รายการฤดูกาลของสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

บทความรายชื่อวิกิมีเดีย

ฤดูกาลของสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรจนถึงปัจจุบัน

นัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ปี 1905 กับแอสตันวิลลา

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1881 ทีมคริกเก็ตสแตนลีย์ได้ตัดสินใจตั้งทีมฟุตบอลขึ้น เพื่อลงเล่นในช่วงที่ฤดูกาลแข่งขันคริกเก็ตปิดตัวลงในฤดูหนาว พวกเขาชนะเกมแรกที่ลงแข่งขันด้วยสกอร์ 5-0 โดยมีคู่แข่งเป็นทีมเอลสวิกเลเธอร์เวิร์คส์ชุดสำรอง หนึ่งปีต่อมา ทีมก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์

ขณะเดียวกัน ทีมคริกเก็ตอีกทีมหนึ่งในย่านเดียวกันก็ได้เริ่มสนใจที่จะตั้งทีมฟุตบอล จนกระทั่งมีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ขึ้น ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1882 โดยในช่วงแรกนั้น พวกเขาใช้สนามคริกเก็ตเดิมเป็นสนามเหย้า ก่อนที่จะย้ายไปลงเตะในเซนต์เจมส์พาร์ก

หลังจากนั้น ได้มีการจัดตั้งฟุตบอลลีกท้องถิ่นขึ้นในปี ค.ศ. 1889 การที่มีลีกอาชีพในบริเวณใกล้เคียงให้ลงเตะ ประกอบกับความสนใจในถ้วยเอฟเอคัพ ทำให้นิวคาสเซิลอีสต์เอนด์เปลี่ยนจากทีมสมัครเล่นมาเป็นทีมอาชีพในปีเดียวกันนั้นเอง แต่ทว่าทางฝั่งนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์กลับล้มเหลวที่จะตามรอยทีมเพื่อนบ้านสู่สถานะทีมฟุตบอลอาชีพ จนกระทั่งในช่วงต้นปี ค.ศ. 1892 ผู้บริหารของนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ได้ตัดสินใจที่จะขอเข้าควบกิจการกับนิวคาสเซิล อีสต์ เอนด์ เพื่อมิให้ทีมต้องยุบตัวลงโดยสิ้นเชิง

การควบกิจการเป็นไปด้วยดี ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1892 ชื่อ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ก็ถูกเลือกให้เป็นชื่อใหม่ของทีม

นิวคาสเซิลสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศมาครองได้ถึงสามสมัยในช่วงทศวรรษ 1900s และยังเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพถึง 5 ครั้งใน 7 ฤดูกาล แต่สามารถเป็นแชมป์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในปี 1910 หลังจากเอาชนะบาร์นสลีย์ไปได้ในการเตะนัดรีเพลย์ที่กูดิสันพาร์ก

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้อีกสมัยโดยการเอาชนะแอสตันวิลลาในรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ นอกจากนั้น นิวคาสเซิลยังเป็นแชมป์ลีกได้อีกหนึ่งสมัยในปี 1927 อีกด้วย

ในช่วงทศวรรษ 1950s นิวคาสเซิลเป็นแชมป์เอฟเอคัพถึง 3 สมัยในช่วงเวลา 5 ปี โดยเอาชนะแบล็กพูล 2-0 ในปี 1951 ชนะอาร์เซนอล 1-0 ในปี 1952 และชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-1 ในปี 1955 โดยทีมนิวคาสเซิลในยุคนั้น มีผู้เล่นชื่อดังอยู่หลายคนด้วยกัน เช่น แจคกี มิลเบิร์น, บ็อบบี มิทเชลล์, และสแตน เซมัวร์

หลังจากตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชันสองอยู่ชั่วขณะ นิวคาสเซิลที่นำโดยผู้จัดการทีม โจ ฮาร์วีย์ ก็ได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดในปี 1965 แต่ทว่าฟอร์มของพวกเขาหลังจากนั้นไม่สม่ำเสมอนัก

