีการเจริญการรู้ของปียาแฌ (Piaget's theory of cognitive development) วัยเด็กประกอบด้วยสองขั้น คือ ขั้นก่อนดำเนินการ (preoperational stage) และขั้นดำเนินการรูปธรรม (concrete operational stage)
ในจิตวิทยาการเจริญ (developmental psychology) วัยเด็กแบ่งเป็นขั้นการเจริญวัยได้แก่ วัยเด็กตอนต้น(หัดเดิน) วัยเด็กตอนกลาง (วัยเล่น) วัยเด็กตอนปลาย(วัยเรียน)
พัฒนาการด้านร่างกาย (Physical Development)
แรกเกิด - 1 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง และขนาดศีรษะ เด็กจะเริ่มควบคุมกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น การพลิกคว่ำ คลาน นั่ง ยืน และเดิน เมื่ออายุใกล้ 1 ขวบจะเริ่มใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับสิ่งของ
1 - 3 ปี การเดินจะคล่องแคล่วขึ้น เริ่มวิ่ง กระโดดปีนป่ายได้ดีขึ้น สามารถใช้มือและนิ้วมือได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น เช่น การขีดเขียน ต่อบล็อก กินอาหารด้วยตัวเอง
3 - 5 ปี พัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็กจะประสานงานกันได้ดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ขี่จักรยานสามล้อ วาดรูป ระบายสี ตัดกระดาษ
6 - 10 ปี การเจริญเติบโตทางร่างกายจะช้าลงแต่สม่ำเสมอ ความแข็งแรงและความคล่องแคล่วเพิ่มขึ้น สามารถเล่นกีฬาและทำกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น
พัฒนาการด้านสติปัญญา (Cognitive Development)
แรกเกิด - 2 ปี (Sensory-Motor Stage) เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว เริ่มเข้าใจเรื่องความคงอยู่ของวัตถุ (Object Permanence) คือรู้ว่าวัตถุยังคงมีอยู่แม้จะมองไม่เห็น
2 - 7 ปี (Preoperational Stage) พัฒนาการด้านภาษาและสัญลักษณ์ เริ่มใช้คำพูดและจินตนาการในการเล่น มีความคิดแบบอัตตาเข้าข้างตนเอง (Egocentrism) และยังไม่เข้าใจแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์ (Conservation) เช่น มองว่าน้ำในแก้วสูงมีปริมาณมากกว่าน้ำในแก้วเตี้ยแม้จะมีปริมาตรเท่ากัน
7 - 10 ปี (Concrete Operational Stage) เริ่มคิดเชิงตรรกะเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นรูปธรรม เข้าใจแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์ การจัดหมวดหมู่ และการเรียงลำดับได้ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมได้
10 ปีขึ้นไป (Formal Operational Stage) (เริ่มในช่วงปลายของวัยนี้ หลังสมองพัฒนาการเป็นสมองของวัยรุ่นแล้ว) สามารถคิดเชิงนามธรรม คิดอย่างมีเหตุผลเป็นระบบ และเข้าใจแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และปรัชญาที่ซับซ้อนได้
พัฒนาการด้านภาษา (Language Development)
แรกเกิด - 1 ปี เริ่มจากการส่งเสียงอ้อแอ้ (Cooing) และหัดพูดพยางค์ซ้ำๆ (Babbling) เข้าใจคำสั่งง่ายๆ และเริ่มพูดคำแรกที่มีความหมายได้
1 - 3 ปี คำศัพท์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มสร้างประโยคสั้นๆ และเข้าใจคำถามง่ายๆ
3 - 5 ปี สามารถใช้ประโยคที่ซับซ้อนขึ้น เล่าเรื่องราวสั้นๆ และถามคำถามได้มากขึ้น
6 - 10 ปี มีคำศัพท์ที่หลากหลายขึ้น สามารถเข้าใจและใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว อ่านและเขียนได้
พัฒนาการด้านสังคม (Social Development)
แรกเกิด - 1 ปี ผูกพันกับผู้ดูแล แสดงความสุขเมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่ และเริ่มแสดงความแปลกหน้าเมื่อเจอคนที่ไม่คุ้นเคย
1 - 3 ปี เริ่มสนใจเด็กคนอื่นๆ แต่ยังเล่นคนเดียวหรือเล่นคู่ขนาน (Parallel Play) เรียนรู้กฎเกณฑ์ง่ายๆ และเริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเอง
3 - 5 ปี เล่นร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ได้ดีขึ้น (Cooperative Play) เรียนรู้การแบ่งปัน การรอคอย และการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างง่ายๆ
6 - 10 ปี มีความสัมพันธ์กับเพื่อนมากขึ้น เข้าใจกฎเกณฑ์ทางสังคมที่ซับซ้อนขึ้น และเริ่มมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
พัฒนาการด้านอารมณ์ (Emotional Development)
แรกเกิด - 1 ปี แสดงอารมณ์พื้นฐาน เช่น ความสุข ความเศร้า ความโกรธ และความกลัว เรียนรู้ที่จะตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้ดูแล
1 - 3 ปี เริ่มแสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ความอิจฉา ความภาคภูมิใจ และความละอาย เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองบ้าง
3 - 5 ปี เข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น สามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
6 - 10 ปี พัฒนาความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเข้าใจในคุณค่าของตนเอง และสามารถจัดการกับความเครียดและความผิดหวังได้ดีขึ้น ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการ
พันธุกรรม มีบทบาทในการกำหนดศักยภาพพื้นฐานของเด็ก
สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู อาหาร สุขภาพ การศึกษา และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ล้วนมีผลต่อพัฒนาการของเด็ก
ประสบการณ์ที่หลากหลายและเหมาะสมจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการในทุกด้าน
ปัจจัยวัยเด็กหลายอย่างสามารถส่งผลต่อการก่อเจตคติของบุคคล
พัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละช่วงวัย