ริ้วขบวนในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ริ้วขบวนพระอิสริยยศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คณะกรรมการอำนวยการฯ พิจารณาเห็นชอบให้มีทั้งสิ้น 6 ริ้วกระบวน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

การฝึกซ้อมริ้วกระบวน แก้

ไฟล์:ฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระพี่นาง.jpg
การฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ในส่วนการซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศ คณะกรรมการอำนวยการฯ ได้มีฝึกการซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศขึ้น ได้ฝึกซ้อมในสถานที่จริง และเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศจริง โดยมี คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ทหารกองเกียรติยศ ทหารรักษาพระองค์ ข้าราชการ ข้าราชบริพาร ข้าหลวง สมาชิกราชสกุล โรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนวชิรวุธวิทยาลัย ได้ร่วมเดินฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศขึ้น แต่ส่วนริ้วกระบวนเชิญพระสรีรางคาร ในริ้วกระบวนสุดท้ายนั้นทหารม้ารักษาพระองค์ได้ร่วมฝึกซ้อมภายในกองทหารม้าและครั้งต่อไปได้ร่วมฝึกซ้อมในสถานที่จริง ซึ่งจะมี การฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศ มีดังนี้

  • วันที่ 12 และ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ได้มีการฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศ ในสถานที่จริง และเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศจริง โดยมี คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ทหารกองเกียรติยศ ทหารรักษาพระองค์ ข้าราชการ ข้าราชบริพาร ข้าหลวง สมาชิกราชสกุล นักเรียนเตรียมทหาร และนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ได้ร่วมเดินฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศครั้งนี้ด้วย ในริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศที่ 1-5
  • วันที่ 2 พฤศจิกายน ได้มีการฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศ ในสถานที่จริง และเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศจริง โดยมี คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ทหารกองเกียรติยศ ทหารรักษาพระองค์ ข้าราชการ ข้าราชบริพาร ข้าหลวง สมาชิกราชสกุล คณะรัฐมนตรี ทหาร ตำรวจ พลเรือน องค์กรเอกชน นักเรียนเตรียมทหาร และนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ได้ร่วมเดินฝึกซ้อมริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศครั้งนี้ด้วย ในริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศที่ 1-5

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชบัณฑูร ให้เปลี่ยนท่าเดินแบบสโลว์มาร์ช จากที่ต้องเตะเท้าและค้างจังหวะก้าวที่ใช้ในการซ้อมใหญ่ เป็นการสืบก้าวและไม่ต้องค้างจังหวะก้าว โดยโปรดเกล้าฯ เรียกวิธีเดินแบบนี้ว่า "การเดินเปลี่ยนสูงแบบสืบเท้า"[1]

นอกจากนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรและทรงร่วมซ้อมขบวนในวันซ้อมใหญ่ พร้อมกันนี้ มีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับเพลงที่ใช้ในพระราชพิธี ได้แก่ มีพระราชานุญาตให้บรรเลงเพลงปี่พาทย์นางหงส์ ในช่วงเคลื่อนพระโกศจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระยานมาศสามลำคาน ซึ่งในการซ้อมนั้นไม่มีการบรรเลงเพลงใดๆ และมีพระราชประสงค์ให้การบรรเลงเพลงพญาโศกระหว่างพระราชพิธีนั้นใกล้เคียงกับเมื่อครั้งงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมากที่สุด[2]

ริ้วขบวนที่ 1 แก้

ไฟล์:Phra yannamas sam lam khan with Princess Galyani Vadhana's royal urn - 2009-11-15.jpg
ริ้วขบวนที่ 1 อัญเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เลียบพระบรมมหาราชวังไปยังหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