ทีมของฮาร์วีย์สามารถทำอันดับผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปครั้งแรกในปี 1968 ก่อนจะคว้าแชมป์ถ้วยอินเตอร์-ซิตีส์ แฟร์ส คัพ (หรือถ้วยยูฟ่าคัพในปัจจุบัน) ไปครองอย่างเหนือความคาดหมายในปีถัดมา โดยสามารถเอาชนะทีมใหญ่ในยุโรปของยุคนั้นไปได้หลายราย ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ติง ลิสบอน, เฟเยนูร์ด รอตเตอร์ดัม หรือ รีล ซาราโกซา และปิดท้ายด้วยการคว่ำทีมอุจเพสท์จากฮังการีในรอบชิงชนะเลิศ

นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา นิวคาสเซิลมักจะมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้แก่ผู้เล่นกองหน้าชื่อดังประจำทีม โดยประเพณีนี้ยังคงตกทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับในช่วงเวลานั้น ผู้เล่นที่ได้ใส่เสื้อหมายเลข 9 มีหลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น วิน เดวีส์, ไบรอัน ร็อบสัน, บ็อบบี มอนเคอร์ หรือ แฟรงค์ คลาร์ก

หลังจากประสบความสำเร็จในฟุตบอลสโมสรยุโรป ฮาร์วีย์ก็ได้ดึงตัวผู้เล่นเกมรุกชื่อดังมากมายเข้ามาร่วมทีม นับตั้งแต่ จิมมี สมิธ, โทนี กรีน และเทอร์รี ฮิบบิทท์ ไปจนถึงยอดศูนย์หน้าอย่าง มัลคอล์ม แมคโดแนลด์ เจ้าของฉายา 'ซูเปอร์แมค' ผู้เป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร แมคโดแนลด์พานิวคาสเซิลเข้าชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัพและลีกคัพกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ซิตีในปี 1974 และ 1976 ตามลำดับ แต่พลพรรคแม็กพายส์กลับล้มเหลวในรอบชิงทั้งสองครั้ง

ในช่วงต้นทศวรรษ 1980s นิวคาสเซิลอยู่ในช่วงตกต่ำ โดยได้ตกชั้นลงไปเล่นอยู่ในดิวิชัน 2 อยู่เป็นเวลาหลายปี ก่อนที่ผู้จัดการทีมอาร์เธอร์ ค็อกซ์จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยมีเควิน คีแกน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเป็นแกนหลัก จนกระทั่งได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด

หลังจากนั้น นิวคาสเซิลเล่นอยู่ในดิวิชัน 1 จนกระทั่งพวกเขาตกชั้นอีกครั้งในปี 1989

ในปี 1992 เควิน คีแกนได้กลับคืนสู่นิวคาสเซิลอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม เมื่อเขาตอบรับสัญญาระยะสั้น เข้ามาคุมทีมแทนออสซี อาร์ดิเลส ตัวคีแกนเองนั้นกล่าวว่า งานคุมทีมนิวคาสเซิลเป็นงานเดียวเท่านั้น ที่สามารถทำให้เขาหวนคืนสู่วงการฟุตบอลได้ ในขณะนั้น นิวคาสเซิลกำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่ในดิวิชัน 2 ถึงแม้ว่าจะเพิ่งถูกซื้อกิจการโดยเซอร์ จอห์น ฮอลล์ไปไม่นานก็ตาม

ในฤดูกาลนั้น นิวคาสเซิลสามารถหนีรอดพ้นการตกชั้นไปได้ โดยเปิดบ้านเอาชนะปอร์ทสมัธก่อนจะบุกไปเอาชนะเลสเตอร์ซิตีในสองเกมสุดท้ายของฤดูกาล

