ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2019–20
ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2019–20 เป็นฤดูกาลที่ 49 ของการแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลในระดับรองของยุโรป ซึ่งจัดขึ้นโดย สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และเป็นฤดูกาลที่ 11 นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก ยูฟ่าคัพ มาเป็น ยูฟ่ายูโรปาลีก.
ไรน์เอแนร์กีชตาดีอ็อน ใน โคโลญ เป็นเจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศ | |
รายละเอียดการแข่งขัน | |
---|---|
วันที่ | 27 มิถุนายน – 29 สิงหาคม ค.ศ. 2019 (รอบคัดเลือก) 19 กันยายน ค.ศ. 2019 – 21 สิงหาคม ค.ศ. 2020 (รอบสุดท้าย) |
ทีม | 48+8 (รอบสุดท้าย) 158+55 (จาก 55 สมาคม) (จาก 55 สมาคม) |
อันดับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน | |
ชนะเลิศ | เซบิยา (สมัยที่ 6) |
รองชนะเลิศ | อินแตร์มิลาน |
สถิติการแข่งขัน | |
จำนวนนัดที่แข่งขัน | 197 |
จำนวนประตู | 548 (2.78 ประตูต่อนัด) |
ผู้ชม | 4,069,102 (20,655 คนต่อนัด) |
ผู้ทำประตูสูงสุด | บรูนู ฟือร์นังดึช (8 ประตู) |
โดย ยูฟ่ายูโรปาลีก นัดชิงชนะเลิศ 2020 จะแข่งขันกันที่ ไรน์เอแนร์กีชตาดีอ็อน ใน โคโลญ, ประเทศเยอรมนี. ทีมชนะเลิศของยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2019–20 จะได้รับสิทธิ์ในการเล่นพบกับทีมชนะเลิศของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 ใน ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2020. พวกเขาจะได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันอัตโนมัติสำหรับ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม, และถ้าพวกเขาจะได้ผ่านเข้าไปเล่นมาแล่วก่อนรอบสุดท้ายผ่านผลงานในลีกของพวกเขา, สิทธิ์ที่สงวนไว้จะถูกมอบให้กับทีมอันดับที่สามของ ลีกเอิง ฤดูกาล 2019–20 (แรน), สมาคมที่อยู่ในอันดับที่ 5 ตามการอ้างอิงถึงรายชื่อทีมที่ลงทะเบียนเข้าร่วมของฤดูกาลต่อไป.
ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (วีเออาร์) ระบบได้ถูกนำมาใช่ในการแข่งขันตั้งแต่รอบแพ้คัดออกเป็นต้นไป.[1]
ในฐานะแชมป์เก่าของยูโรปาลีก, เชลซี ได้เข้าไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20, แม้ว่าพวกเขาจะได้ผ่านเข้าไปเล่นมาแล่วก่อนรอบสุดท้ายผ่านผลงานในลีกของพวกเขา. พวกเขาไม่สามารถไปป้องกันตำแหน่งแชมป์ของพวกเขาได้ในฐานะที่พวกเขาได้ทะลุเข้าสู่ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแพ้คัดออก.
ผลกระทบจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา
แก้เนื่องมาจากอัตราที่ผันผวนไปของการแพร่เชื้อของ โควิด-19 ข้ามหลายประเทศในทวีปยุโรปในช่วงเวลาของ รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ละคู่ในเลกแรก, แต่ละนัดที่แตกต่างกันจะได้รับผลกระทบในเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป. เนื่องมาจากความรุนแรงของโรคนี้ การระบาดทั่วของไวรัสโคโรนาในประเทศอิตาลี พ.ศ. 2563 ในเวลานี้, เกมที่เกี่ยวข้องกับ อินแตร์มิลาน และ โรมา ได้ถูกเลื่อนออกไป,[2] ในขณะที่แต่ละเกมที่เป็นเจ้าภาพในประเทศกรีซ, เยอรมนี, และออสเตรีย ได้ไปข้างหน้าต่อแต่ลงเล่นหลังปิดประตูสนามแข่งขัน.[3] แต่ละเกมที่เป็นเจ้าภาพในประเทศตุรกีและสกอตแลนด์ ได้เดินหน้าต่อตามปกติ. เมื่อวันที่ 15 มีนาคม, ยูฟ่าได้ประกาศออกมาว่าจะไม่มีการประกบคู่เตะในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกที่สองจะไปข้างหน้าต่อในสัปดาห์ต่อไป, เลื่อนการแข่งขันของพวกเขาออกไปเรื่อยๆ,[4] กับคณะทำงานที่ได้มีกำหนดให้จัดตารางการแข่งขันใหม่ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล.[5] เมื่อวันที่ 23 มีนาคม มีการเปิดเผยว่า ชตาดิโอน อีเนร์กา กดัญสก์ ใน กดัญสก์, ประเทศโปแลนด์ จะไมได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีกต่อไปใน การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ, ซึ่งตามกำหนดเดิมจะเป็นวันที่ 27 พฤษภาคม, แต่จะจัดในการเป็นเจ้าภาพ นัดชิงชนะเลิศปี 2021 เข้ามาแทนที่.[6]
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน มีการเปิดเผยว่ายูโรปาลีกจะรีเทิร์นกลับมาแข่งขันกันต่อในวันที่ 5 สิงหาคมและมีบทสรุปสุดท้ายในวันที่ 21 สิงหาคม,[7] กับช่วงพักแข่งขันของทัวร์นาเมนต์ที่จะจัดขึ้นในประเทศเยอรมนี.[8] ส่วนที่เหลือของการแข่งขันจะลงเล่นในสไตล์มินิ-ทัวร์นาเมนต์กับโปรแกรมการแข่งขันที่เหลืออยู่ที่จะลงเล่นในรูปแบบเลกเดียวของแต่ละคู่ยกเว้นสำหรับโปรแกรมการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในขณะที่เลกแรกมีการลงเล่นไปบ้างแล้ว.[9] คู่ที่เหลือทั้งหมดของการแข่งขันจะลงเล่นปิดประตูสนามแข่งขันเนื่องจาก การปรากฏตัวที่เหลืออยู่ของ การระบาดทั่วของไวรัสโคโรนาในทวีปยุโรป พ.ศ. 2563.[10]
สนามแข่งขันรอบสุดท้าย
แก้โคโลญ | ดืสบวร์ค |
---|---|
ไรน์เอแนร์กีชตาดีอ็อน (สนามแข่งขันของ รอบชิงชนะเลิศ) |
เอ็มเอ็สเฟา-อาเรนา |
ความจุ: 49,698 | ความจุ: 31,514 |
ดึสเซิลดอร์ฟ | เก็ลเซินเคียร์เชิน |
แมร์คัวร์ชปีล-อาเรนา | อาเรนาเอาฟ์ชัลเคอ |
ความจุ: 54,600 | ความจุ: 62,271 |
ทีมที่มีคุณสมบัติเข้าการแข่งขัน
แก้ทีมสโมสรทั้งหมด 215 ทีมจากทั้งหมด 55 สมาชิกสมาคมของแต่ละประเทศ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2019–20 โดยการจัดอันดับของแต่ละสมาคมขึ้นอยู่กับค่าสัมประสิทธิ์ยูฟ่าซึ่งจะถูกใช้ในการกำหนดจำนวนทีมที่จะเข้าร่วมในแต่ละสมาคม โดยมีคุณสมบัติดังนี้
- สมาคมฟุตบอลจากประเทศอันดับ 1–51 (ยกเว้นลิกเตนสไตน์) แต่ละสมาคมจะมีสามทีมที่มีคุณสมบัติเข้าการแข่งขัน
- สมาคมฟุตบอลจากประเทศอันดับ 52–54 แต่ละสมาคมจะมีสองทีมที่มีคุณสมบัติเข้าการแข่งขัน
