โรเบิร์ต เบเดน โพเอลล์ บารอนที่ 1 เบเดน โพเอลล์

(เปลี่ยนทางจาก ลอร์ดเบเดน โพเอลล์)

โรเบิร์ต สตีเฟนสัน สไมธ์ เบเดน โพเอลล์ หรือ บี.พี. (22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1857 - 8 มกราคม ค.ศ. 1941) เป็นผู้ให้กำเนิดกิจการลูกเสือ

ลูกเสือ แก้

ปี ค.ศ. 1912 บี.พี. เดินทางรอบโลกไปพบปะกับลูกเสือในประเทศต่าง ๆ และเริ่มต้นเสริมสร้างการเป็นพี่น้องกันของลูกเสือทั่วโลก น่าเสียดายที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้งานนี้ต้องหยุดชงักลงชั่วขณะ แต่ก็เริ่มสานต่อหลังจากสงครามสิ้นสุดลง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1920 ก็ได้จัดให้มีการชุมนุมลูกเสือระหว่างประเทศขึ้นในกรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นการชุมนุมลูกเสือโลกเป็นครั้งแรก และในคืนวันสุดท้ายของการชุมนุม บรรดาลูกเสือที่เข้าร่วมชุมนุมก็ร่วมกันประกาศให้ บี.พี. ดำรงตำแหน่งประมุขของคณะลูกเสือโลก และเมื่อกิจการลูกเสือดำเนินมาครบ 21 ปี สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ก็ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ท่านเป็นขุนนาง มีชื่อยศว่า Lord Baden Powell of Gilwell เมื่อ บี.พี. มีอายุครบ 80 ปี กำลังของท่านก็เริ่มทรุดลง ท่านได้กลับไปพักผ่อนในช่วงบั้นปลายชีวิตในแอฟริกาที่ท่านรัก และถึงแก่กรรมในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1941 เมื่อมีอายุ 84 ปี

  • ค.ศ. 1907 - มีการเข้าค่ายพักแรมลูกเสือเป็นครั้งแรก ที่เกาะบราวซี
  • ค.ศ. 1908 - หนังสือ Scoutting for Boys ตีพิมพ์ และเริ่มกำเนิดกองลูกเสือขึ้นในหลายประเทศ
  • ค.ศ. 1909 - จัดตั้งสำนักงานลูกเสืออังกฤษ และมีการชุมนุมลูกเสือสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก
  • ค.ศ. 1910 - จัดตั้งกองลูกเสือหญิง (Birl Guide) โดยมีแอกนีส น้องสาวของ บี.พี. เป็นหัวหน้า
  • ค.ศ. 1911 - จัดตั้งกองลูกเสือสมุทร
  • ค.ศ. 1912 - บี.พี. เดินทางไปเยี่ยมลูกเสือในประเทศต่าง ๆ รอบโลก
  • ค.ศ. 1914 - เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 บี.พี. มอบลูกเสือให้ทำหน้าที่ช่วยทหาร เช่น รักษาสะพาน และสายโทรศัพท์ ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว ช่วยงานในโรงพยาบาล
  • ค.ศ. 1916 - จัดตั้งกองลูกเสือสำรอง
  • ค.ศ. 1918 - จัดตั้งกองลูกเสือวิสามัญ (Rover Scout)
  • ค.ศ. 1919 - ตั้งกิลเวลล์ปาร์ด และเริ่มดำเนินการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือขั้นวูดแบดจ์
  • ค.ศ. 1920 - มีการชุมนุมลูกเสือโลกครั้งแรกที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และ บี.พี. ได้รับเลือกให้เป็นประมุขของคณะลูกสือโลก
  • ค.ศ. 1922 - บี.พี. เขียนหนังสือ "Rovering to Success" หรือ "การท่องเที่ยวสู่ความสำเร็จ" ซึ่งเป็นคู่มือสำหรับลูกเสือวิสามัญ
  • ค.ศ. 1926 - จัดตั้งกองลูกเสือพิการ
  • ค.ศ. 1937 - บี.พี. ได้รับพระราชธานบรรดาศักดิ์เป็น Lord Baden Powell of Gilwell
  • ค.ศ. 1941 - บี.พี. ถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้ 84 ปี

