มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสทรีส์
มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสทรีส์ (ญี่ปุ่น: 三菱重工業株式会社; โรมาจิ: มิสึบิชิจูโกเงียว คาบูชิกิไคฉะ) เป็นบริษัทข้ามชาติทางด้านอุตสาหกรรมหนักและวิศวกรรมของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งบริษัทในเครือมิตซูบิชิ ปัจจุบันผลิตตั้งแต่ ยานอวกาศ, ขีปนาวุธ, จรวด, ตอร์ปิโด, อากาศยาน, รถหุ้มเกราะ, เครื่องยนต์, ชิ้นส่วนยานยนต์, รถยก, อุปกรณ์ไฮโดรลิก, หุ่นยนต์, เรือพลเรือน, เรือรบ, เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ในปี 2015 ได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 27 ของญี่ปุ่น [1] ทั้งนี้ในยุคจักรวรรดิญี่ปุ่น บริษัทแห่งนี้ถือเป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีบทบาทสำคัญในการสร้างชาติญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งบริษัทหลักใน ไซบัตสึ
ประเภท | มหาชน ร่วมทุน |
---|---|
การซื้อขาย | TYO: 7011 |
ISIN | JP3900000005 |
อุตสาหกรรม | วิศวกรรม อวกาศยาน อากาศยาน ป้องกันประเทศ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1964 (จากการควบรวม) |
ผู้ก่อตั้ง | อิวาซากิ ยาตาโร |
สำนักงานใหญ่ | เขตมินาโตะ กรุงโตเกียว |
พื้นที่ให้บริการ | ทั่วโลก |
บุคลากรหลัก | ฮิเดะอะกิ โอมิยะ (ประธานกรรมการ) ชุนอิชิ มิยะนะงะ (ประธานบริหาร) |
รายได้ | 3.992 ล้านล้านเยน (FY2015) |
รายได้สุทธิ | 1.104 แสนล้านเยน (FY2015) |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 2.656 ล้านล้านเยน |
พนักงาน | 80,583 คน (2014) |
บริษัทแม่ | มิตซูบิชิกรุ๊ป |
เว็บไซต์ | www |
ประวัติ
แก้ในปี 1884 อิวาซากิ ยาตาโร ผู้ก่อตั้งมิตซูบิชิ ได้เช่าโรงเหล็กในเมืองนางาซากิจากรัฐบาลญี่ปุ่น และได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงงานเครื่องจักรกลและอู่ต่อเรือนางาซากิ
ในปี 1887 ยาตาโรสามารถซื้อที่ดินในโยโกฮามะได้สำเร็จ โรงงาน Mitsubishi Heavy Industries - Yokohama Machinery Works จึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้ชื่อ บริษัทอู่เรือโยโกฮามะ งานหลักคือการซ่อมบำรุงเรือ ต่อมาในปี 1893 โรงงานแห่งนี้ก็เปลี่ยนชื่อเป็น อู่ต่อเรือมิตซูบิชิของมิตซูบิชิโกะชิไคฉะ
ในปี 1905 ได้มีการจัดตั้ง อู่ต่อเรือโคเบะ ของมิตซูบิชิโกะชิไคฉะ ขึ้นที่โคเบะ
ในปี 1914 ได้มีการตั้งโรงงาน Mitsubishi Heavy Industries - Shimonoseki Shipyard & Machinery Works ขึ้นที่เมืองชิโมะโนะเซะกิ ผลิตเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมและเรือขนส่งสินค้า[2]
ในปี 1917 บริษัทในนางาซากิได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อู่ต่อเรือและวิศวกรรมมิตซูบิชิ จำกัด และในปี 1934 ก็ควบรวมกับบริษัทในโคเบะ และเปลี่ยนเป็นชื่อ มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสทรีส์ และกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นยุคนั้น ผลิตทั้งเรือ, เครื่องบินใบพัด, รถราง, เครื่องจักรกลหนัก ต่อมาในปี 1935 ก็มีการผนวกบริษัทอู่ต่อเรือโยโกฮามะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท[3]
ภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสทรีส์ได้แตกออกเป็นสามบริษัท คือบริษัทมิตซูบิชินางาซากิกลายเป็นบริษัท เวสต์เจแปนเฮฟวีอินดัสทรีส์, อู่ต่อเรือในนางาซากิกลายเป็น บริษัทวิศวกรรมและอู่ต่อเรือมิตซูบิชิ[4] และอู่ต่อเรือในโคเบะกลายเป็นบริษัท เซ็นทรัลเจแปนเฮฟวีอินดัสทรีส์[5]ต่อมาในปี 1964 บริษัททั้งสามแห่งได้ควบรวมเป็นบริษัทเดียว ภายใต้ชื่อ มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ ในการนี้ โรงงานในโคเบะถูกเปลี่ยนเป็นชื่อ Mitsubishi Heavy Industries - Kobe Shipyard & Machinery Works[6]
อ้างอิง
แก้- ↑ 2015 Global 2000: The World's Largest Banks Forbes
- ↑ Shimonoseki Shipyard & Machinery Works. "Outline". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-07. สืบค้นเมื่อ 2011-02-28.
- ↑ Yokohama Machinery Works. "Outline". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-07. สืบค้นเมื่อ 2011-02-28.
- ↑ Nagasaki Shipyard & Machinery Works. "History". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-07. สืบค้นเมื่อ 2011-02-28.
- ↑ Kobe Shipyard & Machinery Works. "Brief History". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-07. สืบค้นเมื่อ 2011-03-02.
- ↑ Kobe Shipyard & Machinery Works. "Outline". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-07. สืบค้นเมื่อ 2011-02-28.