- ลิกเตนสไตน์และคอซอวอ (สมาคมที่ 55) จะมีทีมเดียวที่มีคุณสมบัติเข้าการแข่งขัน (ลิกเตนสไตน์จัดการแข่งขันเฉพาะถ้วยในประเทศเท่านั้นและไม่มีลีกในประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ส่วนกรณียิบรอลตาร์เป็นไปตามการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารยูฟ่า)[11]
- นอกเหนือจากนั้น, 57 ทีมที่ตกรอบมาจากยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 คือย้ายมาสู่ยูโรปาลีก
อันดับสมาคมฟุตบอลของแต่ละประเทศ
แก้สำหรับยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2019–20 แต่ละสมาคมจะได้รับการจัดอันดับตาม ค่าสัมประสิทธิ์แต่ละประเทศของยูฟ่าในปี 2018 ซึ่งคำนวณจากการทำผลงานแข่งขันระดับสโมสรยุโรปตั้งแต่ฤดูกาล 2013–14 ถึงฤดูกาล 2017–18.[12]
นอกเหนือจากการจัดสรรซึ่งจะยึดเป็นหลักในการคิดค่าสัมประสิทธิ์ประเทศ, สมาคมอาจจะมีทีมที่เข้าร่วมในยูโรปาลีก, ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง:
- (CL) – ทีมเพิ่มเติมที่โยกย้ายมาจาก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
- (EL) – สิทธิ์ที่ถูกยกเลิกเนื่องจากแชมป์เก่ายูโรปาลีกได้ลงเล่นในแชมเปียนส์ลีก
|
|
|
ทีม
แก้ข้อความในวงเล็บคือวิธีการที่แต่ละทีมเข้ามาแข่งในรอบนั้นๆ
- อันดับที่ : อันดับในลีก
- CW: ผู้ชนะฟุตบอลถ้วย
- LC: ผู้ชนะลีกคัพ
- RW: ผู้ชนะฤดูกาลปกติ
- PW: ผู้ชนะการแข่งขันเพลย์ออฟยุโรปหลังจบฤดูกาล
- UCL: ย้ายมาจากแชมเปียนส์ลีก
- GS: ทีมอันดับสามจากรอบแบ่งกลุ่ม
- PO: ผู้แพ้จากรอบเพลย์ออฟ
- Q3: ผู้แพ้จากรอบคัดเลือกรอบสาม
- Q2: ผู้แพ้จากรอบคัดเลือกรอบสอง
- Q1: ผู้แพ้จากรอบคัดเลือกรอบแรก
- PR: ผู้แพ้จากรอบเบื้องต้น
กลึบบรึคเคอ (UCL GS) | ชัคตาร์ดอแนตสก์ (UCL GS) | เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค (UCL GS) | ไบฟีกา (UCL GS) |
โอลิมเบียโกส (UCL GS) | ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน (UCL GS) | อินเตอร์มิลาน (UCL GS) | อายักซ์ (UCL GS) |
เส้นทางแชมเปียนส์ | เส้นทางหลัก | ||
---|---|---|---|
พีเอโอเค (UCL Q3) | เซลติก (UCL Q3) | ||
โคเปนเฮเกน (UCL Q3) | มารีบอร์ (UCL Q3) | ||
คาราบัก (UCL Q3) | เฟเรนส์วาโรช (UCL Q3) |
เส้นทางแชมเปียนส์ | เส้นทางหลัก | ||
---|---|---|---|
มัคคาบี เทล อาวีฟ (UCL Q2) | นูมเมคาลยู (UCL Q2) | สปาร์ตัค มอสโก (อันดับที่ 5) | ไฟเยอโนร์ด (อันดับที่ 3) |
อาอีคอ (UCL Q2) | ซุตเยสกา นิคชิช (UCL Q2) | บรากา (อันดับที่ 4) | อาเอก เอเธนส์ (อันดับที่ 3) |
บาเต บอรีซอฟ (UCL Q2) | ซาบูร์ตาโล ทบิลีซี (UCL Q2) | มาริอูปอล (อันดับที่ 4) | ริเยกา (CW) |
เอชเจเค (UCL Q2) | วัลเล็ตตา (UCL Q2) | อันท์เวิร์ป (PW)[Note BEL] | มิดทิลลันด์ (CW) |
ดันดอล์ก (UCL Q2) | เดอะนิวเซนส์ (UCL Q2) | แทรบซอนสปอร์ (อันดับที่ 4) | บีไน เยฮูดา (CW) |
ซาราเยโว (UCL Q1)[Note UCL Q1] | ออสเตรีย เวียน (อันดับที่ 4) | วิกตอเรีย เปิลเซน (UCL Q2) | |
ธูน (อันดับที่ 4) | เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน (UCL Q2) | ||
สปาร์ตาปราก (อันดับที่ 3) |
One team not playing a national top division will take part in the competition; Vaduz (representing Liechtenstein) played in 2018–19 Swiss Challenge League, which is Switzerland's 2nd tier.