ในฤดูกาลถัดมา (1992-93) ฟอร์มของนิวคาสเซิลเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ พวกเขาเล่นฟุตบอลเกมรุกแบบตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งคว้าชัยชนะในเกมลีก 11 นัดแรก ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ดิวิชัน 1 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกด้วยชัยชนะเหนือกริมสบี ทาวน์ 2-0

นิวคาสเซิลประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดภายใต้การคุมทีมของคีแกน พวกเขาจบฤดูกาล 1993-94 ที่อันดับ 3 และได้รับการตั้งฉายาโดยสื่อมวลชนอังกฤษว่าเป็น "The Entertainers"

ในปีถัดมา นิวคาสเซิลจบฤดูกาลที่อันดับ 6 หลังจากที่ช็อกแฟนบอลด้วยการขายกองหน้าจอมถล่มประตู แอนดี โคล ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์บวกกับคีธ กิลเลสพี ปีกขวาดาวรุ่งชาวไอริช

ในปี 1995-96 นิวคาสเซิลเสริมทีมครั้งใหญ่ โดยดึงตัวผู้เล่นชื่อดังเช่นดาวีด ฌีโนลาและเลส เฟอร์ดินานด์มาร่วมทีม พวกเขาเกือบที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ แต่ก็ทำได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ ทั้งที่ในช่วงคริสต์มาส พวกเขาทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถึง 12 คะแนน เกมที่นิวคาสเซิลพ่ายให้กับลิเวอร์พูลไป 3-4 ที่สนามแอนฟิลด์ในฤดูกาลนี้ ได้รับการโหวตให้เป็นเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว

นิวคาสเซิลเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 2 อีกครั้งในปีถัดมา แม้ว่าจะทำการเซ็นสัญญากองหน้าทีมชาติอังกฤษ แอลัน เชียเรอร์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก 15 ล้านปอนด์ สำหรับฤดูกาล 1996-97 นี้ เป็นที่จดจำของแฟนบอลหลายคน เนื่องจากนิวคาสเซิลได้ถล่มเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์ถึง 5-0 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1996

คีแกนลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมในเดือนมกราคม ปี 1997 และถูกแทนที่โดยเคนนี ดัลกลิช ซึ่งได้รับเลือกเพื่อมาช่วยแก้ปัญหาเกมรับของทีม ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปี 1997-98 ดัลกลิชพานิวคาสเซิลเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และพ่ายต่ออาร์เซนอลในรอบชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัพไป 0-2 หลังจากนั้น แฟนบอลก็เริ่มที่จะไม่พอใจกับสไตล์การทำทีมที่เน้นเกมรับของดัลกลิช เมื่อบวกกับผลงานที่ตกต่ำลงของทีม เป็นผลให้ดัลกลิชถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงต้นฤดูกาล 1998-99

รืด คึลลิตก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมต่อจากดัลกลิช และพาทีมเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้ง ก่อนจะพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปในที่สุด แต่คึลลิตได้ทำการซื้อตัวผู้เล่นราคาแพงหลายคนที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในพรีเมียร์ลีก เช่นมาร์เซลิโน กองหลังชาวสเปน และซิลวิโอ มาริช มิดฟิลด์โครเอเชีย นอกจากนี้คึลลิตยังมีปากเสียงกับผู้เล่นคนสำคัญหลายคนในทีม ทั้งหมดนี้ประกอบกับการเริ่มต้นฤดูกาล 1999-2000 ได้อย่างเลวร้าย ทำให้คึลลิตถูกกดดันให้ลาออกไป

