วัดกะพังสุรินทร์

วัดในจังหวัดตรัง

วัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันมีสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เป็นเจ้าอาวาส

วัดกะพังสุรินทร์
แผนที่
ชื่อสามัญวัดกะพังสุรินทร์
ที่ตั้งตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
ประเภทพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
นิกายเถรวาท (มหานิกาย)
เจ้าอาวาสสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) เจ้าคณะใหญ่หนใต้
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

ประวัติ

แก้

วัดกะพังสุรินทร์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2440 โดยมี นายเส ซึ่งเป็นคหบดีในละแวกนั้นเป็นผู้นำบริจาคโดยครั้งแรกจำนวน 20 ไร่ ต่อมาได้ซื้อเพิ่มเติม วัดกะพังสุรินทร์เดิมชื่อ วัดกะพัง ตามชื่อสระใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงและเนื่องจากพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ชายเนินเตี้ย ๆ ลาดเอียงจากทิศเหนือไปสู่ทุ่งนาอยู่ใกล้หนองน้ำที่เรียกว่า "สระกะพัง” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดกะพังสุรินทร์ ตามชื่อ พระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ผู้ปรับปรุงสระกะพังให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ วัดกะพังสุรินทร์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2480 และผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบ ภายในวัดมีพระอุโบสถ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมท้องถิ่นภาคใต้ เสาไม้ฝาก่ออิฐถือปูน หลังคาหน้าจั่วต่างๆ ระดับสองชั้น ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที 17 มีนาคม พ.ศ. 2542 และในปีพ.ศ. 2549 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี[1] วัดกะพังสุรินทร์เป็นที่ตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมสหประชาสรรค์ และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เจ้าอาวาสรูปแรกคือ พระครูวิเชียร ปัจจุบันมีสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) เป็นเจ้าอาวาสและดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้ พระราชวรากร (สงบ วรเสวี) เป็นรองเจ้าอาวาส และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดตรัง[2]

สิ่งก่อสร้างภายในวัด

แก้

พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมท้องถิ่นภาคใต้ เสาไม้ฝาก่ออิฐถือปูน หลังคาหน้าจั่วต่างๆ ระดับสองชั้น กว้าง 9.50 เมตร ยาว 15.40 เมตร วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2480 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 24 เมตร ยาว 36 เมตร อุโบสถถูกสร้างขึ้นในสมัยพระอธิการแย้มเป็นเจ้าอาวาส และสร้างเรื่อยมาจนถึงพระอธิการเพื่อม ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีกุน (ปีนี้เป็นอธิกมาส) โครงสร้างเสาไม้ ฝาผนังหล่อปูน หลังคา 2 ชั้น มุงกระเบื้องปูนชนิด 4 เหลี่ยม ต่อมาชำรุดไปตามกาลเวลา ซึ่งในปี พ.ศ. 2525 บูรณะเสียใหม่ในส่วนหลังคาในสมัยสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (ครั้งดำรงสมณศกดิ์ที่พระปิฎกคุณาภรณ์) เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2525 รูปทรงยังคงรูปเดิมไว้ กระเบื้องหลังคาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องลอนเล็กใช้มาจนถึงปัจจุบัน เพราะความเก่าแก่มานาน กรมศิลปากรจึงขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2542[3] มีพื้นที่ 1 งาน 94 ตารางวา

ศาลาการเปรียญ กว้าง 11 เมตร ยาว 18 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2495 สมัยพระอธิการเพื่อม เป็นเจ้าอาวาส โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้งานมาเป็นเวลาหลายปีจนชำรุดไปตามสภาพ ต่อมาภายหลังสมัยสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เป็นเจ้าอาวาส รื้อออกสร้างใหม่ในนามเดิม กว้าง 17 เมตร ยาว 28 เมตร เป็นอาคาร 2 ชั้น[4]

อ้างอิง

แก้
  1. วัดกะพังสุรินทร์ จาก ฐานข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้ของสำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  2. วัดกะพังสุรินทร์[ลิงก์เสีย] สูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
  3. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนพิเศษ 17 ง วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2542
  4. "มารู้จักแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมะวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-03-03.