- หมายเหตุ
- ^ Albania (ALB): Skënderbeu would have qualified for the Europa League first qualifying round as the fourth-placed team of the 2018–19 Albanian Superliga, but were banned from entering UEFA competitions.[13] As a result, the berth was given to the sixth-placed team of the league, Laçi, since the fifth-placed team of the league, Flamurtari, failed to obtain a UEFA licence.[14]
- ^ Belgium (BEL): KV Mechelen would have qualified for the Europa League group stage as the winners of the 2018–19 Belgian Cup, but were found guilty on match-fixing as part of the 2017–19 Belgian football fraud scandal, and thus prohibited by the Royal Belgian Football Association to take part in the 2019–20 European competitions. Mechelen appealed the decision,[15] but the final ruling was announced on 17 July 2019 by the Belgian Arbitration Court for Sports, and KV Mechelen remained banned,[16] and were subsequently replaced by UEFA.[17] As a result, the third-placed team of the 2018–19 Belgian First Division A, Standard Liège, entered the group stage instead of the third qualifying round, the Europa League play-off winners of the league, Antwerp, entered the third qualifying round instead of the second qualifying round, and the second qualifying round berth was given to the fifth-placed team of the league, Gent.[18]
- ^ Bosnia and Herzegovina (BIH): Željezničar would have qualified for the Europa League first qualifying round as the fourth placed team of the 2018–19 Premier League of Bosnia and Herzegovina, but failed to obtain a UEFA licence.[19] As a result, the berth was given to the fifth-placed team of the league, Radnik Bijeljina.
- ^ Italy (ITA): Milan qualified for the Europa League group stage as the fifth-placed of the 2018–19 Serie A, but were found guilty of breaching Financial Fair Play rules and were excluded from competing in European competitions in 2019–20.[20] As a result, the sixth-placed team of the 2018–19 Serie A, Roma, entered the group stage instead of the second qualifying round, and the second qualifying round berth was given to the seventh-placed team of the league, Torino.
- ^ Lithuania (LTU): Stumbras would have qualified for the Europa League first qualifying round as the fourth placed team of the 2018 A Lyga, but had their UEFA licence stripped.[21] As a result, the berth was given to the fifth-placed team of the league, Kauno Žalgiris.[22]
- ^ North Macedonia (MKD): Vardar would have qualified for the Europa League first qualifying round as the runners-up of the 2018–19 Macedonian First Football League, but failed to obtain a UEFA licence.[23] As a result, the berth was given to the fifth-placed team of the league, Makedonija GP.
- ^ Republic of Ireland (IRL): Waterford would have qualified for the Europa League first qualifying round as the fourth-placed team of the 2018 League of Ireland Premier Division, but were ruled by UEFA to have not passed the "three-year rule" as the club were reformed in 2016.[24] As a result, the berth was given to the fifth-placed team of the league, St Patrick's Athletic.
- ^ Champions League (UCL Q1): Sarajevo were drawn to receive a bye to the third qualifying round, as one fewer loser from the Champions League first qualifying round were transferred to the Europa League second qualifying round (Champions Path), due to a Champions League group stage berth vacated by the Champions League title holders.
กำหนดการในแต่ละวันและแต่ละรอบ
แก้ตารางของการแข่งขันเป็นไปตามนี้ (การจับสลากทั้งหมดจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ยูฟ่าในเมือง นียง, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น).[25]
เฟส | รอบ | วันจับสลาก | เลกแรก | เลกที่สอง |
---|---|---|---|---|
การคัดเลือก | รอบเบื้องต้น | 11 มิถุนายน ค.ศ. 2019 | 27 มิถุนายน ค.ศ. 2019 | 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 |
รอบคัดเลือกรอบแรก | 18 มิถุนายน ค.ศ. 2019 (เส้นทางแชมเปียนส์) 19 มิถุนายน ค.ศ. 2019 (เส้นทางลีก) |
11 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 | 18 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 | |
รอบคัดเลือกรอบสอง | 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 | 1 สิงหาคม ค.ศ. 2019 | ||
รอบคัดเลือกรอบสาม | 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 | 8 สิงหาคม ค.ศ. 2019 | 15 สิงหาคม ค.ศ. 2019 | |
การเพลย์ออฟ | รอบเพลย์ออฟ | 5 สิงหาคม ค.ศ. 2019 | 22 สิงหาคม ค.ศ. 2019 | 29 สิงหาคม ค.ศ. 2019 |
รอบแบ่งกลุ่ม | นัดที่ 1 | 30 สิงหาคม ค.ศ. 2019 (โมนาโก) |
19 กันยายน ค.ศ. 2019 | |
นัดที่ 2 | 3 ตุลาคม ค.ศ. 2019 | |||
นัดที่ 3 | 24 ตุลาคม ค.ศ. 2019 | |||
นัดที่ 4 | 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 | |||
นัดที่ 5 | 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 | |||
นัดที่ 6 | 12 ธันวาคม ค.ศ. 2019 | |||
รอบแพ้คัดออก | รอบ 32 ทีมสุดท้าย | 16 ธันวาคม ค.ศ. 2019 | 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 | 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 |
รอบ 16 ทีมสุดท้าย | 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 | 12 มีนาคม ค.ศ. 2020 | 5–6 สิงหาคม ค.ศ. 2020[a] | |
รอบก่อนรองชนะเลิศ | 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2020[b] | 10–11 สิงหาคม ค.ศ. 2020[c] | ||
รอบรองชนะเลิศ | 16–17 สิงหาคม ค.ศ. 2020[d] | |||
รอบชิงชนะเลิศ | 21 สิงหาคม ค.ศ. 2020 ที่ RheinEnergieStadion, Cologne[e] |
- ↑ Round of 16 second legs originally scheduled for 19 March 2020
- ↑ Quarter-final, semi-final and final draws originally scheduled for 20 March 2020
- ↑ Quarter-final first legs originally scheduled for 9 April, and second legs 16 April 2020
- ↑ Semi-final first legs originally scheduled for 30 April, and second legs 7 May 2020
- ↑ Final originally scheduled for 27 May 2020
แต่ละนัดในการคัดเลือก (รวมไปถึงเบื้องต้นและเพลย์ออฟ) และรอบแพ้คัดออกจะลงเล่นในทุกวันอังคารและทุกวันพุธแทนที่จะเป็นวันพฤหัสบดีตามปกติเนื่องมาจากปัญหาความคาดเคลื่อนเรื่องโปรแกรมการแข่งขัน.
รอบเบื้องต้น
แก้ในรอบเบื้องต้น, แต่ละทีมจะถูกแบ่งออกเป็นทีมวางและทีมที่ไม่ได้เป็นทีมวางซึ่งขึ้นอยู่กับค่าสัมประสิทธิ์สโมสรยูฟ่า ปี ค.ศ. 2019,[26] และจากนั้นถูกจับสลากอยู่ในระบบเหย้าและเยือนสองนัด. ทีมที่มาจากสมาคมเดียวกันจะไม่ถูกนำมาจับสลากมาพบกันได้.