นิวคาสเซิลตัดสินใจแต่งตั้งเซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชาวจอร์ดี เข้ามากู้สถานการณ์ของทีม ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในโซนตกชั้น เกมเหย้าเกมแรกของนิวคาสเซิลภายใต้ร็อบสันจบลงด้วยชัยชนะ 8-0 เหนือเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ พร้อมทั้ง 5 ประตูจากกัปตันทีมแอลัน เชียเรอร์ ในช่วงที่ร็อบสันคุมทีม นิวคาสเซิลได้สร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยอาศัยนักเตะดาวรุ่งเป็นแกนหลัก ผู้เล่นอย่างคีรอน ดายเออร์, เคร็ก เบลลามี่ และโลรองต์ โรแบร์ ทำให้นิวคาสเซิลกลับมาเป็นทีมระดับหัวแถวของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ฟุตบอลเกมรุกอันน่าตื่นเต้นของพวกเขาทำให้นิวคาสเซิลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2001-02 จนได้กลับเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และได้เข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของถ้วยเอฟเอคัพและลีกคัพ

ในฤดูกาล 2002-03 นิวคาสเซิลได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นทีมแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่แพ้ในรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกมแรกแล้วยังสามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ก่อนจะตกรอบแบ่งกลุ่มรอบสอง หลังจากถูกจับฉลากแบ่งสายไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลนาและอินเตอร์ มิลาน ส่วนผลงานในพรีเมียร์ลีกนั้น นิวคาสเซิลก็ยังคงทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอ จนจบฤดูกาลในอันดับที่ 3

ต่อมาในฤดูกาล 2003-04 นิวคาสเซิลตกรอบคัดเลือกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกหลังพ่ายในการดวลจุดโทษให้กับพาร์ทิซาน เบลเกรด จนต้องตกลงไปเล่นในถ้วยยูฟ่าคัพแทน นิวคาสเซิลจบฤดูกาลในอันดับที่ 5 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศถ้วยยูฟ่าคัพ

นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2008-09 นิวคาสเซิลบุกไปแพ้แอสตันวิลลา 1-0 ที่วิลลาพาร์ก ทำให้ทีมต้องตกชั้นสู่เดอะแชมเปียนชิพด้วยอันดับ 18 ของตาราง หลังจากตกชั้นได้ไม่นานแอลัน เชียเรอร์ ก็หมดสัญญาคุมทีม โดยมีคริส ฮิวจ์ตัน ทำหน้าที่รักษาการแทน หลังจากนั้นทีมต้องเสียนักเตะอย่าง ไมเคิล โอเวน, มาร์ค วิดูกา, เดวิด เอ็ดการ์, โอบาเฟมี มาร์ตินส์ และเซบาสเตียน บาสซง