ริ้วขบวนที่ 1 เชิญพระยานมาศสามลำคานออกจากพระบรมมหาราชวัง เคลื่อนออกไปตามถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายเข้าถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย โดยมีพระพรหมมุณี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร นั่งบนเสลี่ยงกลีบบัวอ่านพระอภิธรรมนำขบวน ตามด้วยเจ้าพนักงานประโคมดนตรี พระยานมาศสามลำคานประดิษฐานพระโกศ ขนาบด้วยเครื่องอภิรุมชุมสาย และเครื่องสูงทองแผ่ลวด ขบวนเสด็จของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขนาบด้วยผู้เชิญเครื่องสูง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อิสริยาภรณ์ เครื่องราชูปโภค และฉลองพระองค์ 4 พระองค์ กับ 13 ท่าน ซึ่งจะร่วมในขบวนเสด็จฯ ตลอดถึงริ้วขบวนที่ 3 ตามด้วยขบวนพระประยูรญาติ นอกจากนี้ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นอาทิ ได้เข้าร่วมในริ้วขบวนนี้ด้วย

เมื่อพระยานมาศสามลำคานเคลื่อนถึงบริเวณหน้าหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง ที่พระมหาพิชัยราชรถจอดรออยู่ ขบวนพระยานมาศจะเวียนซ้าย ริ้วขบวนที่ 1 จะเข้ารวมกับริ้วขบวนที่รออยู่แล้ว โดยต้นขบวนอยู่ที่กระทรวงกลาโหม ส่วนท้ายขบวนอยู่ที่โรงเรียนราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินไปพักคอย ณ พลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เจ้าพนักงานเชิญพระโกศเทียบท้ายเกรินบันไดนาค และเชิญสัปตปฎลเศวตฉัตรคันดาลอีกองค์หนึ่งติดตั้งที่ท้ายเกรินเพื่อกางกั้นพระโกศ พระพรหมมุณีลงจากพระเสลี่ยงกลีบบัวขึ้นราชรถน้อย จากนั้นพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงจากพลับพลายก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทอดผ้าไตร ณ ท้ายเกริน พระสงฆ์ 20 รูป สดับปกรณ์ แล้วเจ้าพนักงานภูษามาลาเข้าประจำท้ายเกริน และด้านหน้าและหลังพระมณฑปพระมหาพิชัยราชรถ (นายประชุม เอี่ยมสะอาด และนายจุลพล โตเมศ) เจ้าพนักงานเชิญพระโกศขึ้นสู่พระมหาพิชัยราชรถ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัยเมื่อพระโกศเข้าประดิษฐานที่พระมหาพิชัยราชรถแล้ว เจ้าพนักงานเลื่อนเกรินออกจากพระมหาพิชัยราชรถ ร.ต.อ. ธงชัย วัฒนกีวงศ์ สารถีพระมหาพิชัยราชรถ เข้าประจำที่หน้าพระมณฑป พลฉุดชักราชรถถวายบังคมพระโกศ เจ้าพนักงานคุมขบวนรัวกรับพวงให้สัญญาณครั้งที่หนึ่ง ริ้วขบวนกลับหลังหัน พลฉุดชักนำห่วงคล้องที่บ่า สัญญาณกรับครั้งที่สองพร้อมแตรเป่า เตรียมเคลื่อนริ้วขบวน สัญญาณกรับครั้งที่สามพร้อมแตรเป่า เคลื่อนริ้วขบวนที่ 2

ริ้วขบวนที่ 2 แก้

 
ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เคลื่อนจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ผ่านหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ไปยังมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง

ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระโกศ เคลื่อนไปตามถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ผ่านพลับพลายกหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ซึ่งสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เฝ้าฯ ถวายบังคมพระโกศ จากนั้นริ้วขบวนจะผ่านกระทรวงกลาโหม เข้าสู่ถนนกลางท้องสนามหลวง และเคลื่อนเข้ามณฑลพระราชพิธี โดยมีนักเรียนเตรียมทหาร 180 นาย ยืนเป็นแถวเกียรติยศรายทาง ริ้วขบวนประกอบด้วย ม้านำ 2 ม้า วงโยธวาธิตกองดุริยางค์ทหารบก บรรเลงเพลงพญาโศกลอยลม ตามด้วยกองพันทหาร จัดจากกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ และโรงเรียนนายเรืออากาศ ตามลำดับ ตามด้วยราชรถพระนำ มีพลฉุดชักรวม 74 นาย นักเรียนเตรียมทหาร 280 นาย เป็นชาวพนักงานกลองชนะ พระมหาพิชัยราชรถ ขนาบด้วยเครื่องอภิรุมชุมสาย และเครื่องสูงทองแผ่ลวด มีพลฉุดชักจากกรมสรรพาวุธทหารบก 221 นาย ตามด้วยขบวนเสด็จฯ ขบวนข้าราชการ ทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พระประยูรญาติ สมาชิกในราชสกุลในราชวงศ์จักรี ข้าราชบริพารในพระองค์ฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิในพระองค์ฯ ตามด้วยขบวนนิสิต นักศึกษา นักเรียนจากสถาบันการศึกษา 8 สถาบัน เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น ตามด้วยกองพันทหารอีก 5 กองพัน จัดจากกองพันทหารม้าที่ 1 กองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 1 กองพันทหารช่างที่ 1 กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน และกองพันทหารอากาศโยธินที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารอากาศโยธินรักษาพระองค์ ปิดริ้วขบวน

ริ้วขบวนที่ 3 แก้

ไฟล์:Phra yannamas sam lam khan with Princess Galyani Vadhana's royal urn at phra meru - 2009-11-15.jpg.jpg
ริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระยานมาศสามลำคาน เวียนรอบพระเมรุโดยอุตราวัฎ 3 รอบ

ริ้วขบวนที่ 3 เคลื่อนเวียนโดยอุตราวัฎ (เวียนซ้าย) รอบพระเมรุ 3 รอบ ริ้วขบวนนำโดยเสลี่ยงกลีบบัวเชิญพระสวดพระอภิธรรม พระยานมาศสามลำคาน ตามด้วยขบวนเสด็จฯ พระประยูรญาติ ข้าราชบริพารในพระองค์ฯ และสมาชิกราชสกุล ระหว่างเคลื่อนริ้วขบวน ทหารปืนใหญ่ยิงสลุดถวายนาทีละ 1 นัด เมื่อเคลื่อนขบวนครบสามรอบแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งทรงธรรม พลแบกหามเคลื่อนพระยานมาศเทียบสะพานเกรินทางทิศใต้ของพระเมรุ เจ้าพนักงานเคลื่อนพระโกศมายังท้ายเกริน แล้วเลื่อนเกรินเชิญพระโกศสู่พระจิตกาธานภายในพระเมรุ จากนั้นเจ้าพนักงานภายในพระเมรุปิดพระวิสูตร (ม่าน) และพระฉาก เปลื้องพระโกศทองใหญ่เพื่อถวายการประกอบพระโกศจันทน์ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ขึ้นสู่พระเมรุ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระศพ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ[3]


ริ้วขบวนที่ 4 แก้

ไฟล์:Royal procession for Princess Galyani Vadhana's relics - 2008-11-16.jpg
ริ้วขบวนที่ 4 อัญเชิญพระอัฐิและพระราชสรีรางคารของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เคลื่อนจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง

ริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระอัฐิและพระสรีรางคารประดิษฐาน ณ พระบรมมหาราชวัง โดยเคลื่อนจากมณฑลพระราชพิธี ถนนกลางท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน เข้าสู่พระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี ริ้วขบวนเริ่มด้วยตำรวจม้า 2 นาย ธงสามชาย ประตูหน้า คู่แห่ทหารบก ทหารเรือ และ ทหารอากาศ รวม 276 นาย เครื่องประโคม ประกอบด้วยกลองชนะลายทอง ทอง และเงิน จ่าปี่ จ่ากลอง แตรฝรั่ง สังข์ เจ้าพนักงานประโคมกลองชนะจัดจากนักเรียนเตรียมทหาร 200 นาย พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอประเวศวัง ขนาบด้วยเครื่องอภิรุมชุมสายและเครื่องสูงทองแผ่ลวด ขบวนเสด็จของพระบรมวงศ์ ขบวนเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เครื่องราชูปโภค และเครื่องประกอบพระอิสริยยศ และขบวนของสมาชิกในราชสกุล