ประวัติ แก้

เบเดน โพเอลล์ เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1857 ที่กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เขาเป็นลูกของ เอช.จี.เบเดน และ เฮนริเอทต้า เกรซ โพเอลล์ (สไมธ์) เป็นธิดาของดับเบิลยู.ที.สไมธ์ พลเรือเอกแห่งราชนาวี

เมื่อ โพเอลล์อายุ 11-12 ปี เขาได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนประถมชื่อโรวฮิลล์และเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมชื่อชาเตอร์เฮาส์ ได้ 2 ปี ต่อมาโรงเรียนได้ย้ายไปตั้งอยู่ในชนบท ณ เมืองโกคาลมิง เขามักใช้เวลาว่างเข้าไปใช้ชีวิตและศึกษาธรรมชาติในป่าโดยลำพัง

ชีวิตวัยเด็กของโพเอลล์ได้รับความรู้เรื่องการว่ายน้ำ เล่นสเกต ขี่ม้า วัดแดดและดูดาว และนอกจากนี้เขายังชอบการวาดรูป ร้องเพลงและแสดงละคร

ปีสุดท้ายที่โพเอลล์เรียนอยู่ที่ชาเตอร์เฮาส์ เขาได้ไปสมัครสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดถึงสองครั้ง แต่สอบไม่ได้ ในปี 1876 เขาสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิสต์ ได้ที่ 5 และได้รับแต่งตั้งเป็นนายร้อยตรีในกองทัพบกสหราชอาณาจักร และถูกส่งไปประจำการที่บริติชราช เมื่ออายุ 19 ปี

ชีวิตราชการทหารของโพเอลล์ส่วนใหญ่อยู่ในบริติชราชและทวีปแอฟริกา มีสิ่งที่ประทับใจที่เกี่ยวกับกิจการลูกเสือ ในการล่าอาณานิคมของบริเตนหลายครั้ง เช่น

  • ครั้งที่ 1 ค.ศ. 1888 ได้ไปปราบชนเผ่าซูลู ในแอฟริกาใต้จนสำเร็จ
  • ครั้งที่ 2 ค.ศ. 1889 ที่เกาะมอลต้า บี.พีได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยทูตทหาร ทำหน้าที่เป็นทหารสืบราชการลับ
  • ครั้งที่ 3 ค.ศ. 1895 ทำการรบกับเผ่าอาซันติ ซึ่งมีกษัตริย์ชื่อว่าคิงเปรมเปห์ และเขาได้รับชัยชนะ
  • ครั้งที่ 4 ค.ศ. 1896 ได้ไปปราบพวกกบฏมาตาบิลีซึ่งเป็นเผ่าหนึ่งของซูลู
  • ครั้งที่ 5 ค.ศ. 1899 โพเอลล์ได้นำกองทัพไปป้องกันการรุกรานของพวกบัวร ที่เมืองมาฟอีคิง จึงมีกองทัพใหญ่ไปช่วย จนพวกบัวร์ต้องล่าถอยไป ในการป้องกันเมืองมาฟอีคิงเขาได้ใช้เด็กอาสาสมัครทำหน้าที่ส่งข่าว ซึ่งเด็กก็ทำหน้าที่ได้ดี ทำให้เขาประทับใจในตัวเด็ก

ใน ค.ศ. 1908 โพเอลล์ได้ริเริ่มก่อตั้งกองลูกเสือขึ้นสำหรับเด็กชาย ต่อมาเขาได้สมรสกับโอลาฟ เบเดน โพเอลล์ ซึ่งมีอายุอ่อนกว่ากัน 32 ปี ในปี 1912 ต่อมา เขาได้มีส่วนสำคัญในก่อตั้งกิจการผู้บำเพ็ญประโยชน์ สำหรับเด็กหญิง ร่วมกับน้องสาวของ บี.พี. คือ แอกเนส

เมื่อโพเอลล์มีอายุ 80 ปี ได้เดินทางกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในแอฟริกา เพื่อพักผ่อนในช่วงสุดท้ายของชีวิต ที่บริติชเคนย่า เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1941 สิริอายุ 83 ปี

1957