ฤดูกาล แก้

ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ คอมมูนิตีชิลด์ ยุโรป ดาวซัลโว
ดิวิชัน แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย คะแนน อันดับ ชื่อ ประตู
1892–93 North 10 5 1 4 30 19 11 2nd R1 แจ็ก เซย์เลย์ 7
1893–94 Div 2 28 15 6 7 66 39 36 4th R2 โจเซฟ วัลเลซ 17
1894–95 Div 2 30 12 3 15 72 84 27 10th R2 วิลลี ทอมสัน 18
1895–96 Div 2 30 16 2 12 73 50 34 5th R2 วิลลี วาร์ดโรป 20
1896–97 Div 2 30 17 1 12 56 52 35 5th R1 Richard Smellie 15
1897–98 Div 2 30 21 3 6 64 32 45 2nd R2 แจ็ก เพ็ดดี 18
1898–99 Div 1 34 11 8 15 49 48 30 13th R2 แจ็ก เพ็ดดี 20
1899–1900 Div 1 34 13 10 11 53 53 36 5th R2 แจ็ก เพ็ดดี 16
1900–01 Div 1 34 14 10 10 42 37 38 6th R1 แจ็ก เพ็ดดี 16
1901–02 Div 1 34 14 9 11 48 34 37 3rd QF ริชาร์ด โรเบิร์ต 12
1902–03 Div 1 34 14 4 16 41 51 32 14th R1 บ็อบ แม็คโคล 10
1903–04 Div 1 34 18 6 10 58 45 42 4th R1 บิลล์ แอปเปิลยาร์ด 16
1904–05 Div 1 34 23 2 9 72 33 48 1st RU จิมมี ฮาร์วีย์ 18
1905–06 Div 1 38 18 7 13 74 48 43 4th RU โรนัล ออร์ 21
1906–07 Div 1 38 22 7 9 74 46 51 1st R1 บิลล์ แอปเปิลยาร์ด 18
1907–08 Div 1 38 15 12 11 65 54 42 4th RU บิลล์ แอปเปิลยาร์ด 22
1908–09 Div 1 38 24 5 9 65 41 53 1st SF อัลแบร์ เชพเพิร์ด 15
1909–10 Div 1 38 19 7 12 70 56 45 4th W W อัลแบร์ เชพเพิร์ด 31
1910–11 Div 1 38 15 10 13 61 43 40 8th RU อัลแบร์ เชพเพิร์ด 33
1911–12 Div 1 30 18 8 12 64 50 44 3rd R1 บิลลี ฮิปเบิร์ต
จิมมี สจวตต์
14
1912–13 Div 1 38 13 8 17 47 47 34 14th QF จิมมี สจวตต์ 9
1913–14 Div 1 38 13 11 14 39 48 37 11th R1 อัลแบร์ เชพเพิร์ด 10
1914–15 Div 1 38 11 10 17 46 48 32 15th QF บิลลี ฮิปเบิร์ต 16
ไม่มีการแข่งขันระหว่างปี 1915 และ 1919 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
1919–20 Div 1 42 17 9 16 44 39 43 8th R2 Andy Smailes 10
1920–21 Div 1 42 20 10 12 66 45 50 5th R3 นีลล์ แฮร์ริส 19
1921–22 Div 1 42 18 10 14 59 45 46 7th R2 นีลล์ แฮร์ริส 23
1922–23 Div 1 42 18 12 12 45 37 48 4th R1 ทอม แม็คโดนัลล์ 15
1923–24 Div 1 42 17 10 15 60 54 44 9th W นีลล์ แฮร์ริส 23
1924–25 Div 1 42 16 16 10 61 42 48 6th R2 นีลล์ แฮร์ริส 20
1925–26 Div 1 42 16 10 16 84 75 42 10th R5 Hughie Gallacher 25
1926–27 Div 1 42 25 6 11 96 58 67 1st R5 Hughie Gallacher 39
1927–28 Div 1 42 15 13 14 79 81 43 9th R3 Hughie Gallacher 21
1928–29 Div 1 42 19 6 17 70 72 44 10th R3 Hughie Gallacher 24
1929–30 Div 1 42 15 7 20 71 92 37 19th QF Hughie Gallacher 34
1930–31 Div 1 42 15 6 21 78 87 36 17th R4 ดันแคน ฮัตชินสัน 14
1931–32 Div 1 42 18 6 18 80 87 42 11th W จิมมี บอยด์ 23
1932–33 Div 1 42 22 5 15 71 63 49 5th R3 RU แจ็ก อัลเลน 19
1933–34 Div 1 42 10 14 18 68 77 34 21st R3 แซม แวร์เวอร์ 14
