รัฐสภาไอร์แลนด์

รัฐสภาแห่งไอร์แลนด์ (ไอริช: Parlaimint na hÉireann) เป็นสภานิติบัญญัติอาณาจักรลอร์ดแห่งไอร์แลนด์ ซึ่งต่อมาคือราชอาณาจักรไอร์แลนด์ ตั้งแต่ปีค.ศ. 1297 จนถึงค.ศ. 1800 โดยมีรูปแบบมาจากรัฐสภาแห่งอังกฤษโดยตั้งแต่ค.ศ. 1537 เป็นต้นมาประกอบด้วยสองสภา ได้แก่ สภาขุนนาง และสภาสามัญชน เหล่าขุนนางนั้นเป็นสมาชิกในระบบบรรดาศักดิ์ (ขุนนางแห่งอาณาจักร) และบิชอป (ขุนนางแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งภายหลังการปฏิรูปศาสนาเรียกเป็น บิชอปแห่งศริสตจักรไอร์แลนด์) ส่วนสมาชิกสภาสามัญชนมาจากการเลือกตั้งทางตรงแต่มีข้อจำกัดมากมายในการให้สิทธิออกเสียง รัฐสภาไอร์แลนด์มีที่ทำการหลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ ไลนส์เตอร์ มันสเตอร์ และในช่วงหลังย้ายมาที่ดับลิน ในอาสนวิหารไครสต์เชิร์ช (ศตวรรษที่ 15)[1] ปราสาทดับลิน (จนถึงค.ศ. 1649) ชิเชสเตอร์เฮาส์ (ค.ศ. 1661-1727) โรงเรียนบลูโคท (ค.ศ. 1729-1731) และสุดท้ายได้ก่อสร้างที่ทำการรัฐสภาที่คอลเลจ กรีน[3]

รัฐสภาแห่งไอร์แลนด์

Parliament of Ireland
Parlaimint na hÉireann
ประเภท
ประเภท
องค์ประกอบสภาขุนนาง
สภาสามัญชน
ประวัติ
สถาปนาค.ศ. 1297
ยุบ31 ธันวาคม ค.ศ. 1800
ถัดมารัฐสภาสหราชอาณาจักร
ผู้บริหาร
การเลือกตั้ง
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากพระมหากษัตริย์ หรือบรรดาศักดิ์สืบตระกูล
ระบบแบ่งเขตคะแนนสูงสุด โดยจำกัดจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียง
ที่ประชุม
ที่ทำการรัฐสภา
ดับลิน
หมายเหตุ
ดูเพิ่ม:
รัฐสภาแห่งบริเตนใหญ่

พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1800 ได้รวมเอาราชอาณาจักรไอร์แลนด์กับราชอาณาจักรบริเตนใหญ่เข้าด้วยกันเป็นสหราชอาณาจักรแห่งบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ รัฐสภาของทั้งสองประเทศจึงได้รวมกันเป็นรัฐสภาสหราชอาณาจักร โดยมีที่ทำการ ณ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ โดยมีการเพิ่มจำนวนขุนนางและสมาชิกสภาสามัญชนของไอร์แลนด์เข้าไป

หมายเหตุ แก้

  1. ระบบสามสภา จนถึงปีค.ศ. 1537[1][2]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 Richardson 1943 p.451
  2. Bray 2006 pp.18, 52; "[1537 (28 Hen. 8) c. 12] An Act against proctors to be any member of the Parliament. Rot. Parl. cap. 19.". The Statutes at Large Passed in the Parliaments Held in Ireland. Vol. Vol.1: 1310–1612. B. Grierson. 1765. pp. 102–103. {{cite book}}: |volume= has extra text (help)
  3. Moody, Theodore William; Martin, Francis X.; Byrne, Francis John (2005). A New History of Ireland: Maps, genealogies, lists. Clarendon Press. p. 605. ISBN 9780198217459.