เมื่อริ้วขบวนถึงพระบรมมหาราชวังจะแยกเป็นสองสาย คือ สายพระราเชนทรยาน เคลื่อนผ่านประตูพิมานไชยศรี พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่เกยพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท และสายพระวอประเวศวัง เคลื่อนผ่านประตูกำแพงแก้ว วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อนำพระผอบพระสรีรางคารประดิษฐาน ณ พระศรีรัตนเจดีย์ เมื่อขบวนสายพระราเชนทรยานถึงเกยพระที่นั่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระที่นั่งสมทบกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงคอยอยู่ จากนั้น เจ้าพนักงานเชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินตาม จากนั้นเจ้าพนักงานเชิญประดิษฐานบนบุกษกทองบนพระแท่นสุวรรณเบญจดล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องสักการะพระอัฐิ ทรงกราบพร้อมกับพระบรมวงศ์ที่ตามเสด็จ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ[4]

ริ้วขบวนที่ 5 แก้

ไฟล์:อัญเชิญพระอัฐิกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (3).jpg
ริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน ไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

ริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน ไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ประกอบด้วยเจ้าพนักงานเครื่องประโคม จัดจากนักเรียนเตรียมทหาร พระที่นั่งราเชนทรยานทรงพระอัฐิ ขนาบด้วยเครื่องสูงหักทองขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังพระยาน ขบวนเชิญเครื่องประกอบพระอิสริยยศราชูปโภค เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ขบวนเสด็จพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระบรมวงศานุวงศ์ และสมาชิกราชสกุล เมื่อริ้วขบวนยาตราถึงหน้าอัฒจันทร์มุขหน้าด้านตะวันออก พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เจ้าพนักงานเชิญพระอัฐิจากพระที่นั่งราเชนทรยานขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน (ยอดพระมหาปราสาทองค์กลาง) ชั้น 3 พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ ตามพระโกศขึ้นสู่พระวิมาน เมื่ออัญเชิญพระโกศประดิษฐานแล้ว พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินลงจากพระที่นั่ง เพื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับ[5]

ริ้วขบวนที่ 6 แก้

ไฟล์:เชิญพระสรีรางคารพระพี่นาง.jpg
ริ้วขบวนที่ 6 เชิญพระผอบพระสรีรางคารออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ริ้วขบวนที่ 6 เชิญพระผอบพระสรีรางคารออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย ถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เข้าสู่ถนนอัษฎางค์ ถนนราชบพิธ เทียบที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ริ้วขบวนประกอบด้วยขบวนทหารม้านำรวม 44 ม้า รถยนต์พระที่นั่งเชิญพระสรีรางคาร รถยนต์พระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และขบวนม้าตาม 33 ม้า เมื่อขบวนเทียบที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามแล้ว เจ้าพนักงานเชิญพระผอบประดิษฐานที่โต๊ะหมู่บูชาทอง ข้างพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรสในพระอุโบสถ โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตาม

อ้างอิง แก้

  1. ทรงให้เปลี่ยนท่าเดินในริ้วขบวน'พระศพ'สมเด็จพระพี่นางฯ[ลิงก์เสีย] จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เรียกดูข้อมูลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
  2. ทรงนำซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ[ลิงก์เสีย] จากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เรียกดูข้อมูลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
  3. การถ่ายทอดสด พระราชพิธีเชิญพระโกศ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ออกพระเมรุ โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
  4. การถ่ายทอดสด พระราชพิธีเก็บพระอัฐิ เชิญพระอัฐิและพระสรีรางคาร สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประดิษฐาน ณ พระบรมมหาราชวัง โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
  5. การถ่ายทอดสด พระราชพิธีเลี้ยงพระ และเชิญโกศพระอัฐิ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประดิษฐาน ณ พระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551