รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศเยเมน

บทความรายชื่อวิกิมีเดีย

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศเยเมนทั้งสิ้น 5 แหล่ง [1]

สถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แก้

*หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกโลก
สถานที่ ภาพ ที่ตั้ง ประเภท พื้นที่
ha (acre)
ปี (พ.ศ./ค.ศ.) หมายเหตุ อ้างอิง
เมืองเก่าที่มีป้อมปราการแห่งชิบาม     เยเมน
15°55′37″N 48°37′36″E / 15.92694°N 48.62667°E / 15.92694; 48.62667 (Old Walled City of Shibam)
วัฒนธรรม:
(iii) (iv) (v)
2525/1982 ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย [2]
เมืองเก่าซานา     เยเมน
15°21′20″N 44°12′29″E / 15.35556°N 44.20806°E / 15.35556; 44.20806 (Old City of Sana'a)
วัฒนธรรม:
(iv) (v) (vi)
2529/1986 ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย [3]
เมืองประวัติศาสตร์ซะบีด     เยเมน
14°11′53″N 43°19′48″E / 14.19806°N 43.33000°E / 14.19806; 43.33000 (Historic Town of Zabid)
วัฒนธรรม:
(ii) (iv) (vi)
2536/1993 ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย [4]
หมู่เกาะโซโคตรา     เยเมน
12°30′N 53°50′E / 12.500°N 53.833°E / 12.500; 53.833 (Socotra Archipelago)
ธรรมชาติ:
(x)
410,460 (1,014,300); พื้นที่กันชน 1,740,958 (4,302,000) 2551/2008 [5]
ภูมิสัญลักษณ์แห่งอาณาจักรซะบะอ์โบราณในมะอ์ริบ     เยเมน
15°25′36.8″N 45°20′06.8″E / 15.426889°N 45.335222°E / 15.426889; 45.335222 (Landmarks of the Ancient Kingdom of Saba, Marib)
วัฒนธรรม:
(iii) (iv)
2566/2023 ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย 1700[6]

สถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น แก้

ประเทศเยเมนมีสถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 10 แห่ง [1]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "World Heritage Properties in Yemen". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2015.
  2. "Old Walled City of Shibam". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2015.
  3. "Old City of Sana'a". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2015.
  4. "Historic Town of Zabid". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2015.
  5. "Socotra Archipelago". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2015.
  6. "Landmarks of the Ancient Kingdom of Saba, Marib". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 27 มกราคม 2023.