รัฐบาลเป่ย์หยาง
รัฐบาลเป่ย์หยาง[b] เป็นรัฐบาลสาธารณรัฐจีนที่ได้รับการรับรองในระดับสากลตั้งแต่ ค.ศ. 1912 ถึง ค.ศ. 1928 โดยตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งอยู่ภายใต้การครอบงำของนายพลแห่งกองทัพเป่ย์หยาง
สาธารณรัฐจีน | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1912–1928 | |||||||||||||||||
สาธารณรัฐจีนในระหว่าง ค.ศ. 1912–1928 | |||||||||||||||||
เมืองหลวง | ปักกิ่ง 39°54′N 116°23′E / 39.900°N 116.383°E | ||||||||||||||||
เมืองใหญ่สุด | เซี่ยงไฮ้ | ||||||||||||||||
ภาษาราชการ | จีนมาตรฐาน | ||||||||||||||||
การปกครอง | สหพันธรัฐแบบสาธารณรัฐระบบรัฐสภา (ค.ศ. 1912–1914, ค.ศ. 1916–1923, ค.ศ. 1924, ค.ศ. 1926–1927) สาธารณรัฐระบบประธานาธิบดี (ค.ศ. 1914–1916, ค.ศ. 1923–1924, ค.ศ. 1924–1926, ค.ศ. 1927–1928) รัฐภายใต้เผด็จการทหาร (ค.ศ. 1927–1928) | ||||||||||||||||
ประธานาธิบดี | |||||||||||||||||
• ค.ศ. 1912–1916 | ยฺเหวียน ชื่อไข่ (คนแรก) | ||||||||||||||||
• ค.ศ. 1927–1928 | จาง จั้วหลิน (คนสุดท้าย)[a] | ||||||||||||||||
นายกรัฐมนตรี | |||||||||||||||||
• ค.ศ. 1912 | ถัง เช่าอี๋ (คนแรก) | ||||||||||||||||
• ค.ศ. 1927–1928 | พัน ฟู่ (คนสุดท้าย) | ||||||||||||||||
สภานิติบัญญัติ | สมัชชาแห่งชาติ | ||||||||||||||||
• สภาสูง | วุฒิสภา | ||||||||||||||||
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร | ||||||||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||||||||
• การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของยฺเหวียน ชื่อไข่ | 10 มีนาคม ค.ศ. 1912 | ||||||||||||||||
• เปิดการประชุมสภานิติบัญญัติ | 8 เมษายน ค.ศ. 1913 | ||||||||||||||||
4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 | |||||||||||||||||
• เริ่มต้นการกรีธาทัพขึ้นเหนือ | 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1926 | ||||||||||||||||
4 มิถุนายน ค.ศ. 1928 | |||||||||||||||||
29 ธันวาคม ค.ศ. 1928 | |||||||||||||||||
สกุลเงิน | หยวนจีน | ||||||||||||||||
|
ชื่อ "เป่ย์หยาง" นั้นมาจากกองทัพเป่ย์หยาง (北洋軍) ของยฺเหวียน ชื่อไข่ (袁世凱) อดีตขุนศึกแห่งราชวงศ์ชิง (清朝) ที่ได้เป็นใหญ่ในทางการเมืองหลังราชวงศ์ล่มสลาย แม้รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีรัฐบาลพลเรือน แต่รัฐบาลพลเรือนก็ปกครองประเทศแต่ในนามเท่านั้น แม่ทัพนายกองจากทัพเป่ย์หยางเป็นผู้ควบคุมและดำเนินการปกครองที่แท้จริง กระนั้น ก็ได้รับการรับรองจากนานาชาติให้เป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมของประเทศ มีอำนาจใช้จ่ายและเรียกเก็บภาษีอากร ทั้งขอกู้ยืมเงินจากต่างชาติได้ ครั้นยฺเหวียน ชื่อไข่ สิ้นชีพลงใน ค.ศ. 1916 ทัพเป่ย์หยางก็ระส่ำระสาย เพราะแตกแยกออกเป็นหมู่เป็นเหล่าและช่วงชิงอำนาจกันเอง ต่อมาใน ค.ศ. 1917 พรรคชาตินิยม (國民黨) ของซุน ยัตเซ็น หรือซุน อี้เซียน (孫逸仙) ก็ออกหน้าคัดค้านความชอบธรรมของรัฐบาลเป่ย์หยาง จนเกิดสู้กันในการกรีธาทัพขึ้นเหนือ (北伐) เมื่อช่วง ค.ศ. 1926–1928 ผลลัพธ์ คือ รัฐบาลเป่ย์หยางกับกลุ่มอื่น ๆ พ่ายแพ้ และพรรคชาตินิยม ภายใต้การนำของเจียง ไคเช็ก หรือเจี่ยง เจี้ยฉือ (蔣介石) ที่สืบทอดตำแหน่งจากซุน อี้เซียน สามารถหลอมรวมประเทศเข้าเป็นหนึ่งได้อีกครั้งใน ค.ศ. 1928 พรรคชาตินิยมเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลชาตินิยมของตนขึ้นที่หนานจิง (南京) ระเบียบทางการเมืองเช่นนี้ทำให้ประเทศกลายเป็นรัฐที่มีพรรคการเมืองเดียว (one-party state) แต่ภายหลังก็ได้รับการรับรองจากชาติต่าง ๆ ให้เป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมของประเทศจีน