มือปืน (ภาพยนตร์)

(เปลี่ยนทางจาก มือปืน)

มือปืน (อังกฤษ: Gunman) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวอาชญากรรม ออกฉายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 กำกับโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล นำแสดงโดยสรพงศ์ ชาตรี แสดงเป็นมือปืนขาเป๋ชื่อจ่าสมหมาย

มือปืน
กำกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
อำนวยการสร้างบริษัท ซี.เอส.พี. โปรดักชั่น จำกัด
นักแสดงนำ
บริษัทผู้สร้าง
วันฉาย1 กรกฎาคม พ.ศ. 2526
ประเทศไทย
ภาษาไทย

ภาพยนตร์เรื่อง มือปืน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 7 โดยคว้ารางวัลตุ๊กตาทองไปถึง 5 ตัวมากที่สุดในปีนั้นคือ ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ตัดต่อลำดับภาพยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และสุพรรณหงส์ทองคำ 4 ตัว คือ ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม และบันทึกเสียงยอดเยี่ยม[1] นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่อง มือปืน ยังเป็น 1 ใน 100 ภาพยนตร์ไทยที่คนไทยควรดู

เนื้อเรื่อง

แก้

ฉากเปิดเรื่องของภาพยนตร์ เป็นมุมมองของชายคนหนึ่งบนมอเตอร์ไซค์ตอนกลางคืน ชายคนนั้นลงจากจักรยานยนต์ เดินเข้าไปในร้านกาแฟ ยิงลูกค้าคนหนึ่งด้วยปืนพกจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ต่อไป

ฉากนี้ตัดไปที่ผู้คนที่อยู่แถวนั้นที่กำลังสัมภาษณ์ถึงหน้าตาของชายคนนี้ คำอธิบายนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ยกเว้นสิ่งเดียว – ชายคนนี้เดินขาเป๋

จากนั้นตำรวจกำลังออกตามหาผู้ที่เดินขาเป๋ พวกเขาจับกุมชายคนหนึ่งที่กำลังเดินบนถนนพร้อมถือกระเป๋าเอกสาร ในขณะที่เขากำลังพยายามจับกุมชายคนดังกล่าว กระเป๋าเอกสารของเขาก็เปิดออก ทำให้ของข้างในซึ่งเป็นของเล่นทางเพศตกลงบนทางเท้า เนื่องจากสิ่งของดังกล่าวผิดกฎหมายในประเทศไทยชายคนดังกล่าวจึงถูกจับกุม

ที่แผงหนังสือพิมพ์ใกล้ ๆ มีชายอีกคนเห็นเหตุการณ์จับกุม เขาหันหลังแล้วเดินออกไปแบบคนขาเป๋ เขาคือมือปืนและชื่อจ่าสมหมาย หลังจากที่สูญเสียขาข้างหนึ่งในการสู้รบให้กับหน่วยรบพิเศษของไทยในสงครามลับที่ลาวปัจจุบัน จ่าสมหมายทำงานเป็นช่างตัดผมในร้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในชุมชนริมคลองชานเมืองกรุงเทพฯ

วันหนึ่งสมหมายกำลังตัดผมอยู่ จู่ ๆ ลูกชายตัวน้อยของเขากลับถูกกลุ่มเด็กข้างบ้านรุมทำร้ายบนสะพานเดินเท้าที่อยู่ใกล้ ๆ พวกเขากำลังเยาะเย้ยเด็กชายว่ามีพ่อขาเป๋และไม่มีแม่ สมหมายต้องออกจากร้านเพื่อไปดูแลลูกชายทำให้ลูกค้าโกรธ

หลังจากเด็กเกเรในละแวกนั้นถูกไล่ไปแล้ว ลูกชายของสมหมายก็ล้มลงและเริ่มมีอาการชักบางอย่าง แพทย์ในพื้นที่ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอและแนะนำให้ดูแลที่บ้าน สมหมายมีปัญหาเพราะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวและจำเป็นต้องทำงาน เขาก็เลยต้องหาคนอื่นมาดูแลลูกชายแทน เขาถามภรรยาเก่าซึ่งทิ้งสมหมายไปหลังจากที่เขาเสียขาไป เธอปฏิเสธ แต่นิด น้องสาวของอดีตภรรยาของเขาก็เห็นด้วยทันที ทั้งสองและเด็กชายก็ผูกพันกันเป็นครอบครัว

ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนในกรุงเทพฯ ต่างก็รายงานข่าวเกี่ยวกับฮีโร่ตำรวจอย่าง สารวัตรธนู หรือที่รู้จักกันในชื่อ มือดำ จากถุงมือหนังสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ที่เขาสวมไว้เวลาจับปืน เขาสร้างชื่อเสียงในด้านที่น่ากลัว แม้ว่าการวิสามัญที่เขาอ้างว่าเป็นผลงานของลูกน้องของเขา ส่วนใหญ่มักจะเป็นฝีมือของเขา ธนูก็มีปัญหาทางบ้านเพราะมีภรรยาที่ไม่เข้าใจ

หมวดแฉล้ม ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของธนู ได้สืบสวนเหตุยิงปืนของมือปืนขาเป๋ด้วยตนเอง และจากการทำงานอย่างเป็นระบบ เขาก็สรุปได้ว่ามือปืนน่าจะเป็นอดีตทหาร ซึ่งทำให้สามารถจำกัดผู้ต้องสงสัยลงได้มาก แฉล้มสงสัยสมหมายทันที แต่ธนูพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปที่คดีอื่น

ปรากฏว่าธนูเป็นหัวหน้าของสมหมายในสงครามลับ และด้วยการกระทำที่ขี้ขลาดของธนู ทำให้สมหมายถูกทิ้งให้อยู่บนสนามรบโดยที่ขาข้างหนึ่งขาด ก่อนที่จะถูกฝ่ายปะเทดลาวจับตัวไป ขณะที่ธนูและลูกน้องที่เหลือหลบหนีไปยังที่ปลอดภัยด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไม่ว่าอย่างไร ธนูก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับลูกน้องเก่าของเขาอีก ธนูถึงขั้นไปเยี่ยมสมหมายที่ร้านตัดผมของเขา และบอกให้สมหมายไปซ่อนตัว

อาการป่วยของลูกชายของสมหมายเริ่มทรุดลง แพทย์อีกคนกล่าวว่าสาเหตุคือเนื้องอกที่ก้านสมองและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลต่างประเทศอาจช่วยชีวิตเด็กชายคนนี้ได้ ตอนนี้สมหมายตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องรับงานลอบสังหารเพิ่มมากขึ้น คนขี่มอเตอร์ไซค์ของเขาเป็นคนใบ้ชื่อขัน และทั้งสองยังวางแผนจะรับงานเพิ่มอีก

หมวดแฉล้มไม่เชื่อฟังคำสั่งของธนูที่ให้ห่างจากสมหมาย และยังสั่งให้คนติดตามทุกความเคลื่อนไหวของสมหมายอีกด้วย หลังจากยิงพลาดเป้า ทำให้เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ธนุก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อสมหมายอีกต่อไป

จากนั้นธนูได้รับการแต่งตั้งให้เฝ้าจับตาดูแลรัฐมนตรีคนสำคัญของรัฐบาล สมหมายรับงานสังหารรัฐมนตรีคนหนึ่ง และทำสำเร็จ ขัน เพื่อนที่เป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ของเขาทรยศเขา แต่สมหมายสามารถจัดการฆ่าขันได้ จากนั้นเขาก็ไปหานายหน้าของเขา ขณะที่นายหน้าของเขากับชายอีกคนกำลังวางแผนฆ่าสมหมาย เขารับเงินและฆ่าชายทั้งสองคนทิ้ง

จากนั้นสมหมายก็ไปโรงพยาบาลเพื่อรับลูกชายของเขา ทีมของธนูกำลังรอเขาอยู่ แต่สมหมายจับธนูเป็นตัวประกัน โดยใช้ปืนอัตโนมัติจ่อที่ศีรษะของธนู ทำให้เขาสามารถขอคำสัญญาจากนายกรัฐมนตรีว่า นิดและลูกชายของเขาจะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ หลังจากนิดมาถึงสนามบินและรับรองกับสมหมายผ่านวิทยุสื่อสารว่าเธอจะไม่เป็นไร สมหมายก็ยอมมอบตัวและยื่นปืนให้ธนู ซึ่งรับปืนมาแล้วเล็งไปที่หลังของสมหมาย แต่ก็วางปืนลง อย่างไรก็ตาม แฉล้มเล็งปืนและยิงขณะที่ธนูตะโกนว่า “ไม่!” ทำให้สมหมายเสียชีวิต

นักแสดง

แก้
อดีตหน่วยรบพิเศษในสงครามเวียดนามและทหารผ่านศึกในสงครามกลางเมืองลาวที่ผันตัวมาเป็นมือปืนรับจ้างเพื่อเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวและน้องเมียของเขา

งานสร้าง

แก้

ฉากเปิดถ่ายทำโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ด้วยพระองค์เอง ซึ่งใช้กล้องมือถือถ่ายขณะขี่มอเตอร์ไซค์ ถ่ายทำเสร็จใน 3 เทค "หลังจาก 3 เทค ฉันจะไม่ทำอีก มันค่อนข้างเสี่ยง เมื่อคุณลงจากมอเตอร์ไซค์ คุณต้องเดินเข้าไปในร้านกาแฟ ยิงชายคนนั้นแล้วเดินกลับ กลับไปที่มอเตอร์ไซค์โดยที่ตาของคุณอยู่ที่ช่องมองภาพ คุณต้องดึงโฟกัสเองทั้งหมด” พระองค์บอกกับผู้สัมภาษณ์ โธมัส ริชาร์ดสัน ในปี พ.ศ. 2536[2] หรือ 10 ปีหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย

ฉากเฮลิคอปเตอร์ในฉากย้อนอดีตสงครามลับ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าลอกเลียนมาจากเรื่องพลาทูนของโอลิเวอร์ สโตน ซึ่งอันที่จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำและเข้าฉายในปี พ.ศ. 2529 สามปีหลังจากเรื่องมือปืนเข้าฉาย ฉากดังกล่าวโฟกัสไปที่สมหมายที่อยู่บนพื้นขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังบินขึ้นสู่อากาศ

อ้างอิง

แก้
  1. มือปืน
  2. Richardson, Thomas (1993). "Interview with Chatrichalerm Yukol". Cornell University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-10-30. สืบค้นเมื่อ 2007-07-18.