1934–35 Div 2 42 22 4 16 89 68 48 6th R4 แจ็ก สมิธ 16
1935–36 Div 2 42 20 6 16 88 79 46 8th R5 แจ็ก สมิธ 26
1936–37 Div 2 42 22 5 15 80 56 49 4th R3 แจ็ก สมิธ 24
1937–38 Div 2 42 14 8 20 51 58 36 19th R3 Bill Imrie
John Park
9
1938–39 Div 2 42 18 10 14 61 48 46 9th R5 Billy Cairns 20
ไม่มีการแข่งขันระหว่างปี 1939 และ 1946 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
1945–46 R3 แจ็กกี มิลเบิร์น 2
1946–47 Div 2 42 19 10 13 95 62 48 5th SF Charlie Wayman 34
1947–48 Div 2 42 24 8 10 72 41 56 2nd R3 แจ็กกี มิลเบิร์น 20
1948–49 Div 1 42 20 12 10 70 56 52 4th R3 แจ็กกี มิลเบิร์น 19
1949–50 Div 1 42 19 12 11 77 55 50 5th R4 แจ็กกี มิลเบิร์น 21
1950–51 Div 1 42 18 13 11 62 53 49 4th W แจ็กกี มิลเบิร์น 25
1951–52 Div 1 42 18 9 15 98 73 45 8th W RU George Robledo 39
1952–53 Div 1 42 14 9 19 59 70 37 16th R4 RU George Robledo 18
1953–54 Div 1 42 14 10 18 72 77 38 15th R5 แจ็กกี มิลเบิร์น 18
1954–55 Div 1 42 17 9 16 89 77 43 8th W บ็อบบี มิตเชล 23
1955–56 Div 1 42 17 7 18 85 70 41 11th QF RU วิก คีเบิล 29
1956–57 Div 1 42 14 8 20 67 87 36 17th R4 เร็ก ดาวีย์
เลน ไวท์
13
1957–58 Div 1 42 12 8 22 73 81 32 19th R4 เลน ไวท์ 25
1958–59 Div 1 42 17 7 18 80 80 41 11th R3 เลน ไวท์ 25
1959–60 Div 1 42 18 8 16 82 78 44 8th R3 เลน ไวท์ 29
1960–61 Div 1 42 11 10 21 86 109 32 21st QF R1 เลน ไวท์ 29
1961–62 Div 2 42 15 9 18 64 58 39 11th R3 R2 Ivor Allchurch 11
1962–63 Div 2 42 18 11 13 79 59 47 7th R4 R2 จิมมี เฟล
บาร์รี โธมัส
16
1963–64 Div 2 42 20 5 17 74 69 45 8th R3 R3 บาร์รี โธมัส 21
1964–65 Div 2 42 24 9 9 81 45 57 1st R3 R2 Ron McGarry 16
1965–66 Div 1 42 14 9 19 50 63 37 15th R4 R2 Alan Suddick 15
1966–67 Div 1 42 12 9 21 39 81 33 20th R4 R2 ไบรอัน ร็อบสัน 11
1967–68 Div 1 42 13 15 14 54 67 41 10th R3 R2 Wyn Davies 12
1968–69 Div 1 42 15 14 13 61 55 44 9th R4 R3 อินเตอร์ซิตีแฟร์สคัพ - W ไบรอัน ร็อบสัน 30
1969–70 Div 1 42 17 13 12 57 35 47 7th R3 R2 อินเตอร์ซิตีแฟร์สคัพ - QF ไบรอัน ร็อบสัน 25
1970–71 Div 1 42 14 13 15 44 46 41 12th R3 R2 อินเตอร์ซิตีแฟร์สคัพ - R2 ไบรอัน ร็อบสัน 10
1971–72 Div 1 42 15 11 16 49 52 41 11th R3 R3 มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ 26
1972–73 Div 1 42 16 13 13 60 51 45 9th R4 R3 มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ 19
1973–74 Div 1 42 13 12 17 49 48 38 15th RU R3 มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ 25
1974–75 Div 1 42 15 9 18 59 72 39 15th R4 QF มัลคอล์ม แม็คโดนัลล์ 27
1975–76 Div 1 42 15 9 18 71 62 39 15th QF RU แอลัน โกวลิง 30
1976–77 Div 1 42 18 13 11 64 49 49 5th R4 R4 มิกกี เบิร์น 17
1977–78 Div 1 42 6 10 26 42 78 22 21st R4 R2 ยูฟ่าคัพ - R2 มิกกี เบิร์น 16
1978–79 Div 2 42 17 8 17 51 55 42 8th R4 R2 ปีเตอร์ วิธ 16
1979–80 Div 2 42 15 14 13 53 49 44 9th R3 R2 แอลัน โชวเดอร์ 21
1980–81 Div 2 42 14 14 14 30 45 42 11th R5 R2 บ็อบบี ชินตัน 7
1981–82 Div 2 42 18 8 16 52 50 62 9th R4 R2 Imre Varadi 20
1982–83 Div 2 42 18 13 11 75 53 67 5th R3 R2 Imre Varadi 22
1983–84 Div 2 42 24 8 10 85 53 80 3rd R3 R2 เควิน คีแกน 28
1984–85 Div 1 42 13 13 16 55 70 52 14th R3 R3 ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ 17
1985–86 Div 1 42 17 12 13 67 72 63 11th R3 R3 ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ 19
1986–87 Div 1 42 12 11 19 47 65 47 17th R5 R2 Paul Goddard 13
1987–88 Div 1 40 14 14 12 55 53 56 8th R5 R3 ไมเคิล โอนีลล์ 13
1988–89 Div 1 38 7 10 21 32 63 31 20th R3 R2 Mirandinha 11
1989–90 Div 2 46 22 14 10 80 55 80 3rd R5 R3 มิกกี ควินน์ 34
1990–91 Div 2 46 14 17 15 49 56 59 11th R4 R2 มิกกี ควินน์ 20
1991–92 Div 2 46 13 13 20 66 84 52 20th R3 R3 เกวิน เพียร์คุกส์ 19
1992–93 Div 1 46 29 9 8 92 38 96 1st R5 R3 เดวิด เคลลีย์ 27
1993–94 Prem 42 23 8 11 82 41 77 3rd R4 R3 แอนดี โคล 41
1994–95 Prem 42 20 12 10 67 47 72 6th QF R4 ยูฟ่าคัพ - R2 แอนดี โคล 15
1995–96 Prem 38 24 6 8 66 37 78 2nd R3 R5 เลส เฟอร์ดินานด์ 29
1996–97 Prem 38 19 11 8 73 40 68 2nd R4 R4 RU ยูฟ่าคัพ - QF แอลัน เชียเรอร์ 28
1997–98 Prem 38 11 11 16 35 44 44 13th RU R5 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก - GR1 แอลัน เชียเรอร์
จอห์น บาร์นส
7
1998–99 Prem 38 11 13 14 48 54 46 13th RU R4 ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ - R1 แอลัน เชียเรอร์ 21
1999–2000 Prem 38 14 10 14 63 54 52 11th SF R3 ยูฟ่าคัพ - R3 แอลัน เชียเรอร์ 30
2000–01 Prem 38 14 9 15 44 50 51 11th R3 R4 แอลัน เชียเรอร์
โนลแบร์โต โซลาโน
คาร์ล คอร์ต
7
2001–02 Prem 38 21 8 9 67 30 71 4th QF R5 ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ - RU แอลัน เชียเรอร์ 27
2002–03 Prem 38 21 6 11 63 48 69 3rd R3 R3 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก - GR2 แอลัน เชียเรอร์ 25
2003–04 Prem 38 13 17 8 52 40 56 5th R4 R3 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก - QR3 แอลัน เชียเรอร์ 28
ยูฟ่าคัพ - SF
2004–05 Prem 38 10 14 14 47 57 44 14th SF R4 ยูฟ่าคัพ - QF แอลัน เชียเรอร์ 19
2005–06 Prem 38 17 7 14 47 42 58 7th QF R4 ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ - SF แอลัน เชียเรอร์ 14
2006–07 Prem 38 11 10 17 38 47 43 13th R3 R5 ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ - W โอบาเฟมี มาร์ตินส์ 17
ยูฟ่าคัพ - R2
2007–08 Prem 38 11 10 17 46 65 43 12th R4 R3 ไมเคิล โอเวน 13
2008–09 Prem 38 7 13 18 40 59 34 18th R3 R3 ไมเคิล โอเวน 10
2009–10 Cham
ชนะเลิศ รองชนะเลิศ เลื่อนชั้น ตกชั้น

แหล่งข้อมูลอื่น แก้