รอแดซ (ฝรั่งเศส: Rodez, ออกเสียง: [ʁɔdɛz] ( ฟังเสียง) หรือ [ʁɔdɛs] ( ฟังเสียง); อุตซิตา: Rodés, ออกเสียง: [ruˈðes]) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลักของจังหวัดอาแวรงของแคว้นอ็อกซีตานี ชาวเมืองรอแดซเรียกว่า "Ruthenois"

รอแดซ
ทิวทัศน์รอแดซ
ทิวทัศน์รอแดซ
ตราราชการของรอแดซ
ตราอาร์ม
ประเทศฝรั่งเศส
แคว้นอ็อกซีตานี
จังหวัดอาแวรง
เขตรอแดซ
อำเภอรอแดซ-1, รอแดซ-2 และ รอแดซ-ออแน
สหเทศบาลRodez Agglomération
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรี (2020–2026) Christian Teyssèdre[1] (PS)
พื้นที่111.18 ตร.กม. (4.32 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (มกราคม ค.ศ. 2018)2
24,319 คน
 • ความหนาแน่น2,200 คน/ตร.กม. (5,600 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+1 (CET)
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)UTC+2 (CEST)
รหัสอีนเซ/ไปรษณีย์12202 /12000
สูงจากระดับน้ำทะเล501–643 m (1,644–2,110 ft)
(avg. 627 m หรือ 2,057 ft)
1 ข้อมูลอาณาเขตที่ตามขึ้นทะเบียนไว้โดยไม่รวมทะเลสาบ, หนองน้ำ, ธารน้ำแข็งที่ขนาดใหญ่กว่า 1 ตารางกิโลเมตรตลอดจนปากแม่น้ำ 2 Population without double counting: residents of multiple communes (e.g., students and military personnel) only counted once.

ประวัติ แก้

รอแดซเป็นบริเวณที่มีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ที่ก่อตั้งโดยเคลต์ หลังจากการครองบครองโดยโรมัน รอแดซก็ได้รับชื่อว่า "เซโกดูนุม" (Segodunum) ระหว่างสมัยจักรวรรดิก็รู้จักกันในนาม "เมืองรูเตโนรุม" (Civitas Rutenorum) ที่เพี้ยนมาเป็นชื่อปัจจุบัน หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน วิซิกอทก็ยึดรอแดซ ต่อมาก็ถูกยึดโดยแฟรงก์ และถูกปล้นทำลายโดยอาหรับในปี ค.ศ. 725 หลังจากนั้นก็ถูกยึดครองโดยกองทัพของดยุกแห่งอากีแตนและเคานต์แห่งตูลูซ[2] ระหว่างสงครามร้อยปีก็ถูกยึดครองโดยกองทัพอังกฤษ

ระหว่างยุคกลางปัญหาใหญ่ของรอแดซคือความขัดแย้งระหว่างเคานต์แห่งรอแดซและบิชอปแห่งรอแดซผู้พยายามแสดงอำนาจในบริเวณต่าง ๆ ของเมืองที่แยกกันด้วยกำแพงเมือง เคานต์แห่งรอแดซสามารถต่อต้านอำนาจของพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสมาจนกระทั่งเคานต์จอห์นที่ 4 ยอมสวามิภักดิ์ต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 11 ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ศตวรรษต่อมาบิชอปฟร็องซัว เดแต็งก็ทำการก่อสร้างอาสนวิหารแม่พระแห่งรอแดซ

เคานต์คนสุดท้ายของรอแดซ อ็องรีที่ 6 ผู้ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอ็องรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศสขายบรรดาศักดิ์ให้เป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในปี ค.ศ. 1589 เมืองรอแดซยังคงรุ่งเรืองทางการค้าต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 แต่มาสูญเสียความสำคัญเมื่อวีลฟร็องช์-เดอ-รูแอร์ก ได้รับการยกขึ้นเป็นเมืองหลวงเมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสเริ่มขึ้น

สถานที่ท่องเที่ยว แก้

  • อาสนวิหารแม่พระแห่งรอแดซ เป็นอาสนวิหารที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่ติดกำแพงเมืองด้านตะวันตกทั้งหมดซึ่งเป็นกำแพงป้องกันเมือง ซึ่งทำให้มีลักษณะเหมือนป้อม
  • "ชาเปลนักบุญมาร์ติน"
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และโบราณคดี
  • โบสถ์แซ็ง-อาม็อง (สร้างคริสต์ศตวรรษที่ 12, สร้างใหม่ ค.ศ. 1758-ค.ศ. 1761) ภายในเป็นแบบบารอก บริเวณร้องเพลงสวดมีพรมทอแขวนผนังจากคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นภาพปาฏิหาริย์ของนักบุญอามานด์ นอกจากนั้นก็มีประติมากรรม "ปีเอตะ" และ "ตรีเอกภาพ" (คริสต์ศตวรรษที่ 16)
  • จวนบิชอป
  • Musée Denys-Puech - พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1903 โดยประติมากรDenys Puech ผู้ได้รับทุนการศึกษาปรีซ์เดอโรมในปี ค.ศ. 1884

เศรษฐกิจ แก้

รอแดซเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเกษตรกรรมมาแต่ดั้งเดิม

การคมนาคม แก้

รอแดซมีสนามบิน "สนามบินรอแดซ-มาร์ซียัก" ที่ตั้งอยู่ที่เมืองซาล-ลา-ซูร์ส

อื่น ๆ แก้

เมืองพี่เมืองน้อง แก้

อ้างอิง แก้

  1. "Répertoire national des élus: les maires". data.gouv.fr, Plateforme ouverte des données publiques françaises (ภาษาฝรั่งเศส). 2 December 2020.
  2. Genty, Roger. Les Comtes de Toulouse: Histoire et Traditions. Editions de Poliphile, 1987

แหล่งข้อมูลอื่น แก้