ยูกิโอะ ฮาโตยามะ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ยูกิโอะ ฮาโตยามะ (ญี่ปุ่น: 鳩山由紀夫; โรมาจิ: Hatoyama Yukio) (11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 — ) นายกรัฐมนตรีคนที่ 93 ของประเทศญี่ปุ่น และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น นายฮาโตยามะได้รับคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552 หลังชนะคู่แข่ง พรรคเสรีประชาธิปไตย ในการเลือกตั้ง ส.ส. ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ปีเดียวกัน ด้วยจำนวน 309 ต่อ 119 ที่นั่ง จากจำนวนที่นั่งในสภาทั้งหมด 480 ที่นั่ง
ยูกิโอะ ฮาโตยามะ 鳩山由紀夫 | |
---|---|
![]() | |
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น | |
ดำรงตำแหน่ง 16 กันยายน พ.ศ. 2552 – 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิอากิฮิโตะ |
ก่อนหน้า | ทาโร อาโซ |
ถัดไป | นาโอโตะ คัง |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 เขตบุงเกียว โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น |
ศาสนา | ศาสนาคริสต์นิกายแบปติสต์[1] |
พรรคการเมือง | พรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น |
คู่สมรส | มิยูกิ ฮาโตยามะ |
นายฮาโตยามะเกิดในครอบครัวนักการเมือง โดยปู่ของเขา (นายอิจิโร ฮาโตยามะ) เคยเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงปี พ.ศ. 2497-2499 และบุคคลในครอบครัวหลายคนก็เป็นนักการเมือง โดยทวดของเขา (คาซูโอะ ฮาโตยามะ) เคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร พ่อของเขา (อีจิโร ฮาโตยามะ) เคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และน้องชายของเขา (คูนิโอะ ฮาโตยามะ) เคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของยูกิโอะและน้องชาย ได้รับการสนับสนุนจากมารดา คือ นางยาซูโกะ ฮาโตยามะ ซึ่งเป็นบุตรสาวของโชจิโร อิชิบาชิ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัท บริดจสโตน บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งของโลก
นายฮาโตยามะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโตเกียว และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เริ่มเข้าสู่วงการการเมืองด้วยการเป็น ส.ส. ของพรรคเสรีประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ. 2529 ต่อมาได้ลาออกและก่อตั้งพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น และได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา
ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับนางมิยูกิ อดีตนักแสดง มีบุตรชายคือ นายคีจิโร ฮาโตยามะ
นายฮาโตยามะได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เนื่องจากไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะผลักดันให้ย้ายฐานทัพสหรัฐออกจากเกาะโอกินาวะ
อ้างอิง แก้
- ↑ Gheddo, Piero. "Japan turning the page, closer to the Church's social doctrine". Asia News. สืบค้นเมื่อ 27 December 2012.
แหล่งข้อมูลอื่น แก้
- เว็บไซต์ทางการ (ญี่ปุ่น)