รถมือสอง เป็นรถที่ผ่านการเป็นเจ้าของมาแล้วมากว่า 1 ครั้ง รถมือสองมีจำหน่ายทั่วไปตาม เต็นท์รถมือสอง บริษัทรถเช่า แฟรนไชส์ของตัวแทนจำหน่ายรถใหม่ ผู้ขายมักจะมีการรับประกันให้เพิ่มเติมในบางส่วน รวมไปถึงบริการซ่อมบำรุงและอะไหล่ สำหรับการขายรถโดยเจ้าของรถเอง เรียกว่า รถบ้าน ซึ่งต่อมาผู้ขายเต๊นท์รถมักจะใช้คำว่า รถบ้าน แทนรถที่ผ่านการใช้งานเพียงเจ้าของเดียว

ประวัติ แก้

เอ็มไพร์สเตท มอเตอร์ แวกอน เป็นผู้จำหน่ายรถมือสองเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2441[1]

การโอนลอย แก้

การโอนลอยคือ เจ้าของรถได้ตกลงขายรถของตนให้กับผู้ซื้อ โดยมีการลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเรียบร้อย เช่น สัญญาซื้อขาย เอกสารการโอน หนังสือมอบอำนาจ ฯลฯ แต่ฝ่ายผู้ซื้อยังไม่ได้ทำการโอนกรรมสิทธิรถยนต์ที่ซื้อนั้นเป็นชื่อตัวเอง ยังใช้เป็นชื่อเจ้าของคนเก่า เพื่อจะลดค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมในการโอนหลายทอด โดยคนที่จะซื้อต่ออีกทอดเป็นผู้รับผิดชอบในการโอนกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตามภาระค่าธรรมเนียมก็ยังมักจะตกแก่ เต๊นท์รถ หรือเฟรนไซด์ตัวแทนจำหน่ายรถมือสอง นั้นเองโดยรวมอยู่ในราคาจำหน่ายรถมือสองดังกล่าวแล้วข้างต้น

เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขายรถมือสอง แก้

การซื้อหรือขายรถมือสอง จะมีการซื้อขาย 2 ส่วน ได้แก่ ตัวและ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวรถ รถจะถูกซื้อขายสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ มีการนำรถไปตรวจและโอนที่สถานีนนส่งแล้วเท่านั้น หากการโอนรถไม่สมบูรณ์ หรือ มีเพียงการโอนลอยไว้ ความรับผิดชอบจะตกเป็นของเจ้าของรถคนล่าสุด การซื้อขายรถจึงต้องให้ความสำคัญกับเอกสาร ดังนี้[2]

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (เจ้าของรถ)

2. สมุดคู่มือจดทะเบียน (เล่มสีฟ้า)

3. แบบคำขอโอนและรับโอน

4. สัญญาซื้อขาย

5. เอกสารประกันภัย (ถ้ามี)

6. หนังสือมอบอำนาจ

7. กุญแจสำรอง หรืออุปรกรณ์สำรองต่างๆ

8. สัญญาเช่าซื้อ (กรณีที่รถยังมีไฟแนนซ์)

9. อุปกรณ์เสริมต่างๆ ในรถ

อ้างอิง แก้

  1. Flammang, James M. (1999). 100 Years of the American Auto: Millennium Edition. Publications International. ISBN 9780785334842.
  2. "วิธี ขายรถมือสอง อยากขายรถ ต้องเตรียม อะไรบ้าง". Knowname Garage (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2022-03-23.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)