การจับสลากสำหรับรอบเบื้องต้นได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 13:00 CEST.[27] นัดแรกจะลงเล่นในวันที่ 27 มิถุนายน, และนัดที่สองในวันที่ 2 และ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562.
ทีมแรก | ผล | ทีมที่สอง | นัดแรก | นัดที่สอง |
---|---|---|---|---|
พรอเกรส ไนเดอร์คอร์น | 2–2 (ย) | คาร์ดิฟฟ์ เมโทรโปลิแทน ยูนิเวอร์ซิตี | 1–0 | 1–2 |
ลา ฟิออริตา | 1–3 | เอนกอร์ดานี | 0–1 | 1–2 |
ซันต์ จูลิอา | 3–6 | ยูโรปา | 3–2 | 0–4 |
บอลลีเมนา ยูไนเต็ด | 2–0 | เอ็นเอสไอ รูนาวิค | 2–0 | 0–0 |
พริชตินา | 1–3 | เซนต์ โจเซฟส์ | 1–1 | 0–2 |
เคไอ คลาคส์วิค | 9–1[A] | เทร ฟิออรี | 5–1 | 4–0 |
แบร์รี ทาวน์ ยูไนเต็ด | 0–4 | คลิฟตันวิลล์ | 0–0 | 0–4 |
หมายเหตุ
- ↑ Order of legs reversed after original draw.
รอบคัดเลือก
แก้ในรอบคัดเลือกและรอบเพลย์ออฟ, แต่ละทีมจะถูกแบ่งอยู่ในกลุ่มทีมวางและกลุ่มทีมที่ไม่ได้เป็นทีมวางซึ่งขึ้นอยู่กับปี ค.ศ. 2019 ค่าสัมประสิทธิ์สโมสรยูฟ่า (สำหรับเส้นทางหลัก),[26] หรือขึ้นอยู่กับบางรอบที่พวกเขาได้สิทธิ์เข้าแข่รอบจาก (สำหรับเส้นทางแชมเปียนส์), และจากนั้นถูกจับสลากอยู่ในระบบสองนัดเหย้าและเยือน.
รอบคัดเลือกรอบแรก
แก้การจับสลากสำหรับรอบคัดเลือกรอบแรกได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 15:30 CEST.[28] นัดแรกจะลงเล่นในวันที่ 9, 10 และ 11 กรกฎาคม, และนัดที่สองในวันที่ 16, 17 และ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562.
หมายเหตุ
รอบคัดเลือกรอบสอง
แก้นัดแรกจะลงเล่นในวันที่ 23, 24 และ 25 กรกฎาคม, และนัดที่สองในวันที่ 30, 31 กรกฎาคม และ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562.
ทีมแรก | ผล | ทีมที่สอง | นัดแรก | นัดที่สอง |
---|---|---|---|---|
ซาราเยโว | บาย | N/A | N/A | N/A |
เทร เพนเน | 0–10 | ซูดูวา | 0–5 | 0–5 |
ปัสต์กลีวิตเซ | 4–4 (ย) | ริกา | 3–2 | 1–2 |
ปาร์ติซานี | 1–2 | เชริฟฟ์ ตีรัสปอล | 0–1 | 1–1 |
อารารัต-อาร์เมเนีย | 4–1 | ลินคอล์น เรด อิมป์ส | 2–0 | 2–1 |
วาลูร์ | 1–5 | ลูโดโกเรตส์ รัซกราด | 1–1 | 0–4 |
สโลวาน บราติสลาวา | 4–1 | เฟโรนิเคลี | 2–1 | 2–0 |
ซานตาโคโลมา | 1–4 | อัสตานา | 0–0 | 1–4 |
เอชเบทอร์สเฮาน์ | 2–3 | ลินฟีลด์ | 2–2 | 0–1 |
ชคืนดิยา | 2–3 | เอฟ91 ดูเดแลงก์ | 1–2 | 1–1 |